X
    Categories: LOVEฌาลิสสาทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ฌาลิสสา บทที่ 6

หน้าที่แล้ว1 of 4

บทที่ 6

แม้ข่าวลือเรื่องชาติกำเนิดของเจ้าหญิงลลิสสาจะดังกระฉ่อนมาตั้งแต่ยังเล็ก แต่ด้วยบุคลิกลักษณะที่น่ารัก บอบบางเหมือนตุ๊กตา ทำให้ประชาชนพูรัมส่วนใหญ่รักเจ้าหญิงเหมือนลูกเหมือนหลานจนเรียกกันติดปากว่า ‘เจ้าหญิงน้อย’ ดังนั้นเมื่อแก้วตาดวงใจของชาวพูรัมถูกย่ำยีศักดิ์ศรี มีหรือประชาชนจะไม่ทวงความเป็นธรรม

กระแสแห่งความขัดแย้งระหว่างสองประเทศทวีความดุเดือด จากการเมืองท้องถิ่นสู่การเมืองระดับประเทศ ดารานักร้อง เซเลบริตี้คนดัง หรือแม้แต่เน็ตไอดอลหิวแสงล้วนดาหน้าออกมาให้ความเห็นตามทีวีและสื่อสังคมออนไลน์ แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาราชากลับแน่นแฟ้นยิ่งนัก

“ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะราช”

“คนที่นายต้องขอโทษน่าจะเป็นลิสสามากกว่า”

“ลิสสาไม่ฟังฉันหรอก”

มหาราชาแห่งพูรัมพยักหน้าด้วยรู้ว่าน้องสาวของตนนั้นดื้อรั้นขัดกับภาพลักษณ์น่ารักสดใสลิบลับ

“รั้นไปงั้นแหละ นายเห็นลิสสามานานน่าจะรู้”

“เพราะรู้น่ะสิ ถึงไม่กล้าคุย”

อาเมียร์หัวเราะพรืดเมื่อจับความกริ่งเกรงในน้ำเสียงของเพื่อนได้

“โทรมาคราวนี้ นายคงมีทางออกแล้วสินะ”

“อืม แต่ไม่รู้ว่าลิสสาจะยอมไหม”

“ทางออกอะไร”

“แต่งงาน!”

เรียวปากของมหาราชาแห่งพูรัมกระตุก สีหน้าเข้มขึ้นละม้ายเห็นเค้าลางความยุ่งยากลอยมาแต่ไกล

“ลิสสายังเด็ก”

“ส่วนฉันก็แก่ขึ้นทุกวัน”

ด้วยอายุที่ห่างกันเกือบยี่สิบปีทำให้มหาราชาแห่งพูรัมเริ่มไม่แน่ใจว่าทั้งคู่จะลงเอยกันได้รึเปล่า ฌาร์มานมีอำนาจและมันสมอง รับมือกับความแสบสันของลลิสสาได้ก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่ภรรยาของเขาเตือนไว้ทำให้เขาไม่อาจรับปากได้โดยง่าย

“แกก็รู้ว่าฉันกับลิสสาเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ทีแรกฉันคิดว่าให้ลิสสามาร่วมงานวันเกิดฉัน เราจะได้มีเวลาทำความรู้จักกันมากขึ้น แต่ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะใช้ลิสสาเป็นหมากเพื่อชิ่งกระทบฉัน”

“แกรู้แล้วเหรอว่าเป็นฝีมือใคร”

“พวกเดิม”

“ถ้าลิสสาแต่งไปกุณฑ์ชาลา ศัตรูของนายไม่จ้องเล่นงานน้องฉันด้วยรึไง”

“ฉันจะปกป้องลิสสาด้วยชีวิต”

อาเมียร์รับรู้ถึงความรักที่เอ่อล้นอยู่ในหัวใจเพื่อน เพราะฌาร์มานสารภาพกับเขาตามตรงเมื่อลลิสสาอายุได้สิบเก้าปี และเขาก็เฝ้ามองความเป็นไปของทั้งคู่มาตลอด ทว่าการแต่งงานมีปัจจัยให้ต้องกังวลกว่านั้น

