ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 1-2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 1-2

หน้าที่แล้ว1 of 5

บทที่ 1

ช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ก็เปรียบดั่งผ้าพันเท้าของสตรี เป็นของเก่าเน่าเหม็นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหม่มีกลิ่นหอม การเปลี่ยนผันหลังผ่านช่วงเวลายาวนานหลายร้อยปีก็ไม่มีเรื่องใดให้น่าสะเทือนใจ

เพียงแต่บนผ้าพันเท้าย่อมมีฝุ่นผงสะเก็ดเก่าร่วงหลุดลงมาบ้างเป็นธรรมดา ต่อให้เคยเป็นส่วนหนึ่งของเท้านวลเนียนดั่งหยกเสลาของโฉมงาม บัดนี้ก็ได้แต่ร่วงกราวตามผ้าเหม็นเน่าลงสู่กรวดหินธุลีดิน

อวี้ฉือรุ่ยก็คือผงธุลีเม็ดหนึ่งบนผ้าพันเท้าผืนนั้น ย่อมสะเทือนใจอยู่บ้างอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อนึกถึงว่าสกุลอวี้ฉือของเขาเคยรุ่งโรจน์เพียงใดในสมัยต้าเหลียงราชวงศ์ก่อน! ตระกูลแห่งโหว* แม่ทัพ เสนาบดี เคยเป็นอัครเสนาบดีติดต่อกันสามรุ่น ได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์เป็นจงติ่งโหว แต่พอมาถึงรุ่นของเขาอวี้ฉือรุ่ยกลับค่อยๆ ตกอับ ไร้ความดีความชอบในราชสำนัก ภายหลังอวี้ฉือเต๋อน้องชายร่วมสายเลือดของตนเองอุตส่าห์เฉียดตายสร้างคุณูปการทางการศึก ได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพเจิ้นหย่วน ทว่ากลับสิ้นชีพในสนามรบ ทั้งยังกระตุ้นโทสะของฮ่องเต้พระองค์ก่อนเนื่องจากพ่ายแพ้ในการทำศึก เกือบพบกับจุดจบถูกเนรเทศไปเป็นทหารที่ชายแดนทั้งตระกูล

เพียงพริบตาเดียวราชวงศ์ใหม่ต้าฉีก็ถูกสถาปนาขึ้นมานานห้าปีแล้ว ฮ่องเต้ฉีตี้ประกาศให้บ้านเมืองเข้าสู่ช่วงพักฟื้น ให้ราษฎรที่รับศึกมานานหลายปีได้มีโอกาสพักหายใจ ผู้คนนอกจากใช้ชีวิตสงบร่มเย็น ทำกิจการค้าขาย แต่งงานมีทายาท ต่างก็หลงลืมเรื่องราวสมัยราชวงศ์ก่อนไปจนสิ้นนานแล้ว

ถึงแม้สกุลอวี้ฉือจะสิ้นไร้ไม้ตอกเพียงใด แต่อย่างไรอูฐที่ผอมตายยังคงตัวใหญ่กว่าม้า อยู่บ้าง ตราบที่ราชวงศ์ต้าเหลียงไม่ได้ล่มสลายลง ให้ค้ำยันวงศ์ตระกูลต่อไปอีกหลายสิบปียังคงไม่เป็นปัญหาอันใด

แต่ตอนนี้ความรุ่งเรืองของตระกูลเขามอดไหม้ไปกับเพลิงสงครามนานแล้ว เมื่อลองนับดูเขาอายุใกล้ห้าสิบปี ภรรยาเอกไม่อาจทนสภาพลำบากยากเข็ญ อาการป่วยเก่ากำเริบไม่ได้รักษา ตายจากไปเมื่อสองปีก่อน อนุสองคนไร้บุตร จึงแยกย้ายกันไปนานแล้ว ต่างวางแผนอนาคตของตนเองกันไป ความเจ็บปวดของการตกสู่ชีวิตปุถุชนในช่วงแรกของอวี้ฉือรุ่ยย่อมไม่อาจพรรณนา ทุกวันก่อนจะเผยอเปลือกตา ยามที่ล่องลอยอยู่ในแดนฝันยังพอดื่มด่ำกับช่วงเวลารุ่งโรจน์สมัยก่อนได้บ้าง แต่เมื่อลืมตาขึ้นเห็นมุ้งเตียงเก่าขาดก็ต้องคิดถึงหนทางเอาชีวิตรอดของคนทั้งครอบครัวในทุกวันนี้แทนแล้ว

ช่วงที่เมืองหลวงตกอยู่ในความโกลาหล ทรัพย์สมบัติครอบครัวที่รีบร้อนนำติดตัวออกมาด้วยได้มีเพียงสมบัติในหีบไม้จันทน์สามหีบใหญ่เท่านั้น และเดี๋ยวนี้กิจวัตรประจำทุกช่วงหนึ่งก็เหลือแค่การพลิกค้นหีบ

เช้าตรู่วันนี้อวี้ฉือรุ่ยตื่นแล้ว เขาใช้ใบชาก้านเก่าต้มชากลั้วปาก และฝึกหมัดมวยเบญจสัตว์ต่อ พอฝึกเสร็จเรียบร้อยก็ล้วงหยิบกุญแจพวงหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุมเก่าๆ ตรงเอว นำไปเปิดหีบใบหนึ่ง สิ่งของในหีบที่เริ่มว่างโล่งมาสักพักเหลือของอยู่ไม่มาก เขาหยิบแจกันดอกไม้สองใบออกมาอย่างระมัดระวัง หลังจากเปรียบเทียบอยู่สักพัก สุดท้ายจึงตัดสินใจเลือกแจกันสองหูจับเคลือบสีฟ้าใบนั้นก่อน ใช้ผ้าอ่อนนุ่มเช็ดซ้ำๆ ไปมา ถึงได้ห่อด้วยผ้ากำมะหยี่ผืนหนึ่งอย่างพิถีพิถัน

