ดังนั้นอวี๋ชิงหย่าต้องทำให้อวี๋เหวินจวิ้นกลับมาที่เมืองเกาผิงให้ได้ ก่อนหน้านี้อวี๋ชิงหย่าเคยเตือนอวี๋เหล่าจวินเป็นนัยๆ ตอนนี้ดูเหมือนความช่วยเหลือจากระบบจะล้มเหลว อวี๋ชิงหย่ารู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ ตั้งแต่ที่เกิดใหม่มา ภายใต้การช่วยเหลือของระบบ นางพบอุปสรรคน้อยมาก อวี๋ชิงหย่ายังอยากเกลี้ยกล่อมอวี๋เหล่าจวินอีกครั้ง ทว่าเพิ่งจะอ้าปาก จู่ๆ ในสมองก็เจ็บราวกับถูกเข็มทิ่มแทงเข้ามา ‘โฮสต์ ท่านละเมิดกฎแล้ว’
อวี๋ชิงหย่าทนต่ออาการปวดหัว ฝืนโต้แย้งในสมอง ‘แต่เหล่าจวินคล้อยตามแล้ว ขอแค่พวกเรากระตุ้นอีกสักหน่อย ให้เหล่าจวินเขียนจดหมายไปเร่งอีกครั้ง อวี๋เหวินจวิ้นช้าเร็วก็ต้องกลับมาอย่างทนไม่ไหว’
เสียงสังเคราะห์ของระบบคล้ายหัวเราะเยาะเบาๆ ในสมอง อวี๋ชิงหย่าตกตะลึงอย่างยิ่ง คิดว่าตนฟังผิดไป ระบบเป็นแค่ปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่มีความรู้สึก มันจะแสดงการตอบสนองที่มีความเป็นมนุษย์เช่นนี้ได้อย่างไร
ระบบกลับคืนสู่เสียงเย็นชาอย่างรวดเร็ว ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ ‘โฮสต์ พฤติกรรมของท่านเมื่อครู่ละเมิดคำเตือนของระบบตัวประกอบหญิง ข้ามีหน้าที่ต้องเตือนท่านและจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เกี่ยวข้อง’
อวี๋ชิงหย่าไม่ยอม เห็นชัดๆ ว่าเหลืออีกแค่ก้าวเดียว เหตุใดต้องล้มเลิกกลางคันด้วย นางอยากจะเร่งเร้าอวี๋เหล่าจวินอีก แต่ความเจ็บปวดคล้ายถูกเข็มทิ่มแทงก็แล่นเข้ามาในสมองอย่างฉับพลัน ทำให้รู้สึกราวกับกะโหลกถูกเจาะ อวี๋ชิงหย่ากรีดร้องอย่างทนไม่ไหว ถ้วยชาในมือตกลงบนพื้นเสียงดังเพล้ง น้ำชาสาดกระเซ็น
อวี๋เหล่าจวินตกใจกับการกระทำที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของอวี๋ชิงหย่า นางเห็นอวี๋ชิงหย่ามีสีหน้าน่ากลัว จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นางหนูสี่ เจ้าเป็นอะไร”
อวี๋ชิงหย่าต่อต้านความเจ็บปวดที่แผ่ขยายในสมอง พร้อมกับพยายามยิ้มตอบอวี๋เหล่าจวิน “ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ตอนเที่ยงหลับไม่สบาย ตอนนี้เลยเวียนหัวเล็กน้อยเจ้าค่ะ”
“นอนหลับไม่สบายหรือ” เห็นการแสดงออกของอวี๋ชิงหย่า ไม่ว่าอย่างไรอวี๋เหล่าจวินก็ไม่อาจเชื่อได้ว่านี่เป็นแค่อาการเวียนหัว แต่อวี๋ชิงหย่ายืนกรานว่าตนไม่เป็นไร รีบกล่าวขออภัยและออกไปทันที