“เรื่องแต่งงาน ฉันอยากยืดออกไปก่อน วตีไม่มีวันยอมแน่”

“แต่นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด”

“ดีที่สุดสำหรับใครล่ะ…ฌาร์มาน”

“นายก็รู้ว่าฉันไม่มีวันทำให้ลิสสาเสียใจ”

เขารู้ดีทีเดียวว่าเพื่อนซี้ยอมเอาชีวิตเข้าแลกหลายต่อหลายครั้งเพื่อปกป้องน้องสาวจากอันตรายทั้งปวง จะมีชายใดในโลกนี้ยอมตายเพื่อหญิงที่รัก โดยที่ผู้หญิงคนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร

‘แค่ลิสสาปลอดภัย…ก็พอแล้ว’

ฌาร์มานเคยยอมรับด้วยน้ำเสียงเก้อเขิน อาเมียร์ไม่เข้าใจความรักในแบบฉบับของฌาร์มานนัก เพราะความรักของเขากับรานีคือการร่วมฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน แต่ของฌาร์มานคือการอยู่เบื้องหลัง คอยคุ้มครองและเฝ้ามองคนที่ตนเองหลงรักให้อยู่ดีมีสุข

อาเมียร์อยากเอาใจช่วยเพื่อน แต่การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ ยิ่งเป็นการแต่งงานต่างเชื้อชาติด้วยแล้วยิ่งต้องผ่านขนบธรรมเนียมประเพณีมากมาย แต่เห็นแก่ความสัมพันธ์อันยาวนานเขาจะลองสักตั้ง

“เอาเป็นว่าฉันจะลองเกริ่นดู”

ในเมื่อรับปากแล้วอาเมียร์จึงแสร้งเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นซึ่งมีรานีปัทมาวตีกับลูกสาวลูกชายวัยแปดขวบ และเจ้าหญิงลลิสสากำลังพูดคุยกันอย่างครื้นเครง สีหน้าเคร่งเครียดของตนทำให้รานีปัทมาวตีส่งบุตรสาวบุตรชายให้นางกำนัลพาออกไปข้างนอก เจ้าหญิงน้อยทำทีจะลุกขึ้น แต่เขากลับโบกมือห้ามไว้

“ลิสสาอยู่คุยกับพี่ก่อน”

สัญชาตญาณความเป็นแม่ทำให้รานีปัทมาวตีกางกรงเล็บปกป้องลูกน้อย

“มีธุระอะไรรึเปล่าเพคะ ไหนว่าฝ่าบาทมีประชุมเช้า”

“พี่มีธุระ อยากปรึกษาลิสสากับวตีก่อน”

สองแม่ลูกมองหน้ากันด้วยความหวาดระแวง และขยับเข้าหากันโดยอัตโนมัติ

“มีเรื่องอะไรเพคะ”

“ฌาร์มานเสนอทางออกด้วยการขอลิสสาแต่งงาน”

ทั้งสองเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เจ้าหญิงน้อยยังไม่ทันเอ่ยปฏิเสธ แม่บุญธรรมก็ออกโรงก่อนทันที

“นี่เหรอเพคะทางออก ฝ่าบาทจะทรงยอมให้ทางนั้นคิดว่าเราเป็นลูกไล่ นึกจะบีบยังไงก็ได้เหรอเพคะ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นวตี ฌาร์มานทำไปเพื่อรักษาเกียรติของลิสสา”

“รักษาเกียรติ? แล้วไม่ห่วงความรู้สึกของลูกสาวหม่อมฉันบ้างเหรอเพคะ ลิสสาเพิ่งจะยี่สิบเอ็ด แต่ฌาร์มานเกือบจะสี่สิบแล้วนะเพคะ ฝ่าบาทจะให้ลิสสาแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อเหรอเพคะ”

