ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 5-6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 5-6

หน้าที่แล้ว1 of 5

บทที่ 5

เถ้าแก่ร้านตกใจจนเบิกตากว้าง โบกไม้โบกมือเอ่ย “แม่นาง นี่มันสิงโตอ้าปากกว้าง นี่! เห็นว่าพวกงานปักของเจ้าเป็นงานปักหลวงจากวังหรือไร ไม่ได้ๆ มิเช่นนั้นเจ้าเอาไปคุยกับร้านอื่นดูแล้วกัน!”

อวี้ฉือเฟยเยี่ยนยังคงยิ้มแย้มตามเดิม “เถ้าแก่ร้าน ท่านพูดว่างานปักของพวกเราไม่ได้ดีเลิศนั้นเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่ข้าขายมิใช่งานปัก แต่เป็นลวดลายเหล่านี้ ถึงแม้ร้านเย็บปักของท่านจะเป็นร้านใหญ่ที่สุดของเมืองหลวง แต่ระยะนี้ทั้งสีสันและรูปแบบของสินค้าต่างก็เลียนแบบจากร้านวั่นชู่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทั้งหมด ทั้งยังตั้งราคาถูกลงกว่าสามส่วน ผลกำไรจึงไม่มาก เนื่องจากเลียนแบบผู้อื่นจึงออกผลงานได้ช้ากว่าหนึ่งเดือน เวลาออกสินค้ามารูปแบบนี้ก็มีดาษดื่นทั่วทั้งถนนแล้ว ปริมาณสินค้าที่ขายได้ก็ไม่ดี ผลงานปักที่เหล่าฮูหยินชั้นสูงในเมืองหลวงเต็มใจซื้อจะเน้นคำว่า ‘โดดเด่นแตกต่าง’ นี้ และรูปแบบพวกนี้จะต้องเป็นหนึ่งเดียวของเมืองหลวง แน่นอนว่าหลังจากนี้หนึ่งเดือนตอนที่ร้านอื่นๆ เลียนแบบลวดลายเหล่านี้แล้ว ข้าย่อมออกแบบใหม่ส่งมาให้เถ้าแก่ร้าน แต่หากเถ้าแก่ร้านไม่เห็นงานปักของข้าอยู่ในสายตา ข้าก็จะนำไปเสนอให้กับร้านวั่นชู่แทนแล้ว…”

พูดจบนางก็เก็บสินค้าหันตัวกลับเตรียมจากไป ประโยคเหล่านี้พูดแทงใจดำเถ้าแก่ร้านเข้าแล้ว เขาจึงเอ่ยรั้งพวกนางเอาไว้ หลังจากหยิบลวดลายต่างๆ ขึ้นมา ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าควรรับพวกมันไว้ในราคาสูงหรือไม่

อวี้ฉือเฟยเยี่ยนอ่านความลังเลบนสีหน้าเถ้าแก่ร้านออก จึงยิ้มเอ่ย “เอาเช่นนี้แล้วกันเจ้าค่ะ ข้าจะทิ้งเอาไว้สามแบบก่อน เถ้าแก่ร้านมอบเงินให้ข้าหนึ่งตำลึงก็พอ ท่านเอาพวกมันเป็นต้นแบบให้เหล่าหญิงเย็บปักเลียนแบบ ถ้าหากขายดี ท่านค่อยส่งคนไปแขวนโคมผ้าโปร่งสีเหลืองหน้าประตูเรือนที่ตั้งอยู่ด้านในสุดของตรอกอู๋ถงเพื่อตามหาข้า ข้าค่อยขายลวดลายอื่นๆ ให้ท่านอีกทีเป็นอย่างไร”

เถ้าแก่ร้านพิจารณาแล้วผงกศีรษะตอบตกลง

ด้วยเหตุนี้อวี้ฉือเฟยเยี่ยนจึงทิ้งงานปักสามแบบเอาไว้ ส่วนงานอื่นๆ นางก็ห่อกลับแล้วเดินออกจากร้านเชียนซิ่ว เตรียมเดินทางกลับบ้าน

ตอนนั้นเองก็มีรถม้าคันหนึ่งจอดลงที่ฝั่งตรงข้ามของร้าน ตรงหน้าร้านคู่แข่งวั่นชู่มีสตรีสูงศักดิ์แต่งกายหรูหราผู้หนึ่งถูกสาวใช้ประคองลงจากรถม้า

พอสตรีสูงศักดิ์ผู้นั้นเหลือบมองมาเห็นอวี้ฉือเฟยเยี่ยนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโดยบังเอิญเข้าก็ละสายตาไปไม่ได้อีก

อวี้ฉือเฟยเยี่ยนช้อนสายตาขึ้นมองอีกฝ่าย การมองครั้งนี้นางไม่ตั้งใจ ทว่ากลับจดจำรูปโฉมของสหายเก่าขึ้นมาได้ นางอยากจะเอ่ยเรียกชื่อของอีกฝ่ายก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม ด้วยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายอยากแสดงออกว่ารู้จักกับนางหรือไม่ ตอนนั้นเองสตรีสูงศักดิ์เห็นแววตาลังเลของนางก็รู้ว่าจะต้องเป็นสหายเก่าแน่นอน จึงร้องเรียกด้วยความประหลาดใจระคนยินดีออกมา “เยี่ยนเอ๋อร์?! เจ้าจำข้าได้หรือไม่”

อวี้ฉือเฟยเยี่ยนค่อยๆ แย้มยิ้มออกมา “ข้าจะลืมพี่หญิงหลงเจินได้อย่างไรเล่า”

