ทดลองอ่าน ลวงล่อแม่ทัพไม่มาเยือน ชุด กระตุกหนวดแม่ทัพ – หน้า 16 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน ลวงล่อแม่ทัพไม่มาเยือน ชุด กระตุกหนวดแม่ทัพ

บทที่สาม

 คืนนั้นอวี้หมี่นึกว่าตนเองจะถูกลากไปลงโทษตามกฎทหาร ปรากฏว่าหลังจากที่โยนกระทะทิ้งและด่าเขาจนเสร็จแล้ว เยียนชิงหลางก็ยังไม่โผล่หน้ามาเอาโทษนางที่ฝ่าฝืนกฎ กลับเป็นแม่นมเหยียนที่มาหานางอีกครั้งก่อนเข้านอน

“แม่นางอวี้”

“…เจ้าคะ” ไม่รู้เพราะเหตุใด พอเจอใบหน้าเฉยชาไม่ยินดียินร้ายของแม่นมเหยียน ความสะใจที่ได้ระบายอารมณ์ออกไปอย่างเผ็ดร้อนเมื่อครู่ถึงได้ถูกแทนที่ด้วยความพรั่นพรึง

“ข้าเป็นแม่นมของท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านแม่ทัพใหญ่องอาจห้าวหาญ แต่ก็เป็นคนใจคอกว้างขวางมากคนหนึ่งเช่นกัน”

อวี้หมี่อึ้งไป อดจะบ่นงึมงำอยู่ในใจไม่ได้ว่า มารดามันเถอะ! หากเป็นคนใจคอกว้างขวางจะกลั่นแกล้งเด็กสาวบอบบางที่ไม่มีแม้แต่แรงจะมัดไก่เช่นข้าหรือ

“ข้าไม่มีลูก ท่านแม่ทัพใหญ่จึงเป็นเหมือนญาติเพียงคนเดียวของข้า”

อวี้หมี่พยักหน้าหงึกๆ แล้วชักรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา

“ดังนั้นใครก็ตามที่ดูหมิ่นท่านแม่ทัพใหญ่ ทำให้ท่านแม่ทัพใหญ่ไม่พอใจ ก็เท่ากับหาเรื่องข้าด้วยเช่นกัน” แม่นมเหยียนยังทำหน้านิ่ง ทว่าสองตากลับเป็นประกายวาววับ “แม่นางอวี้อยากลองหรือไม่”

ท่ามกลางความมืดมิดยามวิกาล รอบตัวหญิงสูงวัยเต็มไปด้วยบรรยากาศเย็นเยียบราวกับภูตผี…

“ข้าทราบแล้วๆ ต่อไปข้าจะพยายามสะกดอารมณ์ ข่มอกข่มใจให้ดี…” หัวใจของอวี้หมี่สั่นสะท้าน ขนสันหลังตั้งชัน ก่อนจะยกมือกุมหัววิงวอน “ฮือ…ได้โปรดอย่าฆ่าข้าเลย”

“แม่นางอวี้พูดเป็นเล่น ข้าเป็นคนเหี้ยมโหดอำมหิตที่เอะอะก็จะฆ่าจะแกงกันอย่างไร้เหตุผลที่ไหนเล่า” เห็นอวี้หมี่เอามือกุมหัวตัวสั่นงันงกเป็นนกกระทา ดวงตาของแม่นมเหยียนก็โชนแสงวาบ มุมปากกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะพูดเนิบนาบ

ชิงเกอเอ๋อร์พูดถูก แม่นางน้อยคนนี้น่าสนใจจริงๆ

“ดังนั้นแม่นมหมายความว่า…ท่านไม่โกรธข้าหรือเจ้าคะ” นางเงยหน้าขึ้นอย่างคาดหวัง

“ข้าหมายความว่าแม่นางอวี้พูดจาลบหลู่ท่านแม่ทัพใหญ่ ตามหลักแล้วควรเข้าไปขอขมา ให้ท่านแม่ทัพใหญ่อภัยให้ถึงจะถูก” หญิงสูงวัยแค่นเสียงขึ้นจมูกดังหึ

อวี้หมี่กลืนน้ำลายลงคอ แล้วงึมงำอย่างมีทิฐิแกมขัดแย้งในตนเอง “บุรุษอกสามศอกเช่นเขาจงใจหาความสตรีตัวเล็กๆ อย่างข้าก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไรหรอก”

“ข้าแก่แล้วหูไม่ดี รบกวนแม่นางอวี้ช่วยพูดซ้ำอีกครั้งได้หรือไม่” แม่นมเหยียนพูดเสียงเรียบ แต่สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่า… ‘กล้าดีก็พูดซ้ำอีกครั้งสิ!’

