จุติรัก พลิกชะตาร้าย
ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 89-90
โม่หลินหลางไม่รู้ความเกี่ยวพันในหมู่พระญาติพระวงศ์ ไม่เช่นนั้นตอนนางได้ยินแซ่หลูก็ควรนึกโยงถึงชายารัชทายาทหลูซื่อแล้ว ทว่าโม่หลินหลางไม่รู้สักนิด นางรู้แต่ว่าไม่อยากสร้างความยุ่งยากให้หลี่เจาเกอ ทั้งไม่อยากให้นางกำนัลเดือดร้อนจากความพลาดพลั้งของนาง จึงเอ่ยขออภัยหลูซันหลางไม่หยุด หมายให้เขาคลายโทสะ
หลูซันหลางมองข่มโม่หลินหลางอย่างผู้มีฐานะสูงกว่า นี่คืองานเลี้ยงในวัง เดิมเขาไม่ควรขัดแย้งกับบ่าว ไม่ว่าที่แท้สตรีนางนี้ใช่คนของจวนองค์หญิงหรือไม่ แต่การมาปรากฏตัวที่วังซั่งหยางได้ก็บ่งชัดว่าเจ้านายของนางต้องมีฐานะไม่ด้อย ทว่านางดันเอ่ยถึงจวนองค์หญิงเซิ่งหยวนเสียนี่
พักก่อนหลูซันหลางติดตามมารดาไปเยี่ยมพี่สาว เคยได้ยินพี่สาวบ่นถึงเรื่องในวัง บอกว่าเทียนโฮ่วเผด็จการ ฮ่องเต้ลำเอียง ซ้ำรัชทายาทยังร่างกายอ่อนแอขี้โรค หลูซื่อพี่สาวของเขาแม้เป็นถึงชายารัชทายาท กลับไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสบายอกสบายใจ โดยเฉพาะยังมีหลี่เจาเกอน้องสาวสามีที่ไม่รู้จักขอบเขตอันควร ชิงเสนอหน้าก่อนในทุกเรื่อง ไม่คิดจะเลี่ยงคำครหาแม้แต่น้อย พี่สาวของเขาคับแค้นต่อเทียนโฮ่วกับหลี่เจาเกอสองแม่ลูกนี้จนอัดแน่นเต็มท้องทีเดียว
ชายารัชทายาทคือบุตรีสกุลหลูสายเลือดภรรยาเอก เป็นทั้งหน้าตาทั้งที่พึ่งพาของสกุลหลู สกุลหลูย่อมยืนอยู่ฝ่ายตำหนักบูรพาเป็นธรรมดา นับแต่ได้ยินนางระบายความคับแค้น หลูซันหลางก็ยิ่งไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อองค์หญิงเซิ่งหยวนกับคนสกุลอู่ของเทียนโฮ่ว
ตอนนี้ได้ยินว่าสาวใช้คนนี้เป็นคนในจวนของหลี่เจาเกอ หลูซันหลางก็เยาะหยันในใจ คิดว่าขี้ข้าเอาอย่างเจ้านายดังคาด หลี่เจาเกอไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ บ่าวของนางก็เลอะเลือนไม่แพ้กัน เขามีใจจะระบายโทสะแทนพี่สาวจึงกล่าวว่า “นั่นแล้วอย่างไร ก็แค่บ่าวผู้หนึ่ง องค์หญิงเซิ่งหยวนจะเป็นอริกับสกุลหลูเพื่อสาวใช้คนเดียวหรือไร”
เขาพูดพลางพินิจพิจารณาโม่หลินหลางหลายหน จากนั้นก็เอ่ยปนยิ้มกริ่ม “เจ้าเป็นสาวใช้ที่มือไม้งุ่มง่าม หน้าตากลับไม่ขี้ริ้ว เจ้าทำให้ข้าเสียอารมณ์จะร่วมงานเลี้ยงในวันนี้ ไหนว่ามาซิ เจ้าควรชดใช้เช่นไร”
แววตาของหลูซันหลางแสนกรุ้มกริ่มแสนเหิมเกริม แม้เป็นประโยคคำถาม ทว่าเจตนาแทะโลมชัดแจ้งในน้ำเสียง คุณชายที่เหลือล้วนผ่านสนามรักมาจนคุ้นชิน ได้ยินเช่นนี้จึงเข้าใจทันที
โม่หลินหลางพลันหน้าซีด นางถูกบิดาบังเกิดเกล้าทารุณมาแต่เล็ก ส่งผลให้นางทั้งหวาดกลัวทั้งมองบุรุษเป็นศัตรู ภายหลังเข้ากองงานปราบปีศาจโจวเซ่ากับไป๋เชียนเฮ่อเห็นนางเป็นสหายร่วมกลุ่ม ปราศจากท่าทีรุ่มร่ามดูหมิ่น ปมในใจนางจึงคลายออกทีละน้อย ไม่ค่อยหวาดกลัวที่จะติดต่อกับคนแปลกหน้าถึงเพียงนั้นแล้ว ทว่าตอนนี้หลูซันหลางใช้แววตาราวประเมินราคามองจรดบนร่างนาง ความพรั่นพรึงในวัยเด็กก็ย้อนกลับมาตะครุบตัวนางในพริบตา