สตรีที่เพิ่งก้าวลงจากรถม้าก็คือสหายสนิทสมัยวัยเยาว์ของอวี้ฉือเฟยเยี่ยน อดีตคุณหนูตระกูลติ้งกั๋วโหวหลงเจิน วันนั้นตอนที่นางเข้าไปในจวนติ้งกั๋วโหวซึ่งปัจจุบันกลายเป็นจวนเซียวอ๋องแล้ว ยังคะนึงหาสหายสนิทสมัยวัยเยาว์ผู้นี้อยู่เลย ไม่นึกว่าจะได้มาบังเอิญพบกันที่นี่

เดิมทียังเป็นกังวลว่าช่วงแรกที่ทัพต้าฉีบุกเข้าเมืองหลวง ติ้งกั๋วโหวดื่มสุราพิษที่จวน สละชีพเพื่อบ้านเมือง โรยราไปพร้อมกับความรุ่งเรืองของต้าเหลียง สหายผู้นี้ของตนเองจะมีชีวิตลำบากแสนเข็ญ แต่ตอนนี้ดูแล้วยังคงไร้ปัญหาด้านความเป็นอยู่

หลงเจินเองก็ตื่นเต้นมาก นางไม่สนใจจะไปเดินซื้องานปักในร้านอีก แต่เข้าไปจับมืออวี้ฉือเฟยเยี่ยนไว้ ตั้งใจจะดึงอีกฝ่ายไปสนทนารำลึกความหลังด้วยกันในโรงน้ำชาใกล้ๆ

แต่อวี้ฉือเฟยเยี่ยนมีท่าทีลังเล นางตระหนักดีว่าตอนนี้ทุกกิริยาวาจาของตนเองล้วนอยู่ในสายตาขององค์ชายรอง ด้วยห่วงว่าหลงเจินสนิทสนมกับนางเกินไปแล้วจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย จึงเอ่ยปฏิเสธอ้อมค้อม “วันนี้ได้พบกับคุณหนูหลงเจิน นับว่าปล่อยวางความกังวลลงได้แล้ว แต่ที่บ้านยังมีธุระรอให้เฟยเยี่ยนกลับไปจัดการ ขอบอกลากันตรงนี้ ขอเชิญคุณหนูหลงเจินตามสบายเถิด”

หลงเจินได้ยินประโยคนี้แล้วใบหน้าเปลี่ยนสี ถามเสียงเย็น “หรือเจ้าเป็นเหมือนกับสหายเก่าคนอื่นๆ รังเกียจที่คุณหนูตระกูลโหวอย่างข้าเป็นอนุให้กับบุรุษป่าเถื่อนที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเซียวอ๋อง”

ถึงแม้หลงเจินจะเอ่ยอย่างเย็นชา ทว่าน้ำเสียงกลับสั่นเครือเล็กน้อย อวี้ฉือเฟยเยี่ยนได้ยินแล้วตกใจยิ่งกว่า เมื่อช้อนสายตาขึ้นมองหลงเจินอีกทีก็พบว่าถึงแม้อีกฝ่ายจะสวมชุดงามหรูหรา แต่ดวงหน้าโทรมหมองนั้นต่อให้ทาแป้งชาดหนาก็ยังปกปิดไม่มิด

อวี้ฉือเฟยเยี่ยนเห็นอารมณ์ของหลงเจินพลุ่งพล่านก็รีบจับมืออีกฝ่ายเอ่ยว่า “พี่หญิงคิดเช่นนี้ได้อย่างไร เพียงแต่ทุกวันนี้เฟยเยี่ยนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เกรงว่าจะทำให้พี่หญิงเดือดร้อนไปด้วยเท่านั้น”

หลงเจินรู้ว่าตนเองเสียกิริยาไป ทว่าหลังจากได้ยินอวี้ฉือเฟยเยี่ยนพูดเช่นนี้ เห็นนางแต่งกายด้วยผ้าเนื้อหยาบธรรมดา พลันนึกถึงเหตุการณ์ที่บิดานางตายแล้วก็เข้าใจขึ้นมา กุมมือนางตอบพร้อมเอ่ยว่า “เดี๋ยวนี้ชีวิตตกต่ำลงเรื่อยๆ ทุกวัน มีชีวิตผ่านไปได้หนึ่งวันนับเป็นหนึ่งวัน จะเดือดร้อนไม่เดือดร้อนอันใดเล่า!” พูดจบหลงเจินก็จูงมืออวี้ฉือเฟยเยี่ยนขึ้นรถม้า พาไปยังโรงน้ำชาใกล้ๆ ด้วยกัน

หน้าที่แล้ว1 of 5

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 1-2

บทที่ 1 ช่วงเวลาผลัดเปลี่ยนราชวงศ์ก็เปรียบดั่งผ้าพันเท้าของสตรี เป็นของเก่าเน่าเหม็นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนเป็นผ้าผืนใหม่มี...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 1.1-1.2

บทที่ 1.1 การกลับมาของคุณหนู รัชศกเจี้ยนซิงปีที่ยี่สิบ พ้นวันที่สิบห้ากลิ่นอายวันปีใหม่ก็จางหายไปแล้ว แต่ละเรือนแต่ละครอ...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 3-4

บทที่ 3 หัวหน้าขันทีไม่แม้แต่จะเหลือบแลอวี้ฉือรุ่ย แต่ถามออกมาตรงๆ “ท่านใดคือคุณหนูเฟยเยี่ยน” เสียนเกอเอ๋อร์ข่มโทสะไม่อย...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 5-6

บทที่ 5 เถ้าแก่ร้านตกใจจนเบิกตากว้าง โบกไม้โบกมือเอ่ย “แม่นาง นี่มันสิงโตอ้าปากกว้าง นี่! เห็นว่าพวกงานปักของเจ้าเป็นงาน...

community.jamsai.com