ขณะนี้ฮ่องเต้กำลังชมทัศนียภาพของทะเลสาบร่วมกับทูตถู่ปัว เพียงแต่พระองค์ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง เวลาส่วนใหญ่ล้วนเป็นเทียนโฮ่วเอ่ยวาจา ขันทีพาหลี่เจาเกอมาถึงก็เดินซอยเท้าขึ้นหน้าไปค้อมกายรายงาน “ทูลฝ่าบาท ทูลเทียนโฮ่ว องค์หญิงเซิ่งหยวนเสด็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“รีบเชิญเข้ามา” ฮ่องเต้ยิ้มเอ่ยกับต้าก้งลุ่น “นี่คือบุตรีคนโตของเรากับเทียนโฮ่ว ฉลาดเฉียบแหลมอย่างยิ่ง”
ต้าก้งลุ่นรู้สึกว่าองค์หญิงเซิ่งหยวนชื่อตำแหน่งนี้คุ้นหูไม่น้อย รอจนเห็นหลี่เจาเกอ เขาก็ตระหนักได้ในพริบตา เอ่ยเสียงดังว่า “ที่แท้เป็นองค์หญิงองค์นี้ พวกเราเคยพบกันมาก่อน โชคดีที่มีองค์หญิงเซิ่งหยวน ภาพเฟยเทียนจึงกลับมาครบสมบูรณ์”
หลี่เจาเกอกำลังถวายบังคม พอได้ยินถ้อยคำนี้ก็รีบเอ่ยปฏิเสธ “มิกล้ารับ ต้าก้งลุ่นเป็นแขกจากแดนไกล ภาพเฟยเทียนเกิดเรื่องขึ้นในราชธานีตะวันออก การตามหาเฟยเทียนกลับคืนมาเป็นหน้าที่ของพวกข้าอยู่แล้ว”
ต้าก้งลุ่นยังคงกล่าวชมด้วยไมตรีอันร้อนแรง “องค์หญิงมิต้องถ่อมตนไป วันนั้นท่วงทีอันองอาจยามจับกุมอาชาเพลิงทำให้ข้าประทับใจอย่างลึกซึ้ง ข้าได้ยินมาช้านานว่าต้าถังเจริญรุ่งเรือง จวบจนได้ชมเทศกาลซั่งหยวนค่อยรู้ว่าสมคำเล่าลือ ราชธานีต้าถังรับคำสดุดีอันดีงามทั้งปวงได้อย่างเต็มภาคภูมิ ฮ่องเต้ต้าถังปกครองแคว้นได้ดี อบรมบุตรีได้ดีโดยแท้”
แม้ฮ่องเต้ฟังคำพูดของต้าก้งลุ่นไม่เข้าใจ ทว่าคิ้วตาของอีกฝ่ายถ่ายทอดอารมณ์ สีหน้าบ่งชัด อีกทั้งภาษาถู่ปัวมีจังหวะจะโคน สร้างอารมณ์ร่วมได้ดีเยี่ยม ฮ่องเต้จึงถูกปลุกเร้าให้เบิกบานตามไปด้วย รอจนฟังล่ามของกองงานการทูตถอดความจบ พระองค์ก็เอ่ยกลั้วหัวเราะฮ่าๆ “จั้นผู่เป็นเจ้าแคว้นที่เก่งกาจห้าวหาญเช่นกัน หากพวกเราสองแคว้นผูกไมตรีอันดีต่อกันตลอดไปจะสร้างประโยชน์สุขแก่ทวยราษฎร์อย่างแท้จริง”
ต้าก้งลุ่นพูดโฉงเฉงถ่ายทอดวาจาของจั้นผู่อีกยกใหญ่ ระหว่างนั้นล่ามของกองงานการทูตก็ถอดความอย่างรอบคอบ นี่คือบทสนทนาระหว่างผู้นำของสองแคว้น นอกจากเทียนโฮ่วแล้วผู้อื่นล้วนเงียบฟัง ไม่กล้าสอดปาก หลี่เจาเกอไปยืนรวมกับกลุ่มคน กวาดมองคร่าวๆ พบว่าวันนี้ในวังซั่งหยางคึกคักเป็นประวัติการณ์
เนื่องจากเกี่ยวพันถึงแคว้นถู่ปัว หลี่ซั่นจึงฝืนประคองร่างกายที่เจ็บป่วยมาออกงาน โดยมีชายารัชทายาทเป็นเพื่อนอยู่ด้านข้าง หลี่ฉังเล่อติดตามอยู่ด้านหลังของเทียนโฮ่วอย่างแสนเบื่อหน่าย กำลังพูดซุบซิบอยู่กับหลี่ไหว อู๋อ๋องกับชายาติดตามฮ่องเต้ต้อยๆ องค์หญิงอี้อันกับราชบุตรเขยหมาดๆ ติดสอยห้อยตามอยู่ท้ายสุด หลี่เจินก้มหน้างุด ไม่มีความชื่นมื่นของคู่แต่งงานใหม่ให้เห็นสักนิดเดียว เฉวียนต๋าไม่เคยอยู่ในเหตุการณ์เช่นนี้จึงกลั้นใจโดยตลอด กลัวแต่ว่าตนเองจะก่อเรื่องน่าอายต่อหน้าชาวถู่ปัว