“ฌาร์มานไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อยวตี อีกอย่างใครๆ ก็อยากเป็นรานีของฌาร์มานทั้งนั้น”

“งั้นก็ยกให้คนพวกนั้นสิเพคะ มายุ่งกับลูกสาวหม่อมฉันทำไม”

“ฟังกันบ้างสิวตี ทำไมไม่มีเหตุผลแบบนี้”

“เรื่องเหตุผล…หม่อมฉันคงสู้ฝ่าบาทไม่ได้ แต่ความรักลูก หม่อมฉันมีมากกว่าพระองค์แน่”

ทั้งสองจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร ทำเอาคนกลางอย่างเจ้าหญิงลลิสสาลอบถอนหายใจ เธอรู้ดีว่ารานีปัทมาวตีรักตนเหมือนลูกสาวจึงไม่อยากให้เธอถูกบังคับ ทว่าสองวันมานี้เธอครุ่นคิดถึงทางแก้และผลลัพธ์ขั้นเบาไปจนถึงร้ายแรงที่สุด และหนึ่งในนั้นคือการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์สองประเทศ

ในเมื่อเธอยังไม่มีคนรัก และไม่เคยคิดจะรักใคร เพราะเห็นตัวอย่างของทูลกระหม่อมพ่อกับทูลกระหม่อมแม่มาแล้ว เธอจึงมองความรักเป็นสิ่งแปลกปลอม เป็นของแสลงที่สิ้นเปลืองเวลา การต่อรองผลประโยชน์ต่างหากที่ช่วยให้เธอมีชีวิตรอดอย่างมั่นคงและปลอดภัย

บางทีการแต่งงานกับผู้ชายที่ใครๆ ลือกันว่าโหดเหี้ยมอาจไม่แย่นัก ฌาร์มานขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในภูมิภาคเอเชียใต้ แถมรูปร่างหน้าตาของเขาก็…ไม่เบาเลย

เราสองคนมีเหตุให้เจอกันหลายครั้ง ซึ่งเธอยอมรับโดยดุษณีว่าเขาโดดเด่นท่ามกลางคนหมู่มาก รูปร่างสูงใหญ่บึกบึนแบบทหาร หน้าตาหล่อเหลาคมคาย ท่าทางเย็นชาทำให้เขาน่าค้นหา ข้อสำคัญเพื่อนของเธอกรี๊ดเขามาก

‘เขาฮอตมากนะลิสสา เป็นคิงที่ยังโสดแล้วก็แฮนด์ซั่มมาก เธอไม่รู้จักเขาได้ยังไง’

‘ก็เคยคุยบ้าง’

‘ถ้าฉันเป็นเจ้าหญิงพูรัม ฉันต้องหาข้ออ้างแวะไปเยี่ยมเขาบ่อยๆ แน่’

เพื่อนสาวอีกคนที่กรี๊ดฌาร์มานเหมือนกันก้าวเข้ามาร่วมวง

‘พวกเธอนินทาแด๊ดดี้ฉันอยู่เหรอ’

‘แด๊ดดี้? เขายังไม่แต่งงานไม่ใช่เหรอ’

‘เขาเอาไว้เรียกผู้ชายมีอายุแต่ยังภูมิฐาน มาดดีย่ะ’

เขามาดดีจริงๆ นั่นแหละ ขนาดยืนไกลกันแบบนี้ยังโดดเด่น งามสง่าสมกับเป็นมหาราชา

‘ได้ข่าวว่าเขารวยมาก มีเหมืองเพชรเหมืองทองของตัวเอง จริงรึเปล่า’

‘ทำนองนั้น กุณฑ์ชาลามีแร่หายากเยอะมาก ไม่เหมือนประเทศฉันหรอก เป็นประเทศเกษตรกรรมเล็กๆ แต่ถ้าหยุดส่งออกสินค้าเกษตรเมื่อไร ประเทศแถวนี้อดตายแน่’

‘เผลอไม่ได้เลยนะลิสสา ขิงใส่ประเทศอื่นตลอด’ เจ้าหญิงน้อยหัวเราะเสียงใส ‘ไม่เอาล่ะ ไม่พูดเรื่องการเมืองล่ะ ปวดหัว ไปเซย์ฮัลโหลเขากันดีกว่า’

‘ไม่ล่ะ เธอไปเถอะ ฉันไม่อยากแย่งซีนเธอ เกิดเขาชอบฉันขึ้นมา เธออกหักแน่’

‘ชิ!’

