“หัวโบราณจริงๆ”
ซีเหมินถิงยิ้มน้อยๆ ไม่ตอบคำ
“หรือเป็นเพราะเจ้าไม่ใส่ใจเรื่องนี้” เนี่ยสือเอ๋อร์พึมพำกับตนเอง ไม่ทันสังเกตว่าซีเหมินถิงชำเลืองมองหลายตลบ “ไม่ดีหรอกนะแบบนี้ ยังหนุ่มยังแน่นแต่กลับปล่อยชีวิตตามบุญตามกรรม คนจิตใจบริสุทธิ์ไร้เงามืดอย่างเจ้าคงมีชีวิตที่แสนน่าเบื่อ แต่ขอได้โปรดวางใจ ต่อไปนี้ข้าจะช่วยทำให้จิตใจของเจ้าเต็มไปด้วยเงามืด…ตายแล้ว มีคนมา!”
เสียงฝีเท้าถี่กระชั้นดังแว่วมา เนี่ยสือเอ๋อร์ฉุดซีเหมินถิงไปหลบหลังประตูห้องส้วม ทั้งสองเบียดไหล่กันจนชิด เนี่ยสือเอ๋อร์เหลือบมองใบหน้าด้านข้างของอีกฝ่ายก่อนจะเบนสายตาหนี
พอได้มองใกล้ๆ เจ้านี่ผิวหน้าเนียนละเอียดจนไม่น่าเชื่อ…
ซีเหมินถิงรู้สึกได้ว่าถูกจับจ้องก็หันกลับมามอง ปลายจมูกจึงแตะกันเบาๆ ทั้งสองรีบขยับถอย ใบหน้ายังคงประดับด้วยรอยยิ้มอยู่เช่นเดิม
จมูกเจ้าคนผู้นี้ช่างเย็นและเนียนนุ่มจริงๆ…เนี่ยสือเอ๋อร์ประหลาดใจ
“ท่านเขย! ท่านเขยอยู่ที่ใด” นอกห้องส้วมมีคนตะโกน “หากคุณหนูทราบว่าท่านเขยหนีไป เราต้องตายแน่ๆ”
“…ในส้วมมีคนนี่ ท่านเขยอยู่ในนั้นหรือไม่”
“ไม่หรอก เมื่อครู่คนส่งสารบอกว่าปวดท้อง เลยขอยืมใช้ห้องส้วมน่ะ” เสียงสาวใช้คนเมื่อครู่ดังขึ้น
เนี่ยสือเอ๋อร์กระตุกแขนเสื้อซีเหมินถิงโดยแรง ชายหนุ่มกระแอมเบาๆ แล้วกล่าวเสียงดัง
“ขอโทษที ข้าเองล่ะ ข้าปวดท้องน่ะ ก็เลย…” พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงผายลมดังป้าด ซีเหมินถิงเงียบกริบ หันขวับกลับมามองเนี่ยสือเอ๋อร์ทันใด
เนี่ยสือเอ๋อร์ชูนิ้วโป้งให้พลางพูดโดยปราศจากเสียงว่า ‘ต้องแบบนี้ถึงจะสมบทบาท เป็นอย่างไร ข้าฉลาดหรือไม่’
“…”
“เหม็นชะมัดเลย เรารีบไปค้นทางอื่นเถอะ” บ่าวในเรือนตัดสินใจแยกย้ายตามหา
“อย่างไรล่ะ เขาเรียกว่าไหวพริบยามคับขัน หากข้าไม่ผายลมแล้วพวกนั้นเปิดประตูเข้ามา ข้าคงจบเห่แน่” เนี่ยสือเอ๋อร์กล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“…”
“ถิ่งจือ เจ้าจะไม่ชมข้าหน่อยหรือ”
“…ข้ากลั้นหายใจอยู่”