นี่น่าจะเป็นครั้งที่คนในราชวงศ์มารวมตัวกันมากที่สุดในรอบครึ่งปีที่ผ่านมา หลี่เจาเกอถอนสายตา ฉวยจังหวะที่ฮ่องเต้กับต้าก้งลุ่นเดินชมทิวทัศน์ลอบเดินไปถึงข้างกายเทียนโฮ่วแล้วเอ่ยเสียงเบา “เทียนโฮ่ว ลูกจะไปตรวจสอบกำลังคนที่ด้านนอก ขอตัวก่อนนะเพคะ”
เทียนโฮ่วผงกศีรษะนิดๆ หลี่เจาเกอโผล่หน้าให้ฮ่องเต้กับเทียนโฮ่วเห็นแล้วก็ปลีกตัวมาอย่างรวดเร็ว
อีกด้านหนึ่งโม่หลินหลางปลอมตัวเป็นสาวใช้ลาดตระเวนในสถานที่จัดเลี้ยง ค้นหาดูว่ามีปีศาจสวมรอยเป็นมนุษย์ปะปนเข้ามาหรือไม่
ฆาตกรของสามคดีนั้นยังคงจับกุมไม่ได้ ความคืบหน้าคดีมืดแปดด้าน เดิมทีหลี่เจาเกอจะเปลี่ยนทิศทางการสืบหาแล้ว แต่ฉุกคิดได้ว่าวันนี้คือวันจื่ออีกครา เพื่อความแน่ใจจึงพาโม่หลินหลางกับไป๋เชียนเฮ่อเข้าวังซั่งหยางมาด้วยกัน
โม่หลินหลางใช้เนตรอินหยางกวาดมองกลุ่มคนรอบแล้วรอบเล่า มองจดจ่อเสียจนพลั้งชนถูกนางกำนัลผู้หนึ่ง ในมืออีกฝ่ายประคองสุราอยู่ เมื่อถูกชนเช่นนี้สุราจึงสาดไปบนเสื้อผ้าของคนด้านข้างทันที
นางกำนัลเห็นแล้วลนลานคุกเข่าลง โขกศีรษะเอ่ยขอขมา “คุณชายโปรดอภัย บ่าวมิได้เจตนาเจ้าค่ะ”
คุณชายหลายคนกำลังคุยฟุ้ง หนึ่งในนั้นพลันถูกนางกำนัลสาดสุราจึงยืนพรวดอย่างโกรธเกรี้ยว สะบัดเสื้อตวาดกร้าว “บัดซบ! เจ้ารู้หรือไม่ข้าเป็นใคร เสื้อผ้าชุดนี้ยังมีค่ามากกว่าชีวิตของเจ้า เจ้าควรรับโทษสถานใด”
นางกำนัลตัวสั่นขดร่างลงพื้น โม่หลินหลางไม่อยากให้อีกฝ่ายพลอยเดือดร้อนจึงรีบชี้แจง “ขออภัยด้วย เป็นข้าเองสะเพร่าชนถูกนาง นางจึงถือสุราได้ไม่มั่นคง คุณชายจะลงโทษก็ลงโทษข้าแล้วกัน ไม่ใช่ความผิดของนาง”
หลูซันหลางนึกไม่ถึงว่าจะมีบ่าวโผล่มาอีกคน เขามองพิจารณาโม่หลินหลางอย่างถี่ถ้วนก่อนถาม “เจ้าเป็นใครกัน ไฉนดูไม่คล้ายนางกำนัลเลย”
โม่หลินหลางเคร่งเครียดจนนิ้วมือกำแน่น ก้มหน้า ฝืนเอ่ยประคองสถานการณ์ “บ่าวเป็นสาวใช้ในจวนองค์หญิงเซิ่งหยวน วันนี้ติดตามองค์หญิงมางานเลี้ยง คุณชายจึงไม่เคยเห็นบ่าวเจ้าค่ะ”
คุณชายที่เหลือกำลังรอชมเรื่องขบขัน ครั้นได้ยินคำว่าองค์หญิงเซิ่งหยวนก็มีบางคนหน้าหุบ โน้มน้าวหลูซันหลางว่า “หลูซันหลาง ให้แล้วกันไปดีกว่า หากเกิดนางเป็นคนของจวนองค์หญิงเซิ่งหยวนจริงๆ ไปตอแยท่านผู้นั้นเข้า เกรงว่าจะปิดฉากไม่ง่าย”
สำหรับพวกเขาเหล่าคุณชายชนชั้นสูง เสื้อผ้าแค่ชุดเดียวไม่คู่ควรแก่การเอ่ยถึง ความจริงสิ่งที่หลูซันหลางโกรธคือการที่นางกำนัลสาดสุรามาถูกตัวเขาทำให้เขาอับอายต่อหน้าสหาย
บ่าวต่ำต้อยผู้หนึ่งไฉนจึงได้กล้าบังอาจ