เขาอุ้มห่อผ้า เลิกม่านเดินออกจากห้องมาหยุดยืนอยู่ในลานเรือน ก่อนกระแอมกระไอทีหนึ่งแล้วเอ่ยเรียกเสียงดัง “เฟยเยี่ยน ตื่นแล้วหรือยัง”

เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเขา ด้านหลังม่านของเรือนรองฝั่งตะวันตกก็มีเสียงกังวานใสดังตอบ “ท่านลุง ข้าตื่นแล้วเจ้าค่ะ” ตามด้วยผ้าม่านเลิกเปิด สตรีท่าทางสดใสผู้หนึ่งเดินออกมา

อวี้ฉือรุ่ยหันมองก็เห็นเลือดเนื้อเชื้อไขหนึ่งเดียวที่น้องชายร่วมอุทรผู้ตายไปในสนามรบเหลือทิ้งเอาไว้ นางสวมชุดกระโปรงสีน้ำเงินดูคล่องตัว เรือนร่างสูงโปร่ง รวบเรือนผมดกดำถักเป็นเปียหนาอยู่หลังใบหู บนดวงหน้าเล็กรูปไข่ห่านประดับคิ้วที่ดำโดยไม่ต้องวาด ผิวขาวผุดผาด นัยน์ตาหงส์ชั้นเดียวหยักยกขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้จะแต่งกายเรียบง่าย ทว่ากลับยากจะปกปิดความงามแต่กำเนิด งามหยาดเยิ้มอย่างยิ่ง

ถ้าหากน้องชายไม่ตาย หลานสาวผู้นี้ของเขาก็ควรจะแต่งงานไปนานแล้ว จากนิสัยเรียบง่ายอ่อนหวานของนางจะต้องเอาใจบ้านแม่สามีได้อย่างแน่นอน จนใจที่เพราะน้องชายพ่ายศึกเสียชีวิต ทำให้ฮ่องเต้พระองค์ก่อนโกรธเกรี้ยว กลายเป็นเดือดร้อนมาถึงหลานสาวอวี้ฉือเฟยเยี่ยน ทำให้ฝั่งบ้านว่าที่สามีซึ่งหมั้นหมายไว้นานแล้วถอนหมั้น ส่งผลให้จนทุกวันนี้นางอายุสิบแปดปีก็ยังไม่ได้แต่งงาน อนิจจา เด็กคนนี้ดีเพียงใด ไม่ว่าอย่างไรก็ถูกโชคชะตาทำให้เสียเวลาเข้าแล้ว

ทันทีที่อวี้ฉือเฟยเยี่ยนเดินออกจากห้องก็มองเห็นห่อผ้าในมือของท่านลุง นางเอ่ยอย่างเข้าใจ “ท่านลุงจะเอาไปจำนำหรือเจ้าคะ”

อวี้ฉือรุ่ยถอนหายใจยาวพร้อมผงกศีรษะ เวลานี้ตระกูลตกอับ ได้แต่อาศัยการจำนำทรัพย์สมบัติครอบครัวเอาตัวรอด ช่วงก่อนหน้านี้เขายังมีบ่าวชราที่จงรักภักดีคนหนึ่งติดตามอยู่ข้างกาย การค้าที่น่าอับอายเช่นนี้ล้วนสั่งให้บ่าวชราเป็นคนไปทำ ทว่าบ่าวชราล้มป่วยเสียชีวิตลงแล้ว เขาไม่เหลือใครให้พึ่งพาได้อีก ตลอดครึ่งชีวิตที่ผ่านมาเคยใช้แต่ชีวิตคุณชายสุขสบาย ไฉนเลยจะเข้าใจการใช้ชีวิตปุถุชนเดินดิน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแขกประจำของโรงรับจำนำ รู้จักพูดจาเอาใจลูกจ้างที่หยาบคาย เพียงหวังว่าจะได้เงินเยอะขึ้นกว่านี้บ้าง

หน้าที่แล้ว1 of 5

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 1.1-1.2

บทที่ 1.1 การกลับมาของคุณหนู รัชศกเจี้ยนซิงปีที่ยี่สิบ พ้นวันที่สิบห้ากลิ่นอายวันปีใหม่ก็จางหายไปแล้ว แต่ละเรือนแต่ละครอ...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ก็เปรียบดั่งผ้าพันเท้าของสตรี เป็นของเก่าเน่าเหม็นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหม่มี...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 2.1-2.2

บทที่ 2.1 นกเขายึดรังนกสาลิกา “จางหมัวมัว?” จางหมัวมัวได้สติกลับมา นางตระหนักได้ว่าตนเองกำลังคิดเรื่องที่คุณหนูห้าเพิ่งก...

With Love

ทดลองอ่าน สาวกี่เพ้าคนนี้เป็นของคุณ บทที่ 1-2

บทที่ 1 เดือนมีนาคม แสงแดดกำลังพอเหมาะ สายลมพัดผ่านต้นอ่อนสีเขียว ทุกที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่เฉินซินอว...

community.jamsai.com