อวี้หมี่อยากจะกลั้นใจตายให้รู้แล้วรู้รอด นางถามอย่างขุ่นเคือง “ทะ…ท่าน…รีบร้อนถึงเพียงนี้เชียวหรือ ข้าเพิ่งจะมาถึงจวนแม่ทัพ ยังไม่ทันได้เข้าห้อง ยังไม่ทันได้วางของ ให้ข้าพักเหนื่อยกินน้ำกินท่าสักหน่อยมันจะตายหรือไร”
“ไม่พอใจมากเลยหรือ” คิ้วดกหนาเลิกขึ้น
“ถามบ้าๆ เป็นท่านท่านจะพอใจหรือ” นางทำตาขุ่น คิ้วตวัดเฉียง
เขาพยักหน้าแล้วทำท่าครุ่นคิด
ความหงุดหงิดที่อัดอั้นอยู่ในใจค่อยทุเลาลงบ้าง ใบหน้ากลมป้อมผ่อนคลายขึ้น พอกำลังจะอ้าปากบอกว่านางต้องกรำแดดกรำฝนตากลมห่มทรายมาตลอดทาง กว่าจะมาถึงที่นี่ลำบากลำบนเพียงไร เสียงเอื่อยๆ ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน
“มื้อเช้าทำโจ๊กข้าวฟ่างกับซาลาเปานึ่งแล้วกัน” เขานิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ “ข้าไม่กินไส้กุยช่าย นอกนั้นก็พิจารณาเอา”
อะไรกัน! ท่านแม่ทัพเยียนจะยึดติดกับมื้อเช้าไปถึงไหน!?
อวี้หมี่ผู้ทรมานจากการเมารถซ้ำยังถูกปลุกเพลิงโทสะให้ลุกพึ่บด้วยคำพูดไม่กี่ประโยคแทบอยากเขวี้ยงห่อสัมภาระในมือใส่หน้าฝ่ายตรงข้าม
หมายจะส่งเสียงคำรามระบายอารมณ์สักตั้ง แต่พอมองสบนัยน์ตาลึกล้ำด้วยห้วงรัตติกาลที่คล้ายกำลังยิ้มอยู่ของเขา ในหัวนางก็ระเบิดบึ้ม ความกล้าฝ่อไปทันทีอย่างไม่เอาอ่าว สู้ก็สู้ไม่ได้ ด่าก็ด่าไม่ชนะ เมื่อเป็นเช่นนี้มีแต่ต้องยอมก้มหัวให้เท่านั้น
“…ไส้หมูกับผักกาดขาวได้ใช่หรือไม่” นางรู้สึกละอายแก่ใจที่ตนเองต้องตามใจเขาอย่างสุดซึ้ง
“ได้” เยียนชิงหลางผายมือน้อยๆ ด้วยท่าทาง ‘ข้าเป็นผู้ใหญ่ใจกว้างไม่ถือสาหาความกับผู้น้อย’
แม้ใจจะแช่งชักหักกระดูกเขาอย่างไร อวี้หมี่ก็ไม่กล้าระบายอารมณ์ออกมาทางคำพูด นางแกะห่อสัมภาระแต่โดยดี หยิบมีดชนิดต่างๆ ออกมาเรียงกันเป็นตับ แล้วหันไปทำความคุ้นเคยกับโรงครัวเล็กที่เต็มไปด้วยข้าวของเบ็ดเตล็ดจากทางเหนือและทางใต้ ตลอดจนหมูเห็ดเป็ดไก่และปลาเป็น
จุๆ อุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ เปิดร้านสุรายังพอถมเถ
คิดมาถึงตรงนี้ก็อดจะหันไปทำตาขวางใส่บุรุษร่างสูงที่นั่งสบายอารมณ์อยู่ตรงมุมไม่ได้
คนขี้ตืด มีของกินกองเต็มครัวยังมาเอาเรื่องข้าเพราะปลาตัวเดียวกับข้าวแค่สองโต่ว* อีกนะ…
ปากยังบ่นงึมงำไม่หยุด แต่มือทำงานคล่องแคล่วว่องไวเหมือนเก่า เพียงครู่เดียวก็ซาวข้าวฟ่างใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ นวดแป้งจนเสร็จ ระหว่างรอให้แป้งหมักตัวก็หันไปสับผักกาดขาวกับเนื้อหมูเพื่อทำไส้ แล้วใส่อ่างนวดกับน้ำขิงสดและน้ำ พอเหลือบไปเห็นเห็ดกระดุมดอกใหญ่อวบอ้วนขาวราวกับหิมะอยู่ในตะกร้าผักก็หยิบมาหั่นใส่ชามอ่างด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติสดใหม่แบบอาหารภูเขา
แป้งที่หมักตัวได้ที่อ่อนนุ่มยืดหยุ่นดี นางกะความจุกระเพาะอาหารของบุรุษตัวโตๆ เช่นเขา แล้วแบ่งแป้งออกมาห้าหกก้อน ที่เหลือใช้ผ้าคลุมไว้ อีกเดี๋ยวจะได้เอามานึ่งเป็นหมั่นโถวเสริมทัพ
มือเล็กห่อซาลาเปาลูกขาวกลมอ้วนใส่ลังถึงยกขึ้นตั้งไฟ จากนั้นก็ล้างมือจนสะอาด แล้วหยิบแตงกวาสามสี่ลูกมาหั่นเป็นแว่น โรยเกลือบางๆ ตามด้วยน้ำตาลกรวด น้ำส้มหมักข้าวจากเจิ้นเจียง เหยาะน้ำมันงาลงไปนิด เท่านี้ก็ได้เครื่องแกล้มสดกรอบหวานๆ เปรี้ยวๆ น่าอร่อย
เยียนชิงหลางจ้องมองการเตรียมอาหารที่แสนคล่องแคล่วของนาง ร่างเล็กอวบกลมเดี๋ยวก็ก้มลงดูความแรงของฟืนในเตา เดี๋ยวก็ชะโงกขึ้นมาดูข้าวฟ่างที่ส่งกลิ่นหอมฉุยอยู่ในหม้อดิน การทำงานและความร้อนทำให้ใบหน้าดวงน้อยแดงเรื่อ เหงื่อเม็ดใสผุดพรายขึ้นมาตามหน้าผากและลำคอ
แม้เรือนผมจะค่อนข้างยุ่ง สวมชุดผ้าฝ้าย รอบตัวนางก็ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นที่ทำให้หัวใจอุ่นอวลตามไปด้วย
เป็นความรู้สึกสงบสุขอิ่มเอมตามวิสัยปุถุชนอย่างหนึ่ง…