ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย
ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 4 บทที่ 85
ต่อมาด้วยเรื่องปลีกย่อยหยุมหยิม มีนางกำนัลสิบห้าสิบหกคนหมางใจลอบประลองกำลังกัน ซ้ำแบ่งพรรคแบ่งพวกเป็นสองฝักฝ่าย ใช้คำประชดถากถาง ปะทะกันด้วยวาจาไม่หยุดหย่อนติดกันหลายวันแล้ว เรื่องเยี่ยงนี้ชวนรำคาญใจยิ่ง แม้ยังไม่เลื่อนขั้นเป็นความขัดแย้งที่จับต้องได้ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตำหนัก
เฉิงเซ่าซางจึงสั่งให้คนไปหาเชือกป่านที่หนาราวข้อมือของนางมาหนึ่งเส้น เชือกนั้นมีความยาวถึงสิบกว่าจั้ง นางจัดกลุ่มใหม่โดยมีคนทั้งสองฝักฝ่ายคละกันครึ่งต่อครึ่ง แล้วให้พวกนางชักเย่อแข่งกัน
เดิมพันครั้งแรก เฉิงเซ่าซางวางข้างกลุ่มที่ชนะคนละห้าเหรียญ
เด็กสาวเหล่านั้นมีหรือจะยอมร่วมแรงกับ ‘อริ’ ที่ผิดใจกันมาหลายวัน ต่างคนต่างออกแรงอย่างขอไปที สุดท้ายกลุ่มผู้แข่งขันที่บังเอิญพละกำลังรวมกันมากกว่าจึงเป็นฝ่ายชนะไป
เดิมพันครั้งที่สอง เฉิงเซ่าซางวางข้างกลุ่มที่ชนะคนละสิบเหรียญ
ครั้นเห็นว่าคนที่ชนะเมื่อครู่ได้รับเหรียญเงินดังเคร้งคร้างอยู่ในมือ เด็กสาวกลุ่มที่พ่ายแพ้ต่างก็เบิกตาโต เฉิงเซ่าซางจัดกลุ่มคละกันใหม่อีกครา ยังคงให้คู่อริสองฝักฝ่ายเมื่อแรกนั้นผสมกันกลุ่มละครึ่ง ครั้งนี้ไม่ว่าผู้แข่งขันกลุ่มใดล้วนทุ่มกำลังกันสุดแรงเกิด
เดิมพันครั้งที่สาม เฉิงเซ่าซางเพิ่มเงินโดยวางข้างกลุ่มที่ชนะคนละยี่สิบเหรียญ
ดวงตาของเหล่าเด็กสาวถึงกับแดงเถือก ต่อให้อยู่ในวัง นี่ก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย คราวนี้เด็กสาวที่ถูกจัดอยู่กลุ่มเดียวกันจึงไม่มัวสนใจความแค้นเก่าก่อนอีก ต่างรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ไหล่ชิดไหล่ เท้าชนเท้า รวมพลังกันอย่างสมัครสมาน
ตอนนี้เองพลันเกิดเหตุไม่คาดฝันเล็กๆ ขึ้น เฉิงเซ่าซางแม้เพิ่งได้ลาภลอยมาก้อนหนึ่ง ทว่าไม่ได้พกติดตัวมาแต่อย่างใด แรกเริ่มจึงขอยืมจากไจ๋เอ่ามาวางเป็นเงินเดิมพัน ครั้นวางถึงตาที่สาม ถุงเงินของไจ๋เอ่าว่างเปล่าเสียแล้ว เฉิงเซ่าซางจึงได้แต่สั่งให้คนกลับไปนำเงินที่บ้านนางมา ใครจะรู้เพียงไม่นานให้หลัง พลันมีขันทีผู้หนึ่งยิ้มหน้าบานแฉ่ง ประคองกล่องอันหนักอึ้งกว้างราวครึ่งแขนมาหนึ่งใบ ในนั้นถึงกับเป็นเหรียญห้าจูเกือบสามร้อยเหรียญ
“ใต้เท้าหลิงทราบเรื่องที่นี่ทั้งหมดแล้ว เขาบอกว่าท่านให้สัญญาปากเปล่าคงไม่แคล้วเสียบรรยากาศ จึงส่งเงินมาให้ท่านเล็กน้อย หากไม่เพียงพอ เขาจะสั่งคนควบม้าเร็วไปนำมาอีกขอรับ”
เฉิงเซ่าซางประคองกล่องเงินในอาการเหม่อค้าง ดังนั้นนี่หมายความว่า…ในที่สุดข้าก็ได้ใช้ชีวิตแบบมีเงินของคนรักให้จับจ่ายแล้ว?
