“คุณหนูของข้าแซ่กง” กงวั่นชิวสังเกตอากัปกิริยาอีกฝ่ายอย่างละเอียด “นางและท่านเขยพึงใจในกันและกัน จึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะครองคู่ ขาดแต่เพียงจัดพิธีวิวาห์ตามประเพณีเท่านั้น…”
เนี่ยซื่อขมวดคิ้ว ก่อนจะพูดแทรกขึ้น “ท่านเขยคือผู้ใดกัน”
“ก็คุณชายสกุลเนี่ยอย่างไรเล่า! คุณหนูของข้าไม่สนใจพิธีรีตอง เดิมตั้งใจจะแต่งงานกับท่านเขยเสียเลย แต่ท่านเขยเป็นคนหัวโบราณ จึงยื่นคำขาดว่าต้องให้ท่านสี่และท่านสามพยักหน้ายินยอม และติดตามข้ากลับไปร่วมงานวิวาห์ ดื่มสุรามงคลสักจอกหนึ่งก่อน หาไม่แล้วก็จะปฏิเสธการแต่งงาน”
เนี่ยซื่อฟังถึงตรงนี้ สีหน้าก็พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ท่านเขยที่ท่านพูดถึง กำชับท่านไว้เช่นไร”
“ท่านเขยบอกว่าไม่จำเป็นต้องสนใจพี่เจ็ด ขอแค่พี่สามกับพี่สี่ยอมมา ก็จะยอมแต่งด้วยทันทีขอรับ ท่านสี่ โปรดตามข้าไปเถิด ประเดี๋ยวเราไปเชิญท่านสามที่บ้านสกุลเนี่ยด้วยกันก็ได้!” แม้จะพูดว่า ‘โปรด’ แต่น้ำเสียงกลับแฝงแววข่มขู่
เนี่ยซื่อได้ยินดังนั้นก็โมโห ในบรรดาพี่น้อง คนที่ชอบก่อเรื่องแล้วลากพี่ๆ มาคอยตามล้างตามเช็ดก็มีแต่เจ้าคนไม่เอาถ่านนั่นคนเดียว ทว่าเวลานี้ควรเล่าเรียนอยู่ที่เคหาสน์อักษรมิใช่หรือไร
ความเคืองขุ่นคงฉายชัดอยู่บนใบหน้าและแววตา กงวั่นชิวจึงกล่าวต่อเสียงเรียบ “ท่านสี่ขอรับ บุรุษเมื่อโตก็สมควรแต่งภรรยา สตรีเมื่อเติบใหญ่ก็ควรออกเรือน นี่เป็นเรื่องน่ายินดี ขอท่านโปรดอย่าขัดขวางงานมงคลครั้งนี้เลย”
“งานมงคลรึ” เนี่ยซื่อแย้มยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ไม่เป็นมิตรเหมือนก่อนหน้า ก่อนจะพยักหน้าพลางบ่นพึมพำ “จริงอย่างที่ท่านว่า เป็นงานมงคลจริงๆ…บุรุษเมื่อโตแล้ว สมควรแต่งภรรยาจริงๆ นั่นล่ะ นับเป็นเรื่องมงคลแท้ๆ…”
หากสองฝ่ายพึงใจกันจริง เขาในฐานะพี่ชาย ย่อมต้องอวยพรด้วยความยินดี ทว่า…เนี่ยซื่อหรี่ตามองกงวั่นชิว
คนผู้นี้ไม่ได้มาดีแน่นอน หากสองคนผูกสมัครรักใคร่กันจริง เจ้าคนไม่เอาถ่านจะขอความช่วยเหลือเพื่ออันใด
“ท่านสี่”
เนี่ยซื่อลอบสูดลมหายใจ มือกำด้ามพัดแน่นจนข้อนิ้วซีดขาว แต่ก็ยังซักต่อไม่เลิก
“ไม่ทราบว่าเป็นพี่น้องคนใดในตระกูลข้าหรือ ที่โชคดีได้รับความสนใจจากคุณหนูของท่าน”
“ก็คุณชายสิบแห่งสกุลเนี่ยอย่างไรเล่า”
เนี่ยซื่อสีหน้าดีขึ้นทันตา อารมณ์ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถึงกับมีรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก “ที่แท้ก็สือเอ๋อร์หรอกหรือ…”
“ท่านสี่โปรดไปกับข้าเถิด!”
เนี่ยซื่อส่ายศีรษะพลางกล่าวอย่างสบายใจ “ท่านรู้หรือไม่ว่า สือเอ๋อร์มีความลับที่หากเปิดเผย เขาจะต้องอับอายจนไม่อาจสู้หน้าใครได้อีก ความลับนี้มีเพียงคนสกุลเนี่ยและว่าที่ภรรยาของเขาเท่านั้นที่จะรู้”
“ความลับ?”
ทุกคนในที่นั้นต่างเงี่ยหูรอฟัง แม้แต่ซีเหมินเซี่ยวยังมองกงวั่นชิวตาไม่กะพริบ
“แน่นอนว่าข้าจะไม่ถามท่านหรอกว่าความลับนั้นคืออะไร” เมื่อเห็นกงวั่นชิวลอบถอนหายใจ เนี่ยซื่อก็แย้มยิ้ม “ข้าเพียงอยากถามซ้ำอีกครั้งว่าคุณหนูบ้านท่านถูกใจเนี่ยไหนกันแน่”