เพื่อนสาวย่นจมูกใส่ก่อนเดินนวยนาดไปหามหาราชา ไม่นานเขาก็หันมาทางเธอ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเหตุใดหัวใจของเธอถึงเต้นถี่ยิบ ใบหน้าร้อนเห่อขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว แต่แล้ววินาทีถัดมาเขาก็หันกลับไปพูดคุยกับเพื่อนของเธออีกไม่กี่คำ ฝ่ายนั้นก็เดินหน้าหมองกลับมา

‘เกิดอะไรขึ้น’

‘อกหักน่ะสิยะ ยังไม่ทันชวนเดต เขาก็บอกว่ามีคนรักอยู่แล้ว’

เรื่องราววันนั้นย้อนเข้ามาในความทรงจำทุกครั้งที่ได้พบกัน…เขามีคนรักอยู่แล้ว!

หรือว่าเหตุผลที่ทางนั้นเสนอการแต่งงานเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ แท้จริงแล้วเขาต้องการจะใช้การแต่งงานครั้งนี้กลบข่าวลือเรื่องนิยมไม้ป่าเดียวกัน

จะว่าไปการแต่งงานกันเพื่อรักษาผลประโยชน์ระหว่างประเทศก็ดีเหมือนกัน ถ้าเธอแต่งงาน พูรัมก็จะมีกุณฑ์ชาลาคอยคุ้มครองและคานอำนาจกับคูชรี โดยไม่ต้องคอยระแวงว่าสองประเทศนี้จะร่วมมือกันแล้วหันมารังแกประเทศเล็กอย่างพูรัมรึเปล่า

“ตกลงค่ะพี่ราช ลิสสาจะแต่งงาน”

คำตอบที่ทะลุขึ้นกลางปล้องทำให้มหาราชาและรานีแห่งพูรัมมองกันตาค้าง

“ไม่ได้นะลิสสา การแต่งงานคือความสุขทั้งชีวิตของลิสสา พี่ไม่มีวันยอมให้ลิสสามาเสี่ยง”

“ลิสสาโอเคกับการแต่งงานนี้ค่ะ พี่ราชบังคับลิสสาไม่ได้อยู่แล้ว พี่วตีก็รู้”

แต่ความเป็นแม่ทำให้ยังมีถ้อยคำค้างคาใจไม่หาย

“ถ้าลิสสากังวลเรื่องทางออกเลยรับปากเพื่อให้เรื่องจบๆ ไป พี่บอกเลยว่าไม่จำเป็น พี่จะหาข่าวใหม่มากลบเรื่องลิสสาเอง ลิสสาไปเรียนต่อโทสักใบ รอจนเรื่องเงียบแล้วค่อยกลับมาก็ได้”

“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะพี่วตี ลิสสาไม่อยากหนีปัญหา เชื่อลิสสาสิคะพี่วตี คนอย่างลิสสาไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบง่ายๆ หรอก ไหนๆ ลิสสาก็เป็นหมากในเกมการเมืองครั้งนี้แล้ว ลิสสาจะแต่งงานกับฝ่าบาทค่ะ แต่มีเงื่อนไขนะคะ”

“เงื่อนไขอะไร”

อาเมียร์ประจักษ์ความแสบสันของน้องสาวมาตั้งแต่อีกฝ่ายยังเยาว์ โตเป็นสาวแล้วมีหรือความแสบสันนี้จะลดน้อยลง เผลอๆ จะทวีคูณความร้ายกาจขึ้นด้วยซ้ำ

