ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

ครึ่งชั่วยามกว่าให้หลัง เซียวฉีเร่งม้ามาถึงหน้าสนามฝึกตะวันตก

เขาจับจ้องกระโจมค่ายแถบใหญ่เบื้องหน้าที่ตั้งตามแนวตีนเขาของเขาฝูหลวน เอ่ยถามองครักษ์กวงหมิงข้างกาย “แน่ใจนะว่าคนเข้าไปในค่ายชั่วคราวของทัพเขตเหนือ”

องครักษ์กวงหมิงพิทักษ์เมืองนายหนึ่งพยักหน้า “เห็นเขาไปทางนี้แน่ๆ ขอรับ เพียงแต่ตอนพวกเราไล่ตามไป คนก็หายไปแล้ว” เขาลังเลเล็กน้อย กล่าวอีกว่า “ไม่เห็นกับตาว่าเข้าไปในค่ายหรือไม่ขอรับ”

เซียวฉีเอ่ยสีหน้าเคร่งขรึม “ช่างเถิด ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเข้าไปค้นดูสักหน่อย เรื่องนี้สำคัญยิ่ง เซี่ยจิ่นน่าจะยังไว้หน้าข้าบ้าง”

เขานำคนเดินไปที่ปากประตูสนามฝึก เอ่ยบอกสถานการณ์กับทหารเฝ้าประตูอย่างชัดเจน ทั้งแสดงป้ายทองพระราชทานของรองผู้บัญชาการหน่วยองครักษ์กวงหมิง ทหารเฝ้าประตูจึงได้แต่ปล่อยคนเข้าไป เอ่ยว่า “คืนนี้แม่ทัพเซี่ยอยู่ในค่ายพอดี ข้าจะให้คนไปรายงาน”

เซียวฉีพยักหน้า “แม่ทัพเซี่ยก็อยู่หรือ เช่นนั้นดียิ่ง เดี๋ยวข้าไปหาเขาเอง”

กระโจมกลางของเซี่ยจิ่นตั้งอยู่ท่ามกลางกระโจมเล็กใหญ่มากมายในพื้นที่สูงต่ำลดหลั่นกันตรงตีนเขา ผ่านสนามฝึกกว้างไปแล้วเดินเลียบไปตามแนวเขาอีกช่วงหนึ่งก็คือค่ายชั่วคราวของทัพเขตเหนือ

เวลานี้การฝึกตอนเย็นสิ้นสุดแล้ว ในค่ายเงียบสงบ พลทหารล้วนอยู่ในกระโจมของตน ด้านนอกมีเพียงทหารถือดาบลาดตระเวนไปมาไม่กี่นายอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

เซียวฉีมาถึงหน้ากระโจมกลาง ทหารที่ได้รับข่าวก่อนหน้าแล้วเห็นเขามาถึงก็เลิกม่านกระโจมขึ้นสูง

เขาก้าวเข้าไปในกระโจม เซี่ยจิ่นซึ่งนั่งวาดแผนที่อยู่รีบลุกขึ้นมา

เซียวฉีประสานหมัดคารวะ “ข้าขอคารวะแม่ทัพเซี่ย” เขากล่าวพลางตวัดสายตามอง เซี่ยจิ่นสวมเพียงเสื้อคลุมสีขาวตัวเดียว ผมแม้มัดอยู่แต่เส้นผมหลุดลุ่ย บนแก้มยังมีสีแดงที่ยังไม่จางหาย จึงรีบเอ่ยว่า “รบกวนเวลาพักของท่านแม่ทัพแล้ว ขออภัยอย่างยิ่ง”

“ไม่เป็นไร” เซี่ยจิ่นตอบรับ ยิ้มน้อยๆ กล่าว “ใต้เท้าเซียวไม่ต้องเกรงใจ ข้ารู้เรื่องจากทหารเฝ้าประตูแล้ว หากไม่รังเกียจใต้เท้าเซียวก็พักอยู่ในกระโจมข้าสักหน่อย ให้ผู้ติดตามไปค้นหาก็พอ” กล่าวจบก็กำชับฉีหมิงเยวี่ยที่อยู่ข้างกาย “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป ให้ทุกคนออกมาจากกระโจมให้หมด ให้ความร่วมมือการตรวจค้นขององครักษ์กวงหมิง ห้ามละเว้นทุกกระโจม ทุกเรื่องให้ทำตามที่องครักษ์กวงหมิงสั่ง มิเช่นนั้นจะถือว่ามีความผิด!”

