ราตรีนี้เงียบสงัด
เงาร่างสายหนึ่งก้มตัวอยู่เหนือโต๊ะตวัดพู่กันฉวัดเฉวียน บนจานกระเบื้องใบเล็กบรรจุสีสันต่างๆ ละลานตา ทั้งสีเหลืองยางไม้ สีน้ำเงินคราม สีดินเผา สีแดงชาด และสีเขียวเข้ม ภายใต้แสงสว่างจากเชิงเทียนสองอัน ทิวทัศน์ชนบทงดงามประณีต บนผืนหญ้าสีเขียวนุ่ม มีหนุ่มสาวที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ยออกครึ่งหนึ่งกำลังเคลียคลอแนบชิดยากจะแยกแยะ
หนุ่มล่ำกำยำเรือนร่างผึ่งผายด้านบนส่งเจ้าสิ่งมหึมาท่อนล่างเข้าไปยังเส้นทางคับแคบของร่างบาง กล้ามเนื้อตึงแน่นเนียนลื่นแกร่งกำยำ หยาดเหงื่อร้อนระอุเกาะพราว ใบหน้าที่เดิมทีแข็งกร้าวเย็นชา บัดนี้กัดฟันจนดูดุดันเล็กน้อยเพราะความหฤหรรษ์ เขาแหงนเงยลำคอไปด้านหลัง เสียงคำรามแหบต่ำเหมือนสัตว์ร้ายกำลังจะเปล่งออกมาจากลำคอ…
ฮวาชุนซินมองกวนหยางในภาพวาดแล้วกลืนน้ำลาย รู้สึกเพียงลำคอร้อนผ่าวขึ้นทุกที หัวสมองเกิดเสียงดังผ่าง นางโยนพู่กันทิ้งอย่างลนลาน คว้ากระดาษคลื่นหิมะ* สะอาดแผ่นหนึ่งมาคลุมศีรษะไว้ ลมหายใจถี่กระชั้น หัวใจเต้นระรัว…
ไม่ได้ๆ จะจ้องเขานานเกินไปไม่ได้ นางจะเป็นบ้าเอา!
นางสูดหายใจลึกหลายครั้ง ในที่สุดหัวใจก็สงบลงบ้าง หยิบกระดาษคลื่นหิมะออกด้วยใบหน้าแดงเรื่อ น้ำลายเกือบหกออกมาอีกรอบ
ทว่าพอสายตาเลื่อนไปยังสาวงามกึ่งเปลือยใต้ร่างเขาที่ทำท่าจะเป็นจะตายแล้ว ใบหน้าเปื้อนยิ้มโง่งมของฮวาชุนซินก็งอง้ำ รู้สึกเพียงโพรงอกเหมือนถูกยัดด้วยปุยฝ้ายก้อนหนึ่งจนทั้งอึดอัดและริษยาไปหมด ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
ภาพวังวสันต์ภาพนี้วาดได้งดงามเย้ายวนมาก รับรองว่าใครได้เห็นโลหิตเป็นต้องพลุ่งพล่าน อารมณ์ถูกปลุกปั่นขึ้นมาได้แน่นอน แต่นางหัวคนสมองหมูหรือไร วาดกวนหยางกับสตรีที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกับเขาสักนิดกระทำเรื่องดิบเถื่อนเต็มไปด้วยอารมณ์เช่นนี้ ย่อมไม่ต่างจากการที่นางผลักเขาขึ้นเตียงหญิงอื่นด้วยมือของตนเอง นี่ไม่เท่ากับการหาเรื่องทำให้ตนเองอารมณ์เสียหรือ
นางโมโหเหลือเกิน แต่ก็หักใจฉีกภาพนี้ทิ้งไม่ลง ลังเลอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ตัดกระดาษขาวชิ้นเล็กออกมาชิ้นหนึ่ง ใช้แป้งเปียกแปะกระดาษลงบนใบหน้าของสาวงามกึ่งเปลือยผู้นั้น เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
“แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง” นางกระหยิ่มยิ้มย่องพูดกับตนเอง “ข้าเลื่อมใสในไหวพริบและความเฉลียวฉลาดปราดเปรื่องของตนเองจริงๆ หึๆ”
ฮวาชุนซินหัวเราะอยู่พักหนึ่งก็รู้สึกเบื่อไปเอง ใบหน้าฉายความจนใจ เท้าคางจ้องมองภาพวาดของกวนหยางอย่างเหม่อลอย
ตอนนี้มาแอบวาดภาพแล้วดีใจอยู่คนเดียวจะมีความหมายอะไร
หากเป็นเมื่อก่อน แค่นางพูดคำเดียว…
ดวงหน้าขาวเนียนของฮวาชุนซินหม่นหมอง ดวงตาสีนิลที่มักมีความง่วงงุนเจืออยู่สามส่วนแฝงแววเศร้า
“ตอนนี้ได้เพียงมองอยู่ไกลๆ มิอาจเข้าไปหยอกเย้าได้อีกแล้ว” นางแหงนหน้าขึ้น ถอนหายใจเฮือกหนึ่งกับท้องฟ้ายามราตรี
จำข้าไม่ได้แล้วจริงๆ…