“ข้อแรกกุณฑ์ชาลาต้องทำสัญญาซื้อขายสินค้าเกษตรของพูรัม ลิสสาต้องการผูกขาดตลาดสินค้าค่ะ เกษตรกรต้องขายสินค้าได้ และทางกุณฑ์ชาลาต้องประกันราคาสินค้าขั้นต่ำให้เราเป็นเวลาสิบปี”

“สิบปี? มันไม่นานไปหน่อยเหรอลิสสา”

“หรือว่าฝ่าบาทจะลงจากบัลลังก์เร็วๆ นี้ล่ะคะ ลิสสาจะได้ปฏิเสธการแต่งงานนี้ซะ”

“แล้วทำไมต้องสิบปีด้วยล่ะ”

“อีกสิบปีข้างหน้าเทคโนโลยีทางการเกษตรคงก้าวไกลกว่านี้ กุณฑ์ชาลาอาจพบวิธีการเพาะปลูกบนที่สูง ถึงเวลานั้นเขาอาจหาข้ออ้างมาปฏิเสธสินค้าของพูรัม อีกทั้งอุตสาหกรรมเกษตรของพูรัมน่าจะพัฒนาไปมากกว่านี้ ถึงเวลานั้นเราคงพัฒนาสินค้าเกษตรป้อนตลาดโลกได้ไม่ยาก”

“ลิสสาไปเรียนศิลปะแน่เหรอ พี่นึกว่าเรียนเศรษฐศาสตร์เสียอีก”

“บอกแล้วไงเพคะว่าลูกสาวของหม่อมฉันฉลาด”

“แล้วข้อสองล่ะ”

“สินสอดของลิสสาเพคะ”

“สินสอด?”

ตามธรรมเนียมโบราณของพูรัมแล้ว เจ้าสาวต้องเป็นฝ่ายหอบสินสอดไปขอเจ้าบ่าว มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่ฐานะ แม้ปัจจุบันธรรมเนียมนี้จะล้าสมัยและมีการรณรงค์จากกลุ่มผู้หญิงยุคใหม่ให้ยกเลิกไปแล้ว แต่ในทางปฏิบัติยังมีให้เห็นกันจนชินตา

“เท่าไหร่”

“ทองยี่สิบตันเพคะ”

อาเมียร์เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ “รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมาลิสสา”

“รู้ค่ะพี่ราช ทองยี่สิบตันนี้ ลิสสาไม่ได้เก็บไว้เอง แต่จะเอาไปเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศค่ะ”

ความเสียสละของเจ้าหญิงน้อย ทำให้น้ำตาของแม่บุญธรรมตกใน ลูกสาวคนโตของตนมีความคิดอ่านลึกซึ้งถึงเพียงนี้ เป็นเรื่องน่าชื่นชม แต่การยอมเสียสละตนเองเพื่อประเทศขนาดนี้ รานีปัทมาวตียอมไม่ได้

“เห็นไหมเพคะว่าลูกสาวหม่อมฉันเสียสละเพื่อพูรัมขนาดไหน แล้วพระองค์ล่ะทรงทำอะไรเพื่อปกป้องน้องสาวของพระองค์บ้าง”

“ลิสสาไม่ได้ฝืนใจหรอกค่ะ พี่วตีลองคิดดีๆ สิคะ ลิสสาเป็นคนเลือกฝ่าบาทนะ ไม่ใช่ฝ่าบาทเลือกลิสสา เพราะฉะนั้นหากฝ่าบาทผิดเงื่อนไขแม้แต่ข้อเดียว ลิสสาก็ไม่แต่งค่ะ”

“แต่ว่าแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ มันหมายถึง…”

“ความรักน่ะเหรอคะ ลิสสาไม่รู้จักมันด้วยซ้ำ ขอแค่ลิสสาได้ประโยชน์ พูรัมได้ประโยชน์ ลิสสาพร้อมดีลค่ะ!”

 

(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน กันยายน 65)

หน้าที่แล้ว1 of 4

Comments

comments

No tags for this post.
Jamsai Editor: