วันนี้ฝนกระหน่ำตกลงมาอย่างรุนแรง บนถนนใหญ่ที่คึกคักรุ่งเรืองผู้คนที่สัญจรไปมาและพ่อค้าแม่ขายต่างวิ่งหลบฝนกันอลหม่าน
ฮวาชุนซินที่ซื้ออุปกรณ์วาดภาพมาห่อใหญ่ลากอาหยวนที่ตอบสนองช้าวิ่งไปหลบหน้าร้านค้าที่ใกล้ที่สุด
‘หอเครื่องเงินปาเป่า’ เป็นร้านค้าที่ใหญ่และโด่งดังที่สุดของทางใต้ เพียงครู่เดียวอาหยวนก็ตาลายเพราะเพชรนิลจินดาที่เรียงรายอยู่เต็มร้าน
“คะ…คุณหนู…”
“หือ?” ฮวาชุนซินสะบัดชายกระโปรงที่ถูกหยาดฝนกระเซ็นใส่
“สะ…สวยเหลือเกินเจ้าค่ะ…”
“แน่นอน” นางยิ้ม พูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง
แม้คร้านที่จะแต่งตัว แต่มนุษย์เราย่อมต้านทานความงามจากธรรมชาติไม่อยู่ นางฮวาชุนซินถึงอย่างไรชาติกำเนิดก็สูงส่งเช่นนั้น ริมฝีปากย่อมแดงโดยมิต้องแต่งแต้ม คิ้วเข้มงดงามโดยมิต้องวาดเขียน ยามยืนประหนึ่งดอกเสาเย่า* ที่ชูช่อ ยามนั่งประหนึ่งดอกโบตั๋น…
“คุณหนู เพชรพลอยพวกนั้นสวยเหลือเกินเจ้าค่ะ” อาหยวนคว้าแขนนางอย่างตื่นเต้น
ข้าจะพ่นน้ำฝนใส่เจ้าให้ตายไปเลย!
ฮวาชุนซินถลึงตาใส่สาวใช้ผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างขุ่นเคือง รู้สึกคันไม้คันมือเหลือเกิน แต่นึกขึ้นได้ว่าหากทำให้นางตกใจจนร้องไห้วิ่งหนีไป วันหน้างานจำพวกซักเสื้อผ้า กวาดพื้น ปูเตียง พับผ้าห่ม รินน้ำชา ทำกับข้าวย่อมไม่มีคนทำ
คิดได้เช่นนี้ฮวาชุนซินจึงได้แต่กล้ำกลืนโทสะ ผ่อนคลายสีหน้าและแค่นเสียงตอบ “แต่ไรมาหอเครื่องเงินปาเป่าโด่งดังเพราะเป็นแหล่งรวมเพชรพลอยจากทั่วหล้าอยู่แล้ว สินค้าที่นี่ย่อมต้องงดงาม”
“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง” อาหยวนกวาดตามองการประดับตกแต่งหรูหราและลูกค้าสตรีที่แต่งตัวงดงามรอบด้านด้วยสายตาอิจฉา อดเอ่ยถามเสียงค่อยไม่ได้ “คุณหนู ไม่รู้ว่าการสั่งทำปิ่นเงินที่นี่สักอันต้องใช้เงินเท่าไร พี่จูฮวาที่หมู่บ้านของพวกเราจะออกเรือนแล้ว ท่านแม่ข้าบอกว่าหอเครื่องเงินในเมืองมีแบบให้เลือกมากมาย บอกข้าว่าถ้ามีโอกาสให้ช่วยนางสืบราคาดูหน่อย…เงินห้าพันอีแปะจะซื้อเครื่องประดับศีรษะสักชุดได้หรือไม่”
ฮวาชุนซินยังไม่ทันตอบ เสียงหัวเราะเยาะหยันอย่างไม่ปิดบังก็ดังขึ้นข้างหลังพวกนาง
“พรืด! เงินห้าพันอีแปะจะสั่งทำเครื่องประดับศีรษะหนึ่งชุด นี่เป็นพวกบ้านนอกจากที่ใดกัน”
อาหยวนอับอายจนใบหน้าแดงก่ำและหลบไปอยู่ข้างหลังคุณหนูของตน แย่แล้ว นางทำให้คุณหนูขายหน้าจริงๆ ด้วย
ขอบตาดำคล้ำที่เกิดจากการอดนอนเพราะเร่งวาดภาพของฮวาชุนซินยังหลงเหลือสีเขียวคล้ำจางๆ ไม่เลือนไป ทว่าส่วนลึกของนัยน์ตากลับเปี่ยมด้วยประกาย นางจ้องสาวใช้ปากมากที่ยืนเลือกหยกประดับกับคุณหนูของตนอยู่จนอีกฝ่ายสะดุ้ง ขาสั่นโดยไม่รู้ตัว
“จะบ้านนอกหรือไม่ คนข้างทางก็ไม่มีสิทธิ์พูด” นางเลิกคิ้ว สีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “ไม่รู้ว่าเจ้าเป็นสาวใช้คนดีที่คุณหนูบ้านใดอบรมมา ถึงได้มาแส่เรื่องชาวบ้านเช่นนี้”
“เจ้า!” สาวใช้ผู้นั้นโมโห
“แม่นาง สาวใช้ของข้าเสียมารยาทไป หวังว่าท่านที่เป็นผู้ใหญ่จะใจกว้าง อย่าถือสาหาความนางเลย” เด็กสาวท่าทางสูงส่งเรียบร้อยข้างกายสาวใช้เอ่ยเนิบช้า ก้าวขึ้นมาย่อกายอย่างสง่างาม