จนกระทั่งออกจากเรือนของอวี๋เหล่าจวินมาแล้ว ระบบก็กล่าวด้วยเสียงสังเคราะห์อันราบเรียบเช่นเดิม แต่เพราะน้ำเสียงราบเรียบดูสงบ จึงทำให้คนฟังรู้สึกหวาดกลัว ‘โฮสต์ได้ทำการละเมิดกฎ ตามสัญญาเรามีสิทธิ์ตักเตือนโฮสต์อย่างเหมาะสมและกำหนดบทลงโทษหากจำเป็น วันนี้โฮสต์ละเมิดกฎระดับแรก จึงลงโทษเฉพาะระดับหนึ่ง’
‘นี่แค่ระดับแรกหรือ’ อวี๋ชิงหย่านึกถึงความเจ็บปวดราวกับถูกเฉือนเนื้อคว้านหัวใจ เหมือนถูกเจาะกะโหลกเมื่อครู่นี้แล้วยังหวาดผวาไม่คลาย อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงระดับต่ำสุดอย่างนั้นหรือ
ระบบยอมรับอย่างเย็นชา
อวี๋ชิงหย่ารู้สึกหนาวสันหลังขึ้นมาอย่างช้าๆ ‘เช่นนั้นระดับสูงสุดเป็นอย่างไร’
‘ลบล้าง’
เสียงของระบบฟังดูมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างถึงที่สุด แต่อวี๋ชิงหย่ากลับรู้สึกหนาวยะเยือก เห็นชัดๆ ว่าเวลานี้เป็นฤดูวสันต์ในเดือนสี่ แต่นางราวกับอยู่ในฤดูเหมันต์ของเดือนเก้า สายลมอันหนาวเหน็บกลายเป็นเข็มแหลมเจาะทะลุเข้ากระดูกของนางถี่ยิบ ‘คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะทำอันตรายข้าถึงชีวิต เรื่องสำคัญเช่นนี้เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าก่อน’
‘ท่านไม่ได้ถาม’ ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ เสียงของระบบราวกับแฝงไว้ซึ่งความเยาะเย้ย ‘โฮสต์ ท่านได้ลงชื่อในสัญญาวิญญาณกับพวกเราแล้ว หากเสียใจกลางคัน ก็จะถูกลบล้างตามสัญญา’
อวี๋ชิงหย่าพลันรู้สึกเสียใจภายหลังที่วันนั้นตนรีบลงชื่อในสัญญา หลายเดือนมานี้นางราบรื่นสมปรารถนาไปทุกเรื่อง ในความคิดนางเห็นระบบเป็นเครื่องมือที่มีไว้ให้นางใช้ แต่ไม่ได้คิดเลยว่าฐานะของนางกับระบบอาจจะตรงกันข้าม
อาจเป็นเพราะอ่านความคิดในใจอวี๋ชิงหย่าได้ ความเร็วในการพูดของระบบจึงช้าลง ท่าทีแทบจะเรียกได้ว่าใจดี ‘วางใจได้ ตราบใดที่ท่านทำตามเงื่อนไขที่พวกเราบอก ก็จะไม่ถูกลบล้าง’
อวี๋ชิงหย่าเรียกใช้บ่าวไพร่มาตั้งแต่เด็ก นึกดูถูกคนธรรมดา มีแต่นางที่สั่งผู้อื่น นางกลายเป็นคนที่ถูกผู้อื่นบังคับตั้งแต่เมื่อไรกัน ทว่านางไม่กล้าล่วงเกินระบบ ระบบสามารถลบล้างนางได้โดยง่าย นางทำอะไรระบบไม่ได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือระบบอยู่ในสมองของนาง ความคิดส่วนใหญ่ปิดบังระบบไม่ได้ อวี๋ชิงหย่าตั้งแต่ที่ได้เกิดใหม่ก็พึ่งพาระบบทุกอย่าง นางจึงได้แต่โอนอ่อนกล่าวขออภัยกับระบบ ‘เมื่อครู่นี้ข้าทำไม่ถูก แต่จะปล่อยให้อวี๋ชิงจยาเป็นอิสระอยู่ต่างเมืองไม่ได้ ถึงอย่างไรนางก็คือนางเอก เจ้าไม่กลัวหรือ’
‘การกระทำของท่านโง่เขลาเกินไป ข้ามีวิธีบีบให้พวกเขากลับมา’
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 3 มิ.ย. 67