ภายหลังการแข่งชักเย่อสามรอบ เหล่าเด็กสาวล้วนหมดเรี่ยวสิ้นแรง ไม่มีกำลังวังชาจะประลองทิฐิกันต่อไป ทั้งต่างได้รับเงินมาจำนวนหนึ่ง ในใจแต่ละคนจึงยินดีปรีดา แม้กระทั่งเด็กสาวอับโชคที่สุดสี่คนซึ่งจนแล้วจนรอดไม่ชนะเลยสักหนนั้น เฉิงเซ่าซางก็ยังตกรางวัลให้ไปคนละห้าเหรียญ จากนั้นปั้นหน้าขึงขัง หยิบยกข้อเท็จจริงมาแจกแจงเหตุผล ร่ายคำสวยหรูมากมาย ความว่าต้องสามัคคีมีไมตรีต่อกัน ช่วยเหลือให้เกียรติกัน ส่งผลให้นางกำนัลส่วนใหญ่ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา เรียกได้ว่าเกือบสูสีกับสุนทรพจน์ของอดีตเลขาธิการสันนิบาตเยาวชนหน้าปลากุยอวี๋* ผู้นั้นเลยทีเดียว
เสร็จสิ้นการใช้พระคุณก็สมควรใช้พระเดชบ้างแล้ว
เฉิงเซ่าซางขานชื่อนางกำนัลสองสามคนซึ่งปกติเป็นตัวตั้งตัวตีของทั้งสองฝักฝ่าย จากนั้นสั่งลงโทษพวกนางคนละสิบไม้เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
แรกเริ่มเฉิงเซ่าซางเพียงทำไปตามแผนการที่วางไว้ ไม่คาดว่าอารมณ์อันร้อนแรงระหว่างการแข่งชักเย่อเมื่อครู่ถึงกับดึงดูดให้นางกำนัลขันทีโดยรอบพากันห้อมล้อมมาชมดูปนยิ้ม ทั้งยังโบกมือส่งกำลังใจให้ผู้แข่งขันที่เป็นสหายของตน แม้แต่ฮองเฮายังยั้งใจไม่ไหว มายืนอมยิ้มชมการแข่งขันถึงใต้ทางระเบียง ครั้นเห็นการแสดงออกที่ยอดเยี่ยม ยังเปล่งเสียงหัวเราะอันเบิกบานอย่างห้ามไม่อยู่ รอจนเห็นเฉิงเซ่าซางใช้ทั้งพระเดชพระคุณคลี่คลายปัญหา ฮองเฮาก็ก้มหน้าบอกไจ๋เอ่าว่า “วางใจเถอะ วันหน้าจวนของคุณชายสิบเอ็ดไม่วุ่นวายแน่”
ยามที่หมุนตัวจะกลับเข้าโถงชั้นใน ฮองเฮาเห็นเฉิงเซ่าซางยังคงประคองกล่องเงินซึ่งพร่องไปครึ่งหนึ่งแล้วใบนั้น ยืนนิ่งอยู่ใต้ทางระเบียงด้วยสีหน้าอันเรียบสงบ ฮองเฮาชะงักเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้ ชั่วขณะนั้นคล้ายพลันไม่ค่อยรู้จักอีกฝ่ายแล้ว
ความจริงยามที่เด็กสาวผู้นี้สะสางเรื่องต่างๆ ใช่ว่าจะใช้ความเฉียบขาดมากแผนการเช่นนี้เสมอไป
หลายวันก่อนมีนางกำนัลน้อยผู้หนึ่งคิดถึงคนทางบ้านซึ่งล่วงลับไปแล้ว กลางค่ำกลางคืนก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด เฉิงเซ่าซางยับยั้งขันทีที่จะลงโทษโบยอีกฝ่าย สอบถามอีกฝ่ายอย่างใจเย็นว่าภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่ใด จากนั้นวาดแผนที่แสดงเมืองกับมณฑลโดยสังเขป ชี้มือไปยังภูมิลำเนาเดิมของนางกำนัลน้อยพลางบอกอีกฝ่ายว่าที่นั่นภัยสงครามสงบลงแล้ว อาจยังมีความอดอยากอยู่บ้าง ทว่าขอเพียงต่อไปทุ่มเทเพาะปลูก ก็จะไม่มีเด็กน้อยกำพร้าบิดามารดา ต้องระเหเร่ร่อนถูกขายต่อเป็นทอดๆ อีก
แน่นอนว่าเรื่องจริงมิได้เป็นเช่นนี้ ฮองเฮาสูญเสียบิดาตั้งแต่เล็ก และเคยเผชิญผ่านภัยสงครามมาก่อน ย่อมรู้จักโลกภายนอกอย่างลึกซึ้ง ใต้หล้าจะไม่มีพ่อค้าทาสไปได้อย่างไร กระนั้นในวังหลวงอันลึกล้ำอ้างว้างแห่งนี้ ถ้อยคำลวงอันงดงามไม่กี่คำกลับเพียงพอจะมอบความกล้าหาญให้นางกำนัลน้อยที่ไร้ญาติขาดมิตรผู้หนึ่งใช้ชีวิตต่อไปให้ดีแล้ว
ฮองเฮามองดูเฉิงเซ่าซางอีกครา เด็กสาวมีเรียวคิ้วอันชดช้อยสองสาย เขียนวาดไม่เข้มไม่อ่อนอยู่บนผิวสีขาวหิมะ แลประดุจฝากร่องรอยไว้กลางหมอกฝนอันคลุมเครือ ดวงตาทั้งคู่งามกระจ่าง ยามมองผู้อื่นดั่งภายในมีระลอกน้ำไหว เพิ่งล่วงผ่านชั่วเวลาสั้นๆ ไปหนึ่งคิมหันต์ ความงามของเด็กสาวตัวน้อยถึงกับยิ่งทบทวี ประกอบกับอุปนิสัยอันขัดแย้งซับซ้อนเช่นนี้ ไม่แปลกเลยที่จะสะกดให้บุตรบุญธรรมของตนใหลหลง