คนที่มาเปิดประตูดูแล้วน่าจะเป็นสาวใช้ ทันทีที่เห็นว่าคนส่งสารเปลี่ยนหน้าเป็นชายหนุ่มคนใหม่ นางก็เอ่ยปากอย่างแปลกใจ “คนส่งสารไม่ใช่พี่เกาหรอกหรือ”
“บังเอิญพี่เกาตกม้าได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ได้เจ็บหนักหรอกนะ พักฟื้นสักหลายๆ วันก็คงจะหาย ข้าเลยมาทำงานแทนเขาชั่วคราว” ซีเหมินถิงยิ้มแย้ม
สาวใช้ผิดหวังอย่างแรง แต่เมื่อเห็นสายตาประหลาดใจของคนส่งสารคนใหม่ กอปรกับห่อของที่ดูหนาหนักก็เก็บอาการแล้วว่า “รบกวนน้องชายช่วยนำของเข้ามาที คือว่า…ข้ามียาแก้อาการบาดเจ็บสรรพคุณดีอยู่ขวดหนึ่ง ขอฝากเจ้าเอาไปให้พี่เกาหน่อยได้หรือไม่ พอดีข้าบังเอิญมียาน่ะนะ ถึงได้จะฝากไป” นางกล่าวย้ำ
“พี่สาวมีใจเป็นห่วงเช่นนี้ ข้าต้องบอกพี่เกาให้แน่” ซีเหมินถิงยิ้มอย่างนึกสนุก
พริบตานั้น แสงอันเจิดจ้าก็พุ่งเข้ามากระแทกตาสาวใช้ จนนางถึงกับต้องยกมือบังตา
“เอ่อ…พี่สาวท่านเป็นอะไรหรือไม่”
“อ่า…เจ้า เจ้าตามข้ามา” สาวใช้เดินนำเขาไปในคฤหาสน์ แต่ก็ยังไม่วายหันกลับมามอง เมื่อเห็นชายหนุ่มยิ้มให้อ่อนๆ อย่างใสซื่อ พวงแก้มนางก็แดงระเรื่อขึ้นมาทันที ประหลาดแท้…เมื่อครู่ก็ยังปกติดี แต่เหตุใดพอเขายิ้ม นางถึงได้หัวใจเต้นแรงเช่นนี้…
“พี่สาว ห่อของสามห่อนี้จ่าหน้าถึงคนสกุลกง แต่จดหมายฉบับนี้จ่าหน้าถึงเนี่ยสือเอ๋อร์ ที่นี่มีคนแซ่เนี่ยอยู่ด้วยรึ หรือว่าข้าส่งผิดที่”
“ไม่ผิดหรอก ท่านเขยอยู่ที่นี่จริงๆ”
“ท่านเขย?” ที่แท้ก็แต่งงานแล้วหรือนี่เอง
สาวใช้เอามือป้องปาก เหลียวมองรอบตัวไม่เห็นใครก็กระซิบว่า “เป็นว่าที่เขยจ้ะ เมื่อครู่ข้าได้ยินคุณหนูกับท่านเขยทะเลาะกัน ดีไม่ดีคืนนี้อาจจะได้ร่วมเรียงเคียงหมอนก็ได้…”
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็งงงันอย่างหนัก “ทะเลาะกับร่วมเรียงเคียงหมอนมันเกี่ยวกันได้อย่างไรหรือ อ้อ หรือว่าท่านเขยอยากเข้าหอเร็วๆ แต่คุณหนูไม่ยอม ก็เลยมีปากเสียงกันขึ้นมา สุดท้ายคุณหนูเลยต้องยอมตามใจ…” เมื่อเห็นสาวใช้ปิดปากหัวเราะ เขาก็ยิ่งฉงน
ระหว่างแบกของหนักๆ เดินไปตามทาง คนส่งสารหนุ่มเดินผ่านซุ้มประตูในสวน มองลอดซุ้มเข้าไปเห็นประตูบานหนึ่งเปิดอ้า เบื้องหลังประตูคือชายหนุ่มคนหนึ่ง นั่งหลังตรงอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ ท่าทางเกร็งๆ…
“อย่ามองนะ อย่ามอง” สาวใช้รีบดึงตัวเขาเดินไปที่โถงข้างพลางว่า “นั่นคือท่านเขย ห้ามใครเข้าใกล้เด็ดขาด”
ชายหนุ่มยิ่งฟังก็ยิ่งงง จึงเอ่ยถามว่า “เพราะเหตุใดกัน”
“เพราะกลัวว่าจะมีคนพาท่านเขยหนีไปน่ะสิ แต่ข้าว่านะ คุณหนูระแวงเกินไป คนในบ้านสกุลกงจะมีใครกล้าแข็งข้อกับคุณหนูเล่า”
“หนีหรือ”
“ก็ใช่น่ะสิ แหม ข้าพูดมากไปแล้ว เจ้าถือเสียว่าไม่ได้ยินก็แล้วกันนะ”