ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 5-6

เซี่ยจิ่นสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเย็นเยียบ เอ่ยเย็นชาว่า “อะไรกัน องครักษ์กวงหมิงไม่มีมารยาทเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร กระโจมชั้นในคือที่พักของข้า หรือพวกเจ้าจะสงสัยข้าด้วย” ว่าพลางเปิดเสื้อของตนออก เผยลาดไหล่เกลี้ยงเกลาครู่หนึ่งก่อนปิดสาบเสื้อกลับไป

เซียวฉีแสร้งกระแอมคราหนึ่ง ใบหน้าเปื้อนยิ้มกล่าว “แม่ทัพเซี่ยเข้าใจผิดแล้ว วันนี้ขอบคุณในความร่วมมือของท่านมาก แต่ยังคงขอให้ร่วมมือจนถึงที่สุด กระโจมชั้นในของท่านนี้พวกเราได้ดูสักหน่อยก็กลับไปรายงานได้แล้วไม่ใช่หรือ”

สีหน้าเซี่ยจิ่นคล้ำเขียว ปล่อยแขนขององครักษ์กวงหมิงผู้นั้นแล้วเอ่ยเสียงเย็นเยียบ “ใต้เท้าเซียวอยากดูจริงหรือ”

เซียวฉีจ้องมองเขา พยักหน้าช้าๆ

เซี่ยจิ่นส่งเสียงหยัน เปิดม่านเป็นร่องเล็กน้อยด้วยตนเอง เอ่ยว่า “ข้างในคือภรรยาข้า ใต้เท้าเซียวอยากเข้าไปพิสูจน์ฐานะแท้จริงหรือไม่”

เซียวฉีเดินไปหน้าม่านชั้นในและมองผ่านร่องม่านเข้าไป เห็นเพียงบนเตียงข้างในมีหญิงผู้หนึ่งปล่อยผมยาวสยายกำลังนอนอยู่ นางคล้ายหลับลึกมาก แขนเปลือยเปล่าข้างหนึ่งเผยออกมานอกผ้าห่ม กระทั่งหัวไหล่กลมมนครึ่งหนึ่งก็ถูกผมดำปกคลุมเลือนราง

ในใจเซียวฉีสะดุ้งตกใจ ขณะกำลังถอยออกมา องครักษ์กวงหมิงผู้นั้นทางด้านหลังก็ยื่นหัวเข้ามา เซียวฉีกดเขาไปอีกด้าน ตวาดว่า “เจ้าคนไม่รู้ดีชั่ว นี่ใช่สิ่งที่เจ้ามองได้หรือ!”

เขาด่าว่าจบแล้วก็ประสานมือคารวะเซี่ยจิ่นพลางยิ้มกล่าว “ล่วงเกินแล้วๆ ข้าน้อยเลินเล่อ ไม่รู้ว่าแม่ทัพเสิ่นอยู่ที่นี่ ขอแม่ทัพเซี่ยโปรดอภัย!”

เซี่ยจิ่นปล่อยม่านลง เพียงยิ้มบางๆ แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะเบื้องหน้า หยิบพู่กันหู ที่วางอยู่ข้างจานฝนหมึกขึ้นมา นัยส่งแขกชัดแจ้ง

เซียวฉีรีบเอ่ยคำพูดดีๆ อีกสองสามประโยคก่อนกล่าวอำลาเซี่ยจิ่นแล้วจากมา

องครักษ์กวงหมิงผู้นั้นตามอยู่ด้านหลังเซียวฉี เดินไปพลางถามไปด้วย “ใต้เท้าเซียว ข้างในเป็นแม่ทัพเสิ่นจริงหรือขอรับ”

เซียวฉีกล่าว “ไม่ใช่นางแล้วจะเป็นใคร เพิ่งแต่งงานกัน เซี่ยจิ่นยังไม่มีความกล้าพอจะพาหญิงอื่นมาในค่ายทหารหรอก”

องครักษ์กวงหมิงยิ้มกล่าว “ไม่ใช่บอกว่าแต่ไรมาแม่ทัพเซี่ยกับแม่ทัพเสิ่นไม่ถูกกันหรือขอรับ ดูเช่นนี้สองคนนี้กลับเป็นข้าวใหม่ปลามัน แยกกันไม่ได้แม้แต่เค่อเดียว”