โม่หลินหลางคล้ายหวนคืนสู่ช่วงเวลาที่โม่ต้าหลางยังมีชีวิตอยู่ เขาประเคนหมัดเท้าใส่นาง โม่หลิวซื่อถากถางแดกดันนาง ส่วนบุตรชายของโม่หลิวซื่อปรบมือวิ่งวนข้างตัวนาง วิ่งไปตะโกนไปว่า ‘นางตัวผลาญเงิน’
หลูซันหลางเห็นโม่หลินหลางหน้าซีดก็หัวเราะเยาะ ใช้พัดเชยคางนางแล้วเอ่ยหยาม “ข้าเห็นเจ้าเข้าตา อุตส่าห์ให้ค่าเจ้า เจ้ายังทำเป็นกล้ำกลืน? บอกเจ้าให้นะ อย่ามาเล่นตัวกับข้า ข้าไม่ชอบไม้นี้”
โม่หลินหลางถูกเชยคาง รูขุมขนทั่วร่างก็ลุกซู่จนเป็นตุ่มดุจหนังไก่ นางออกแรงปัดพัดจีบของเขาออกห่าง กำหมัดแน่นจนเนื้อตัวสั่นเทา “ข้าเป็นคนที่องค์หญิงเซิ่งหยวนพามา หากท่านกล้าทำอะไรข้า องค์หญิงจะไม่ปล่อยท่านไปแน่”
มีคุณชายบางคนทนดูต่อไปไม่ได้จึงไกล่เกลี่ยเสียงเบา “หลูซันหลาง ที่นี่คือวังซั่งหยางนะ ชาวถู่ปัวก็ยังอยู่ เรื่องใหญ่ต้องมาก่อน อย่าให้บานปลายจนไม่น่าดูชม”
หลูซันหลางพ่นลมขึ้นจมูกอย่างไม่ยี่หระ “พี่สาวข้าคือชายารัชทายาท องค์หญิงเซิ่งหยวนจะไม่ไว้หน้าข้าเชียวหรือ บ่าวผู้หนึ่งเท่านั้น หากข้าชอบ บอกพี่สาวคำเดียวก็เอาตัวมาได้ ไม่แน่องค์หญิงเซิ่งหยวนอาจจะยินดีมากด้วยซ้ำ”
ตามความคิดของหลูซันหลาง พี่สาวเขาคือชายารัชทายาท ว่าที่มารดาของแผ่นดิน ต่อให้หลี่เจาเกอเป็นที่โปรดปรานสักเพียงใด ฐานะก็ไม่อาจเปรียบกับบุตรสะใภ้ฮ่องเต้ ตอนนี้มอบโอกาสให้หลี่เจาเกอได้เอาใจคนในสกุลเดิมของชายารัชทายาท ไม่แน่หลี่เจาเกออาจกำลังต้องการเป็นอย่างยิ่ง
คุณชายที่เอ่ยไกล่เกลี่ยก็เพียงแต่เตือนหนึ่งประโยค เขาไม่อยากให้หลูซันหลางก่อเรื่องบานปลายในงานเลี้ยงจนเดือดร้อนมาถึงเขาด้วย หากบอกว่าเขามีใจรักหยกถนอมบุปผามากมาย นั่นกลับไม่ถึงขั้นนั้น
ว่ากันถึงที่สุดโม่หลินหลางเป็นแค่บ่าว เป็นเรื่องปกติหากแขกในงานเลี้ยงถูกตาต้องใจสาวใช้แล้วลากกลับไปหลับนอน แม้กระทั่งถูกใจอนุของเจ้าภาพ เจ้าภาพก็ใจกว้างสละของรักให้แขกได้ ภรรยาคือสตรีที่แต่งเข้ามาตามประเพณีครบถ้วน ต่างจากอนุที่เป็นทรัพย์สินได้มาผ่านการซื้อขาย ไยจะต้องทำให้แขกเสียหน้าเพียงเพราะของเล่นชิ้นหนึ่งด้วยเล่า ในเมื่ออนุยังเป็นเช่นนี้ แล้วนับประสาอะไรกับสาวใช้
ท่ามกลางสายตาหยอกเอินของคนรอบด้าน โม่หลินหลางตัวสั่นรุนแรงขึ้นทุกที เดิมหลูซันหลางเจตนาจะระบายแค้น ตอนนี้เห็นดวงหน้าน้อยๆ ของนางซีดเผือด เนื้อตัวสั่นสะท้าน กลับกลายเป็นเสน่ห์ชวนให้รักถนอม เขาบังเกิดอารมณ์ขึ้นมาจึงยื่นมือไปจะฉุดดึงนาง “มีหน้าที่ปรนนิบัติคนยังจะถือดีเล่นตัวทำอะไร ข้าคือคุณชายสกุลหลูเชียวนะ เจ้าได้มาเจอข้าเป็นวาสนาที่บรรพชนแปดรุ่นของเจ้าสั่งสมมา”
พอถูกหลูซันหลางสัมผัสแขน โม่หลินหลางก็ราวถูกระเบิดทั้งร่าง ปัดมือเขาออกอย่างแรงแล้วผละถอยต่อเนื่อง “อย่าถูกตัวข้านะ”
ทว่าโม่หลินหลางเป็นเพียงแม่นางน้อยวัยสิบหก แม้หนึ่งปีที่ผ่านมาได้กินอาหารครบมื้อ ได้พักผ่อนเป็นเวลา บำรุงร่างกายดีขึ้นไม่น้อย ถึงอย่างไรก็ไม่อาจเปรียบกับบุรุษวัยฉกรรจ์ได้อยู่ดี หลูซันหลางเห็นนางกล้าขัดขืน ทำราวกับเขาเป็นสิ่งสกปรกสักอย่าง จึงไม่พอใจถึงขีดสุด ฉุดนางไว้ได้ในคราวเดียว ขณะจะเอ่ยวาจา ความเจ็บปวดสาหัสกลับแล่นมาจากง่ามมือกะทันหัน
เขาก้มมองก็พบว่านางถึงกับกัดมือเขาจนเลือดออก