ฉีหมิงเยวี่ยรับคำสั่งแล้วจากไป เซียวฉีรีบกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณแม่ทัพเซี่ยที่ให้ความร่วมมือ”

เซี่ยจิ่นเชิญเซียวฉีนั่งลงแล้วสั่งให้คนยกชาเข้ามา ยิ้มกล่าว “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ ถึงกับต้องรบกวนใต้เท้าเซียวเชียวรึ”

เซียวฉีถอนหายใจคราหนึ่ง มองซ้ายมองขวาเห็นไม่มีใครก็โน้มตัวลงมา เอ่ยเสียงเบาข้างหูเซี่ยจิ่น “ไม่กี่วันก่อนกรมทหารพบว่าเอกสารสำคัญหายไปสองสามฉบับ ไม่ปิดบังแม่ทัพเซี่ย เป็นแผนที่จัดวางกำลังป้องกันของด่านจี้อวิ๋นที่แนวหน้าเขตตะวันตก”

เซี่ยจิ่นตกใจ “ใครใจกล้าถึงเพียงนี้”

เซียวฉีส่งเสียงชู่คราหนึ่ง “แม่ทัพเซี่ยเบาเสียงหน่อย! เรื่องนี้จะหลุดออกไปภายนอกไม่ได้เด็ดขาด”

เขาเอ่ยต่อ “ตอนนี้ข้ายังหาต้นสายปลายเหตุไม่เจอ จึงได้แต่เพิ่มการสอดส่องรอบๆ เรือนพักทูต คืนก่อนพวกเราจับพิราบสื่อสารได้ตัวหนึ่งนอกเรือนพักทูต เป็นพิราบสื่อสารที่ทูตเอ้ออวิ๋นจากคณะส่งเจ้าสาวของซีเหลียงปล่อยออกมา บนจดหมายมีการนัดพบคนที่หอเฟยเยวี่ย พวกเราเดาว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นคนที่ขโมยแผนที่จัดวางกำลังป้องกันนี้”

เซี่ยจิ่นพยักหน้า “มากกว่าครึ่งคงไม่ผิด แผนที่จัดวางกำลังป้องกันของด่านจี้อวิ๋นเป็นสิ่งที่แคว้นซีเหลียงต้องการแน่นอน”

“ใช่หรือไม่เล่า” เซียวฉีเอ่ยรับ “เพียงแต่น่าเสียดาย คนมาหอเฟยเยวี่ยแล้ว พวกเรากลับจับไม่ได้ คนผู้นี้ปราดเปรียวยิ่ง”

เซี่ยจิ่นรินชาให้เขาพลางกล่าวปลอบ “ลำบากใต้เท้าเซียวแล้ว ท่านรออย่างวางใจเถอะ พื้นที่ของข้าติดแนวเขา ทั้งไม่อาจปิดเขาทั้งลูกได้ ยากจะบอกได้จริงๆ ว่ามีคนลอบเข้ามาหรือไม่”

เซียวฉียิ้มขื่น “แม่ทัพเซี่ยไม่ต้องกังวล ข้าได้ส่งคนหน่วยหนึ่งไปค้นที่หลังเขาแล้ว”

เซี่ยจิ่นเอ่ยชม “ใต้เท้าเซียวกระทำการรอบคอบ อยากให้ข้าส่งคนไปช่วยหรือไม่”

“เช่นนั้นก็ขอรบกวนท่านแม่ทัพแล้ว” เซียวฉีรีบกล่าว

เซี่ยจิ่นจึงเรียกคนเข้ามาอีกครั้ง หลังสั่งความรอบหนึ่งก็มาสนทนากับเซียวฉีต่อ

ทั้งสองพูดคุยเรื่อยเปื่อยอยู่ในกระโจม ดื่มน้ำชาไปสองกาเต็มๆ แล้ว จากนั้นองครักษ์กวงหมิงก็เข้ามารายงาน กล่าวว่าไม่พบคนน่าสงสัย

เซี่ยจิ่นเอ่ยถาม “ดูบนร่างทุกคนแล้วหรือ ทุกกระโจมล้วนค้นหมดแล้ว?”

องครักษ์กวงหมิงผู้นั้นกล่าว “ล้วนดูหมดแล้วขอรับ ทั้งไม่มีใครมีแผลที่เพิ่งถูกธนูยิงบนไหล่ กระโจมในค่ายก็ค้นจนทั่วแล้ว เหลือเพียง…” พูดพลางเหลือบมองม่านกระโจมชั้นในของกระโจมใหญ่นี้ของเซี่ยจิ่น ความนัยในคำพูดคือเหลือเพียงกระโจมชั้นในของกระโจมกลางนี้ที่ยังไม่ได้ค้น

สีหน้าของเซี่ยจิ่นเปลี่ยนไปเล็กน้อย ลุกขึ้นยิ้มกล่าว “ในเมื่อค้นจนหมดแล้ว ใต้เท้าเซียวคิดว่าองครักษ์กวงหมิงจะถอนตัวกลับไปได้หรือยัง”

องครักษ์กวงหมิงผู้นั้นมองเซียวฉีคราหนึ่ง เซียวฉีเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปเมื่อครู่ของเซี่ยจิ่นอยู่ก่อนแล้ว เขาส่งสายตาไปให้ผู้ใต้บังคับบัญชา แล้วยิ้มพลางลุกขึ้นยืนเช่นกัน

องครักษ์กวงหมิงนายนั้นพุ่งตัวไปหน้ากระโจมชั้นใน ขณะจะยื่นมือไปเลิกม่านก็พลันตาลาย เงาร่างคนผู้หนึ่งพุ่งเข้ามาขวางเบื้องหน้า ทั้งยังคว้าแขนที่ยื่นออกไปของเขาไว้

ชั่วขณะหนึ่งบรรยากาศในกระโจมเปลี่ยนเป็นตึงเครียดทันควัน

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in คืนลมพัดต้องเหมยงาม

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com