“เจ้าจะเข้าใจอะไร” เซียวฉีสาวเท้าก้าวไปเบื้องหน้า “เรื่องอื่นอาจไม่ถูกกัน ไม่ได้หมายความว่าเรื่องบนเตียงจะไม่ถูกกันนี่ เจ้าไม่เห็นชุดที่แม่ทัพเซี่ยสวมหรือ ยังไม่พ้นยามซวีก็สวมชุดนอนแล้ว”

องครักษ์กวงหมิงผู้นั้นเผยสีหน้ากระจ่างแจ้ง หัวเราะกล่าวอย่างเจตนาไม่ดี “ไม่แน่ก่อนพวกเรามาถึง เขาสองคนอาจจะกำลัง…ไม่คิดว่าวันนี้ต้องมาพบเจอเรื่องพรรค์นี้ โอ๊ะ แย่จริง นี่หากเป็นพวกเราไปขัดขวางเรื่องดีของแม่ทัพเซี่ยเข้าแล้วจริงๆ ใต้เท้า ท่านว่าแม่ทัพเซี่ยผู้นี้จะเก็บแค้นไว้ในใจหรือไม่ขอรับ”

เซียวฉีหัวเราะหึ เอ่ยไล่ไปคำหนึ่ง “ไสหัวไป!”

 

เซี่ยจิ่นที่อยู่ในกระโจมได้ยินเสียงคนห่างออกไปแล้วก็ออกไปไล่ทหารยามให้จากไป เมื่อปิดม่านกระโจมดีแล้วจึงเข้าไปในกระโจมชั้นใน

เขาเดินไปถึงหน้าเตียง ปัดผมดำที่สยายบนไหล่คนบนเตียงออก เผยบาดแผลที่ปิดอยู่ใต้เส้นผม ส่ายหน้าพลางทอดถอนใจกล่าว “เจ้ามีใครสาปแช่งมาหรือไร ไม่ใช่ยามทำศึกแท้ๆ เหตุใดถึงบาดเจ็บไม่ได้หยุด”

เสิ่นเฉียนหัวเราะเบาๆ จากในผ้าห่ม นางพลิกตัวขึ้นนั่งพลางเอาผ้าห่มห่อตัวไว้ กล่าวว่า “เอาเสื้อผ้ามาให้สวมหน่อย”

เซี่ยจิ่นหยิบชุดตัวกลางของตนมาชุดหนึ่งแล้วคลุมให้นางจากด้านหลัง

เสิ่นเฉียนสวมเสื้อผ้าดีแล้วก็หันกลับไปถาม “เขาเห็นหัวไหล่ข้าหรือไม่”

เซี่ยจิ่นมุมปากกระตุก “เห็นแล้ว น่าจะไม่สงสัยเจ้าอีก เจ้าสามารถล้างข้อสงสัยได้แล้ว”

“ขอบคุณมาก” เสิ่นเฉียนเม้มปากยิ้ม “มีของกินหรือไม่”

“ตอนนี้ไม่มี” เซี่ยจิ่นกล่าวอย่างไม่เกรงใจ “บอกความจริงมาถึงจะมีให้กิน”

เสิ่นเฉียนกลอกตาใส่เขา “ไม่กินก็ไม่กิน ไม่ใช่ว่าไม่เคยหิวเสียหน่อย”

เซี่ยจิ่นหงุดหงิดในใจอยู่บ้าง ลุกขึ้นเหลือบมองนางพลางกล่าว “คิดจะไม่พูดใช่หรือไม่ เซียวฉีน่าจะยังไปไม่ไกล…”

เสิ่นเฉียนถลึงตาใส่เขาอย่างดุร้าย “เจ้ากล้าหรือ”

เซี่ยจิ่นหัวเราะคราหนึ่ง “ลองดูหรือไม่เล่า”

“เจ้าไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ เรียกเซียวฉีกลับมาไม่ใช่ทำให้เจ้ามีความผิดฐานซุกซ่อนคนร้ายหรือ” ใบหน้างามของเสิ่นเฉียนเคร่งขรึม แต่ดวงตากลับกะพริบปริบๆ

