“ไม่เป็นไรค่ะ คุณติอย่าเข้ามาเลย เดี๋ยวจะเหยียบเศษแก้วไปด้วย…”
“แผลแค่นั้นไม่ตายหรอก”
เสียงเอ่ยราบเรียบทำให้หญิงสาวชะงัก กวินจ้องไปยังประกายคลุมเครือใต้แพขนตาพร้อมกระซิบเสียงเบา เหยียดหยัน ชัดเจนทุกถ้อยคำ
“คนแบบนี้ไม่มีความรู้สึกให้เจ็บปวดด้วยซ้ำ”
เหมือนเสียงเม็ดฝนจะหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม เมื่อหญิงสาวเลือกที่จะสบตาอีกฝ่ายก่อนเอ่ยช้า ชัด ราวกับไม่ใส่ใจ ราวกับว่าไม่มีความจำเป็นต้องเกี่ยวพันกันแม้ในฐานะลูกค้ากับเจ้าของร้าน
“ฉันค่อนข้างเลือกคนที่จะใช้ความรู้สึกด้วยน่ะค่ะ”
โดยไม่รอฟังคำตอบโต้ มาลารินก็ผลุบหายเข้าไปเอาอุปกรณ์เก็บกวาดหลังร้านครู่สั้นๆ เดินออกมาอีกครั้งก็จัดการเศษแก้วโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นสบตาใครอีก และกลับเป็นกวินเสียเองที่เริ่มลุกโชนด้วยโทสะ ทว่าก่อนซากป่นละเอียดข้างในจะถูกขยี้เหยียบซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกครั้ง เสียงกรุ๋งกริ๋งจากกระดิ่งประตูพร้อมผู้มาใหม่ก็เรียกความสนใจของทุกคนเสียก่อน
เสียงเกรี้ยวกราดของท้องฟ้าค่อยๆ เคลื่อนห่างไปแล้ว หากสายฝนก็ยังพรูพร่างไม่ขาดสาย ยามที่เด็กชายในวัยราวสิบขวบกับชุดนักเรียนเปียกปอนของเขาก้าวเข้ามาพลางกวาดมองบรรยากาศในร้านด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะวิ่งเข้าไปหามาลารินอย่างตื่นตระหนกเมื่อเห็นรอยเลือดและเศษแก้ว
“แม่…เจ็บตรงไหนมั้ยฮะ”
ที่สุดแล้วก็เป็นตอนนั้นแหละ ที่รอยยิ้มอ่อนหวานของหญิงสาวหนึ่งเดียวพลันระบายอ่อนจาง
“ทำไมเปียกขนาดนี้ล่ะรัน”
มาลารินถามกลับพลางลูบเรือนผมชื้นๆ นั่น และไม่มีทีท่าจะอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย ความเป็นแม่อันเปี่ยมล้นตรึงความสนใจของเธอมายังคนตรงหน้าแทบทั้งหมด
“รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว อย่าเสียงดังล่ะ คุณยายงีบอยู่”
แม้จะมีท่าทีละล้าละลังด้วยทั้งเป็นห่วงและอยากช่วยเก็บกวาด ทว่าสุดท้ายเด็กชายก็พยักหน้าอย่างว่าง่ายก่อนวิ่งหายเข้าหลังร้านไป โดยไม่รู้เลยว่าตลอดเวลานั้นจะมีชายร่างสูงคนหนึ่งจับจ้องตนอยู่อย่างตกตะลึง…
ตะกอนอารมณ์เก่าก่อนถูกกระตุ้นจนขุ่นคลั่ก กับเพียงผลักดันให้กวินสาวเท้าเข้าไปหาหญิงสาวทันทีโดยไม่สนแม้เศษแก้วบนพื้น เขากระชากแขนของเธออย่างแรงจนกีรติที่ลอบจับจ้องการกระทำนั้นอยู่รีบลุกเข้าไปห้ามก่อนจะถูกเจ้าของร่างสูงสะบัดแทบล้ม กวินไม่ได้หันไปมองน้องชายด้วยซ้ำ ดวงตาสีเทาคมกริบ บาดลึก ถลึงจ้องคนตรงหน้าด้วยทั้งโกรธแค้นและสับสน
“เด็กนั่นใคร!!”
มาลารินมองเรียวแขนซึ่งถูกแรงบีบจนแดงเถือกของตนเพียงแวบสั้นๆ ก่อนเบนสายตาที่ไม่มีใครอ่านออกกลับมาสบอีกฝ่าย แล้วจึงตอบโดยไม่คิดปิดบัง
“ลูกชายของฉัน”
“กับใคร!!”
ชายหนุ่มตะคอกแข่งเสียงฝนด้านนอก เหมือนรอยซึ่งแหลกละเอียดมาเนิ่นนานกลับถูกขยี้ให้เป็นผงในทันทีทันใดโดยไร้สัญญาณเตือน ป่นสลายกับเหลือไว้แต่เพลิงไหม้ไร้ทางดับ…กวินมองเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวตรงหน้า ดวงตาที่ดูชื้นชุ่มด้วยหยดน้ำบางๆ เคลือบอยู่ตลอดเวลานั่น ดวงตาที่ลึกเร้นด้วยสีดำสนิทราวไร้สิ้นสุดอย่างที่เคยทำให้เขาดิ่งร่วงลงไปและติดค้างในมืดบอดตลอดกาล…ใช่ ดวงตาคู่นี้…ดวงตาแบบที่เด็กชายคนเมื่อครู่ได้ครอบครองไม่มีผิดเพี้ยน ดวงตาที่ต้องมีสายเลือดเดียวกันเท่านั้นจึงจะเหมือนได้!