อาหยวนหอบห่อสัมภาระใบใหญ่ที่บรรจุสีวาดภาพอย่างระมัดระวัง วิ่งเหยาะตามฮวาชุนซินไปอย่างร้อนใจ
หลังฝนตกหนัก บนพื้นเต็มไปด้วยแอ่งน้ำ ไม่ระวังย่อมกระเซ็นโดนชุดกระโปรงและถุงเท้ารองเท้า แต่คุณหนูที่เดินนำอยู่ข้างหน้ากลับเหมือนไม่รู้สึก ต่อให้ชายกระโปรงสกปรกเพียงใดก็ไม่ใส่ใจ
คุณหนู…ดูเหมือนจะโกรธ แต่…แต่เหตุใดถึงโกรธล่ะ
“คุณหนู” อาหยวนตามไปอย่างหอบแฮกพลางเอ่ยเตือนเสียงค่อย “คุณหนู ไหนท่านบอกว่าจะไปซื้อขนมถั่วกวนม้วนไม่ใช่หรือเจ้าคะ พวกเราเดินเลยมาแล้ว”
ฮวาชุนซินชะงักเท้า แผ่นหลังแข็งทื่อ ครู่ใหญ่จึงพรูลมหายใจยาวออกมาก่อนบอกเสียงค่อย “เจ้าไปซื้อมาสองกล่องเถอะ ข้าจะรอที่นี่”
“เจ้าค่ะ” อาหยวนรับเงินไปอย่างว่าง่าย ก่อนจะรีบย้อนกลับไปซื้อ
ฮวาชุนซินยืนอยู่ที่เดิม ใช้แขนเสื้อใหญ่กว้างเช็ดหน้าลวกๆ พึมพำกับตนเอง “อะไรของเจ้า ก็แค่ญาติผู้น้องที่ตามตอแยจนน่ารำคาญมิใช่หรือ ใครบ้างที่ไม่มีญาติผู้พี่ญาติผู้น้องถึงแปดสิบคนร้อยคน เจ้าบ้ากวนหยางนั่นใจแข็งยิ่งกว่าน้ำแข็งหมื่นปี จะถูกกำราบง่ายๆ ก็แปลกแล้ว ข้าจะมานั่งกังวลอะไรเล่า”
…ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่ยอมรับว่าตนเองหึง
ระหว่างที่ความคิดสับสนวุ่นวาย นางไม่รู้สึกเลยว่ารองเท้าหุ้มแข้งสีดำคู่หนึ่งกำลังก้าวเข้ามาหาตนช้าๆ
“แม่นางฮวา” น้ำเสียงทุ้มนุ่มคุ้นเคยดังขึ้นเหนือศีรษะ
นางสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นโดยพลัน มองเขาอย่างยากที่จะปิดความตกใจแกมยินดี “ท่าน…ท่าน…บังเอิญถึงเพียงนี้เชียว ท่านแม่ทัพใหญ่ก็มาเดินตลาดเหมือนกันหรือ”
“แต่ก่อนเจ้าเคยรู้จักข้าหรือ” ดวงตาลึกล้ำของกวนหยางจับจ้องนาง เอ่ยถามอย่างแฝงนัย
รอยยิ้มบนหน้าของฮวาชุนซินชะงักไปเล็กน้อย หัวใจเต้นระรัว แต่แล้วกลับฉีกยิ้มด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนไป “ท่านแม่ทัพใหญ่ล้อเล่นแล้ว ข้าย่อมต้องรู้จักท่านแน่นอน ท่านยังเคยช่วยชีวิตข้าไว้ด้วย ท่านลืมไปแล้วหรือไร”
“ไม่ใช่” นัยน์ตาคมกริบดุจเหยี่ยวของเขาเหมือนจะมองทะลุเข้าไปในกระดูกนาง “ข้าหมายถึงก่อนหน้านั้น”
รอยยิ้มนางหายไปสิ้น ฝืนข่มความลนลานในใจ แทนที่ด้วยการหยอกเย้าทีเล่นทีจริง หมายจะใช้ไม้อ่อนสู้กับไม้แข็ง “ท่านแม่ทัพใหญ่องอาจผ่าเผยเช่นนี้ ย่อมเป็นชายในฝันของแม่นางทุกคนอยู่แล้ว จะยกเว้นข้าไปได้อย่างไรเล่า เฮ้อ ในเมื่อท่านอุตส่าห์พูดขึ้นมาแล้ว เช่นนั้นเรื่องวาดภาพที่ข้าพูดกับท่านเมื่อครั้งก่อน…”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าในมือข้ามีหยกประดับรูปกิเลนสีเขียวเข้มแปดอันสิบอัน” กวนหยางไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยนางไป เขาจ้องนางเขม็งขณะพูด
หลายครั้งที่พบหน้ากัน ท่าทางลุ่มหลงของนางมักจะทำให้เขานึกอยากเดินอ้อมห่างนางไปให้ไกล แต่ไม่รู้เหตุใดเขามักรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ…สายตาร้อนแรงเหมือนโจรราคะของนางเหมือนมีบางอย่างแฝงอยู่ คล้ายความเศร้าคล้ายความคิดถึง แต่พอเขาจะแยกแยะให้ชัดเจน นางจะปั้นยิ้มและทำท่าลามก ทำเอาเขาขนลุก หงุดหงิด และโมโหยิ่งนัก
แต่ไรมากวนหยางเคยชินกับการควบคุมผู้คนและเรื่องราวต่างๆ ไว้ในกำมือ เขาไม่ชอบให้มีอะไรอยู่นอกขอบข่ายการรับรู้ของเขา ความผิดปกติของนางกลายเป็นปมที่ติดอยู่ในใจเขา ไม่ขจัดออกไปย่อมรู้สึกไม่สบอารมณ์