“แม่นางอวี้” สาวใช้กระแอมเบาๆ แล้วยกมุมปากคลี่ยิ้มละมุนตาอย่างสุภาพ “ท่านแม่ทัพใหญ่บอกว่าแม่นางอวี้ใช้ความชมชอบของตนเองประเมินความชมชอบของผู้อื่น จึงเข้าใจไปว่าทุกคนชอบกินรสเผ็ดๆ เปรี้ยวๆ หวานๆ แบบสตรีกันหมด นับเป็นแม่ครัวที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นแม่นางอวี้โปรดเตรียมอาหารเย็นใหม่อีกชุด…ตามหน้าที่ด้วย”
“พรวด! แค่กๆ” น้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไปในปากอวี้หมี่พุ่งพรวดออกมาสาดไปทั่ว นางสำลักจนแทบขาดอากาศตาย ใบหน้ากลมป้อมเป็นสีแดงก่ำ “แค่กๆ เขาว่า…แค่กๆ…ว่าอย่างไรนะ”
สมแล้วที่เจี้ยนหลันเป็นคนในจวนแม่ทัพ จึงเคลื่อนไหวได้ว่องไวอย่างยิ่งยวด อาหารเลิศรสนานาชนิดบนถาดยังปลอดภัยดี ไม่กระฉอกออกมาแม้แต่นิดเดียว ดวงหน้างามยังยิ้มละไม “แม่นางอวี้โปรดเร่งมือด้วย ท่านแม่ทัพใหญ่รอกินข้าวอยู่”
มารดามันเถอะ! หากเยียนชิงหลางยืนอยู่ตรงนี้ นางจะพ่นน้ำใส่หน้าเขาให้ตาย หรือไม่ก็จับบีบคอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!
มีอย่างหรือมารังแกกันแบบนี้…
“ไม่ชอบกินเผ็ดกินเปรี้ยวกินหวาน คราวก่อน คราวก่อนนั้น แล้วก็คราวก่อนโน้น ใครกันมาที่ร้านแล้วแย่งซี่โครงแพะเปรี้ยวหวาน แกงเปรี้ยวเผ็ด แล้วก็ข้าวเหนียวถั่วหวานของข้าไปกิน!” นางเอ่ยด้วยโทสะพลุ่งพล่าน
“แม่นางอวี้โปรดระวังวาจาด้วย” เจี้ยนหลันหุบยิ้ม ใบหน้าเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย “ลบหลู่เจ้านาย ทำให้ท่านแม่ทัพใหญ่เสื่อมเสีย ต้องรับโทษตามกฎทหารให้โบยแปดสิบไม้ ตบปากหนึ่งร้อยครั้ง แม่นางโปรดอย่าได้ทำลายระเบียบของจวนนี้โดยเจตนาเลย”
คำก็กฎทหาร สองคำก็ระเบียบ เดี๋ยวก็แบกโอ่งกระโดด เดี๋ยวก็โบยแปดสิบไม้ เดี๋ยวก็ตบปาก…ที่นี่มันจวนแม่ทัพหรือที่คุมขังนักโทษกันแน่!
อวี้หมี่กัดริมฝีปากด้วยความโมโห จะล้มโต๊ะระบายอารมณ์ก็ไม่กล้า โดยเฉพาะเมื่อคิดได้ว่าตนเป็นชาวบ้านตัวเล็กๆ ไม่มีสิทธิ์มีเสียง เทียบกับเยียนชิงหลางผู้ทรงอำนาจในแถบชายแดนตะวันออก ก็ไม่ต่างอะไรจากแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ
“ได้ ข้าจะทน” นางหน้าซีดสลับแดง สุดท้ายก็กลั้นอกกลั้นใจเค้นเสียงลอดไรฟัน “เหลืออีกยี่สิบแปดวัน”
ในที่สุดสายตาของเจี้ยนหลันก็สะท้อนความเห็นอกเห็นใจออกมา “ท่านแม่ทัพใหญ่สั่งว่าหากแม่นางอวี้เอ่ยถึงเรื่องนี้ ให้บ่าวบอกท่านว่า ‘เดือนนี้เดือนใหญ่ มีสามสิบวัน’ ”
กลยุทธ์เลิศล้ำที่ท่านแม่ทัพใหญ่คิดขึ้นในกระโจมกลางค่าย สามารถสยบข้าศึกได้ล่วงหน้าตั้งแต่อยู่ห่างออกไปพันลี้ราวกับมีญาณหยั่งรู้ เขาเอามาใช้จัดการกับหญิงอ่อนแออย่างนั้นน่ะหรือ
“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ขอฝากคำพูดให้แม่นางเจี้ยนหลันไปรายงานท่านแม่ทัพใหญ่นายของเจ้าประโยคหนึ่งได้หรือไม่” หลังจากหน้าซีดสลับเขียวได้สักพัก ใบหน้าของอวี้หมี่ก็กลายเป็นสีดำสนิทราวกับก้นหม้อ ขณะแค่นเสียงเย็นชา
“เชิญว่ามาได้”
“บอกเขาว่าไปกินมูลเสียไป!”
การประเดิมศึกแรกในจวนแม่ทัพ แม่ทัพเยียนเป็นฝ่ายรุกก่อน แล้วเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