“เจ้าก็รู้หรือว่าตนเองเป็นคนร้าย” เซี่ยจิ่นส่ายหน้าถอนหายใจ “ข้าก็ไม่ได้ขอให้เจ้าซาบซึ้งรู้คุณ แค่พูดความจริงสักหน่อย มันมีอะไรยากหรือ”

เวลานี้ฉีหมิงเยวี่ยเอ่ยเรียกเสียงดังจากนอกกระโจม “ท่านแม่ทัพ”

เซี่ยจิ่นออกไปจากกระโจมชั้นใน เดินไปนั่งหน้าโต๊ะทำงาน “เข้ามา”

ฉีหมิงเยวี่ยนำกล่องอาหารใบหนึ่งเข้ามาแล้ว

เซี่ยจิ่นเอ่ยถามเขา “ตรงม้าจัดการเรียบร้อยหรือยัง”

ฉีหมิงเยวี่ยพยักหน้าน้อยๆ

เซี่ยจิ่นกล่าว “เจ้าไปเถอะ กลับจวนไปบอกพ่อกับแม่ข้าสักหน่อย และให้สาวใช้นำเสื้อผ้าของฮูหยินมาด้วยสองชุด ถ้าเจอคนที่ตรวจการห้ามออกจากบ้านยามวิกาล รู้ใช่หรือไม่ว่าต้องพูดอย่างไร”

ฉีหมิงเยวี่ยยิ้มกล่าว “รู้ขอรับ”

เซี่ยจิ่นถือกล่องอาหารแล้วเลิกม่านเดินเข้าไปในกระโจมชั้นใน เขาวางไว้บนโต๊ะเตี้ยตรงมุม ค่อยๆ เปิดกล่องอาหาร รอจนกลิ่นหอมของอาหารอบอวลทั่วกระโจมแล้วถึงค่อยยิ้มถาม “อยากกินหรือไม่”

เสิ่นเฉียนหาปิ่นปักผมที่วางไว้ข้างหมอนไม่เจอชั่วขณะ จึงลงจากเตียงเดินตรงเข้ามา เซี่ยจิ่นกำลังจัดวางจาน นึกว่านางจะมาแย่งอาหารก็รีบยื่นแขนขวางไว้ ไหนเลยจะรู้ว่าเสิ่นเฉียนไม่มองอาหารสักแวบเดียว หยิบตะเกียบบนโต๊ะไปข้างหนึ่งก็เดินไปแล้ว

“จิตใจเข้มแข็งยิ่งนัก!” เซี่ยจิ่นชมคราหนึ่ง เอียงหัวไปมองนาง เห็นขายาวสองข้างที่สอดเข้าไปในผ้าห่มของนางพอดี

ลูกกระเดือกเซี่ยจิ่นขยับ เขาย้ายสายตาไปทางอื่น

เสิ่นเฉียนม้วนผมสองสามรอบแล้วเสียบตะเกียบยึดไว้ก่อนเอ่ยถามเขา “เสื้อผ้าข้าเล่า ตอนนี้น่าจะแห้งแล้วกระมัง ไม่แห้งก็เอามาอบสักหน่อย”

“ข้าเผาทิ้งไปแล้ว” เซี่ยจิ่นพูดพลางตักโจ๊กไปด้วย

โจ๊กนี้เป็นพ่อครัวทหารในค่ายเร่งเปิดเตาเล็กต้มออกมา ทั้งหอมทั้งข้น และยังร้อนมาก เซี่ยจิ่นวางบนโต๊ะให้เย็นลงแล้วหยิบล่วมยามานั่งข้างเตียง ยิ้มกล่าว “คราวนี้พันได้แล้ว”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in คืนลมพัดต้องเหมยงาม

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 3-4

    By

    บทที่ 3 หงหลวนแต่งงาน ลมราตรีพัดกรู แสงจันทร์สาดส่อง ภายในหอตั้นเสวี่ยของจวนสกุลเซี่ยเวลานี้ เซี่ยจิ่นสองมือไพล่หลัง ฟังน้องชายตัวน้อยเซี่ยซ...

  • คืนลมพัดต้องเหมยงาม

    ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จึงเร่งมาถึงนอกเมืองห...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com