“ถ้าไม่ได้ทำงานหาเงินเองก็อย่ามาหว่านเล่นแบบนี้”
หญิงสาวเอ่ยอย่างสะกดกลั้น แวบหนึ่งคล้ายว่ายังเหลือถ้อยคำเผ็ดร้อนอีกมากมายให้ระบายออกมา แต่ก็กักเก็บเอาไว้เท่านั้นพร้อมการกอดอกและเชิดหน้าขึ้นราวจะประกาศว่าไม่ยินยอม ขณะที่กวินเองก็โกรธไม่ยิ่งหย่อนกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังมีเรื่องประหลาดใจมากกว่า
“เข้ามาได้ไงวะ”
“อ๋อ”
อีกฝ่ายว่าพลางระบายยิ้มกว้างอย่างเปิดเผยพร้อมชูพวงกุญแจขึ้นหรา ส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งคล้ายยียวน
“ไม่รู้เหรอว่าพี่ประณตเอากุญแจสำรองให้ฉันหมดทุกดอกแล้ว”
เรียวมือรีบเก็บกำอย่างว่องไวเมื่อกวินตั้งท่าจะคว้าคืน ไม่สนใจประกายโทสะวาวโรจน์แม้แต่น้อยในตอนที่เธอกระชับถือกระเป๋าเดินทางของตนแน่น ก่อนเดินเข้าห้องว่างตรงข้ามบันไดอย่างมั่นคงซ้ำยังมิวายหันกลับมาคลี่ยิ้มให้อีกฝ่ายจนตาหยี
“แย่หน่อยนะที่เงินซื้อฉันไม่ได้ถ้าไม่มากพอ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ…กวิน ตันติณรงค์!”
“โอ๊ย! ขำอะ ทำไมตลกแบบนี้”
เสียงหัวเราะก้องดังทั่วโถงทางเรียกสายตาโดยรอบให้จับจ้องหญิงสาวและชายร่างสูงที่มาด้วยกันทันที มาลารินยิ้มขอโทษขอโพยพลางกระทุ้งศอกใส่อีกฝ่ายจนคนขำสะบัดหน้าไปคิกคักให้ต้นคามีเลียใกล้กันแทน ขณะที่รื้นรางของสายลมพัดมาจางๆ เมื่อทั้งสองก้าวออกจากเขตอาคารศิลปะแล้วเดินเลี้ยวเลียบทางเท้าริมถนนนอกเขตมหาวิทยาลัย ผ่านต้นไม้สูงเรียงรายกับกลิ่นอายชื้นๆ ของท้องฟ้าสีตะกั่วยามคล้อยบ่าย
“ตลกอะไรกัน ซวยล่ะสิไม่ว่า” หญิงสาวเบ้ปาก กลอกตานึกย้อนภาพเหตุการณ์เมื่อวานก่อนบ่นอุบ “เธอต้องเห็นสายตาเด็กนั่นซะก่อน อย่างกับเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก”
“แสดงว่าจักรวาลหมุนเธอไปเจอเพื่อช่วยเค้าเลยนะเนี่ย ตั้งแต่เรื่องที่คลับคราวก่อนแล้ว” ฮวนยังคงหัวเราะคิกคัก
“อ๋อเหรอ งั้นก็แสดงว่าจักรวาลเองก็หมุนตานั่นมาทำให้ชีวิตฉันมีแต่เรื่องซวยๆ น่ะสิ”
มาลารินไหวไหล่แสดงท่าทีไม่อินังขังขอบ…ในเมื่อเธอคิดอย่างที่พูดจริงๆ
กวินคือความสลับซับซ้อนกึ่งๆ จะอหังการที่ยากจะเข้าใจในสายตาของหญิงสาว ภาพหว่านเงินทิ้งราวเห็นเป็นของไร้ค่ากับสีหน้าดูแคลนเมื่อเห็นเธอวิ่งลงไปเก็บธนบัตรยังฝังค้างอยู่ในหัว กระนั้นแผ่นหลังของเขายามพาตัวเองเดินกลับเข้าบ้านก็ยังมีอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออกอยู่ และกับอาการเช่นนั้นก็กลายมาเป็นคำถามซึ่งค้างคาในใจว่าทำไมหนอ…ทำไมเด็กวัยเพียงสิบแปดจึงได้แตกร้าวและเอาแต่ห่อพันตัวเองไว้กับความเกลียดชังถึงขนาดนี้
“แล้วนี่ได้ทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กบ้างรึยัง”
ฮวนเอ่ยถามขณะที่ไฟอนุญาตข้ามถนนจากอีกฟากปรากฏพร้อมเสียงสัญญาณเร่งเร้า เรียกให้มาลารินต้องรีบรุดขนาบตามเพื่อนสนิทไปทั้งๆ ที่ปากยังเล่าไม่หยุด
“เมื่อวานตานั่นหนีออกไปเกือบทั้งคืน วันนี้เห็นมีเรียนช่วงบ่ายฉันเลยทำข้าวเช้าทิ้งไว้ให้ก่อนมาเข้าคลาส”
“เหมือนซ้อมมีลูกเลยเนอะ”
“เป็นการเลี้ยงลูกที่เงินดีมาก บอกเลย”