เขายกมือตบผิวน้ำทีหนึ่ง ละอองน้ำกระเซ็นขึ้นมาผืนใหญ่ สาดทั่วใบหน้าและศีรษะของเขา
‘ถ้าเจ้าไม่วางยาอย่างเชื่องช้าโดยไม่แสดงสีหน้า ก็ต้องวางดาบปาดคอรวดเดียวโดยไม่แจ้งเตือนก่อน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ห้ามเอะอะมะเทิ่งเข้าไปตบหน้าตบหัวอีกฝ่ายเด็ดขาด!’
คำพูดนี้ไม่ผิดแม้แต่น้อย เพียงแต่เวลาลงมือจริงเขายังไม่อาจจับจุดสำคัญนั้นได้
ทว่าอย่างน้อยโรงเตี๊ยมเม่าเหลียงก็ไม่ขาดทุนอีกต่อไปแล้ว ซึ่งเท่ากับลดความเสียหายของเขาไปได้อย่างแน่นอน
สวบ!
เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืนพลางระบายลมหายใจเฮือกใหญ่ ยกแขนบิดตัวไปด้านหลังเพื่อคลายกล้ามเนื้อทั่วร่าง ท่านพ่อพูดไว้ไม่ผิด หาเวลาว่างมาทำสิ่งที่ตัวเองชอบบ้าง ได้บำรุงจิตใจ ทั้งยังสะอาดอีกด้วย!
บนระเบียงทางเดิน ลมเย็นพัดโชยมา
เงาร่างหนึ่งวิ่งจี๋อย่างเร็ว แม้ร่างนั้นจะกลมแน่นอวบอิ่ม แต่ฝีเท้ากลับว่องไวปราดเปรียว
ยาประหลาดถ้วยนั้นใกล้จะเย็นแล้ว ยังไม่เห็นเงาของหลิ่วอันเหอเลย ไม่รู้ไปไหนกันแน่!
คุณหนูน้อยตัวกลมมองซ้ายแลขวา คล้ายกับได้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมาจากห้องข้าง กลิ่นนั้นหอมสดชื่นเสียเหลือเกิน หรือว่าหลิ่วอันเหอจะมากินยาถึงที่นี่กันนะ
นางกินยากี่ชามกันแน่เนี่ย! ไฉนมีกลิ่นยาทุกหนทุกแห่งเลย
เอี๊ยด…
หลิ่วมู่ชิงที่อยู่ในห้องข้างได้ยินเสียงจากโถงด้านนอกก็ลุกยืนเต็มความสูง เรียกเบาๆ ว่า “ข้าเสร็จแล้ว พวกเจ้าเข้ามาได้”
“อันเหอ เจ้ามากินยาในนี้หรือ”
เสียงน้ำใสกระจ่างกลบเสียงถามนี้ไปสิ้น คนที่ยืนอยู่โถงด้านนอกแสดงสีหน้าสงสัย ก้าวเข้าไปด้านในโดยไม่รู้ตัว เห็นฉากบังลมหินอ่อนแกะสลักรูปบุปผาสกุณาอันวิจิตร นางชะงักนิดหนึ่งแล้วจึงอ้อมข้างฉากเดินเข้าไป
“วันนี้พวกเจ้ามาเร็วเสียจริง” เสียงบุรุษที่ฟังดูอบอุ่นดังขึ้น
ร่างสูงโปร่งยืนอยู่ในน้ำ กำลังก้าวขาสูงเพื่อจะข้ามขอบถังออกไป สายตาเหลือบเห็นคนคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาจากฉากบังลม
“พี่มู่ชิงหรือ…”
แรกสุดสิ่งที่เข้ามากระทบสายตาเฟิ่งเป๋าเป่าคือวัตถุสีขาวก้อนใหญ่ จากนั้นก็เป็นหน้าขาวๆ ของหลิ่วมู่ชิงที่หันขวับกลับมา แต่แทบจะเวลาเดียวกันนั้น นางก็พลันพบว่าวัตถุขาวๆ ผอมบางที่อยู่ตรงหน้าก็คือร่างเปลือยเปล่าของหลิ่วมู่ชิง…
“วะ…เหวอออ!”
พี่มู่ชิงมะ…ไม่…ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า?!
นางยกมือกุมหน้าอก อ้าปากหวอ และอ้ากว้างขึ้น จากนั้นก็กรีดเสียงร้อง ในสมองมีเสียงดังอื้ออึงก่อนจะว่างเปล่า
โตมาจนอายุสิบสองปี แม้ว่าในบ้านจะมีบุรุษอยู่หลายคน แต่นางไม่เคยเห็นบุรุษไม่ใส่เสื้อผ้าทั้งบนทั้งล่างมาก่อน ทั้งยังอยู่ในระยะใกล้ขนาดนี้ด้วย ใกล้จนกระทั่งนางเห็นหยดน้ำใสแจ๋วที่เกาะบนร่างสูงยาวนั้นชัดเจน บนแผงอกที่เปียกชื้นมีจุดสีชมพูสองเม็ด ยังมีเอวและสะโพกที่เส้นโค้งชัดเจนจนน่าตะลึง รวมไปถึงขายาวๆ ข้างหนึ่งที่กำลังอ้ากว้าง แล้วก็…สิ่งที่น่าสะพรึงที่สุดก็คือนางเห็นตรงนั้นที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองข้าง
ตรงนั้น…ตรงนั้นเหตุใดเป็นแบบนั้นล่ะ!
ข้าเห็นแล้ว! ข้าเห็นหมดแล้ว! ทั้งยังเป็นของพี่มู่ชิงเสียด้วย!
“จะ…เจ้าอย่าเสียงดังสิ!”
หลิ่วมู่ชิงดึงสติกลับมาจากสถานการณ์คับขันได้ก่อน เขาทิ้งตัวกลับลงไปในถังน้ำดังตูม หูสองข้างแดงขึ้นทันควัน พยายามห้ามเฟิ่งเป๋าเป่าไม่ให้กรีดร้องอย่างลนลาน แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
เสียงกรีดร้องดังสนั่นไปทั่วชั้นฟ้า
“อ๊าๆๆๆ!”
เฟิ่งเป๋าเป่ายกมือขยุ้มผม นางแน่ใจว่าบนหัวตัวเองต้องมีควันออกมาแน่ๆ! ไม่เพียงเท่านั้น นางยังได้ยินเสียงร้องของตัวเองดังต่อเนื่อง จากนั้นก็เห็นใบหน้าขาวสะอาดของหลิ่วมู่ชิงเปลี่ยนสีอย่างรวดเร็ว จากซีดเผือดตามด้วยแดงเรื่อ ต่อมาก็กลายเป็นแดงจัด ตื่นตระหนกจนขยับปากอ้าๆ หุบๆ พูดไม่ออก
“เกิดอะไรขึ้น”
“นั่นเสียงเป๋าเป่านี่!”
“มีอะไรกัน”
โถงด้านนอกมีเสียงอู่เอ๋อร์กับลิ่วเอ๋อร์พร้อมด้วยหลิ่วอันเหอกับบ่าวรับใช้อีกหลายคน