“ไปเดี๋ยวนี้แหละเจ้าค่ะ” อวี้หมี่สะดุ้งเฮือกในใจแล้วรีบผงกหัวปลกๆ แม้จะพยายามข่มอกข่มใจก็ไม่วายจะลอบบ่นตบท้าย “ขะ…ข้าจะไปขอขมาเขาเดี๋ยวนี้ แม่นมเข้านอนแต่หัววันดีหรือไม่เจ้าคะ นี่เป็นเรื่องของเด็กๆ ท่านอย่าสอด เอ่อ…ข้าจะพูดว่าท่านอย่าเก็บมาพะวงเลยดีกว่า หาไม่หากพลอยเพลียอกเพลียใจไปด้วยจะแย่เอานะเจ้าคะ ท่านว่าจริงหรือไม่”

แม่นมเหยียนถลึงตาใส่เด็กสาวที่ไม่รู้ว่าหัวไวหรือหัวทื่อกันแน่ แล้วไม่รู้จะร้องไห้หรือหัวเราะดี

มิน่าเล่า ชิงเกอเอ๋อร์ถึงได้ใช้กลยุทธ์ประหลาดวกวน เดี๋ยวก็ภูเขา เดี๋ยวก็น้ำ เห็นแล้วชวนงุนงงยิ่ง ที่แท้ก็เพราะคู่ต่อสู้เป็นปลาไหลแสนลื่นที่จับไม่อยู่ เป็นทองแดงที่ตีไม่แบนนี่เอง

“นี่ก็ดึกมากแล้ว” หญิงสูงวัยเลิกคิ้วน้อยๆ ก่อนจะพูดเป็นนัย “ปกติท่านแม่ทัพใหญ่จะเข้านอนช่วงปลายยามจื่อ*

ความหมายก็คือถ้าจะขอขมาก็ต้องรีบไป หากรอจนข้ามคืนจะไม่เป็นผลแล้ว?

“เฮ้อ…” นางถอนหายใจอย่างยอมแพ้ “เจ้าค่ะ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

เห็นไหม มีอำนาจก็ดีอย่างนี้แหละ ไม่ต้องออกโรงเองก็เล่นงานนางจนตกน้ำตกท่าได้อยู่ดี

“รอให้ข้ามีเงินมีทองกองล้นฟ้าเมื่อไร ข้าจะซื้อแม่นมสักสามร้อยห้าร้อยคนมาแสดงศักดาบ้าง” นางเดินไปตามทางที่แม่นมเหยียนกำชับมาอย่างเคร่งครัด มุ่งหน้าไปยังเรือนนอนของเยียนชิงหลาง พร้อมงึมงำอยู่คนเดียวโดยมีแสงโคมเป็นเพื่อนส่องทาง “เมื่อถึงเวลานั้นพวกนางก็จะชื่นชมเจ้านายอย่างข้าเสียเลิศลอยราวกับเป็นเทพลงมาจากสวรรค์ ดูซิว่าทีนี้ยังจะมีใครกล้ามาแหย่ข้าเล่นอีกหรือไม่”

นั่นน่ะสิ ทั้งแหย่ ทั้งกลั่นแกล้ง เยียนชิงหลางคนนั้นนึกว่านางดูไม่ออกหรือว่าตนเองถูกเขา ‘หยอกเล่น’ ราวกับเป็นสิ่งของชิ้นหนึ่ง

ไม่เช่นนั้นแม่ทัพพิทักษ์บูรพาผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกรมีชื่อเสียงขจรขจายจะลดตัวลงมาหาเรื่องสตรีตัวเล็กๆ คนหนึ่งไปไยกัน

“แต่เหตุใดเขาถึงต้องคอยแกล้งข้าด้วยเล่า แหย่ข้าเล่นสนุกนักหรือไร” นางทำแก้มป่อง ไม่ได้ล่วงรู้เลยสักนิดว่าคำพูดส่งเดชของตนเองตรงกับความจริงเข้าอย่างจัง

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายเป็นขุนนาง ส่วนนางเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ทำตัวเล็กลีบนอบน้อมกับเขา นางยังจะทำอะไรได้อีก

เพื่อให้ชีวิตใน ‘ระยะต้องโทษ’ อันแสนขมขื่นอีกยี่สิบเก้าวันที่เหลือสบายขึ้นอีกนิด อวี้หมี่จำต้องลากเท้าเดินไปถึงหน้าเรือนนอนของคู่กรณีอย่างจำยอม หลังเตรียมตัวเตรียมใจและหายใจเข้าลึกๆ เรียบร้อยแล้ว นางก็เอ่ยกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ยืนยามอยู่ตรงหน้าประตู

“ข้าน้อยอวี้หมี่มาขอพบท่านแม่ทัพใหญ่ รบกวนพี่ชายท่านนี้ช่วยเข้าไปรายงานให้ที”

นึกไม่ถึงว่าพอเอ่ยคำว่า ‘พี่ชาย’ ออกไป ชายหนุ่มรูปร่างสูงตระหง่านดุจสนต้นใหญ่ก็สะท้านเฮือกทีหนึ่ง ใบหน้าที่อยู่ใต้เงาสลัวของรัตติกาลซีดเผือดเล็กน้อย “แม่นางอวี้ชะ…เชิญเข้าไปได้เลย…มะ…ไม่ต้องเรียกข้าว่าพี่ชายหรอก”

อะไรกัน เหตุใดต้องมีท่าทางเช่นนั้นด้วย

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com