ทดลองอ่าน ลำนำรักเจ้านาวา ชุด หัวใจเจ้าทะเล – หน้า 15 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน ลำนำรักเจ้านาวา ชุด หัวใจเจ้าทะเล

วันถัดมา สวี่จื่อฉีมาเชิญจั้นปู้ฉวินไปนั่งเรือสำราญล่องทะเลสาบในฐานะเจ้าบ้าน

พอจั้นปู้ฉวินได้ยินว่าจะลงเรืออีกแล้ว สีหน้าก็เกือบจะเขียวคล้ำ รีบยิ้มแห้งปฏิเสธ

“พี่สวี่ ขอบอกตามตรงโดยไม่ปิดบัง หลายวันมานี้ข้าโดยสารเรือก็เจอคลื่นมามากพอแล้ว ในเวลาสั้นๆ นี้ไม่อยากจะขึ้นเรืออีกจริงๆ”

สวี่จื่อฉีได้ยินดังนั้นก็แก้คำพูดใหม่

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราสองคนก็ขี่ม้าไปชมทิวทัศน์ที่หอเซียวเซียงกันดีหรือไม่ หอเซียวเซียงสูงสามชั้น สามารถทอดมองไปไกลเห็นทิวทัศน์ต้งถิง ชมทัศนียภาพทะเลสาบได้กว่าครึ่ง อีกทั้งหอเซียวเซียงไม่ได้มีแค่น้ำค้างปทุมที่มีชื่อ พ่อครัวของที่นั่นยังเชี่ยวชาญในการนำส่วนต่างๆ ของปลามาประกอบอาหาร น้ำแกงตะพาบทั้งสดทั้งอร่อยแล้วยังบำรุงร่างกายด้วย หากมาถึงต้งถิงแล้วไม่ได้กินสักอย่างก็น่าเสียดายจริงๆ พี่จั้นคิดเห็นเช่นไร”

“สหายรัก ในเมื่อมีทั้งสุรารสเลิศและอาหารโอชะ ข้าย่อมไม่มีปัญหา!” จั้นปู้ฉวินตอบรับอย่างเบิกบานใจ ตอนนี้ยิ่งมองศิษย์คนโตสกุลสุ่ยผู้นี้ก็ยิ่งสบายตาแล้ว

บ่าวรับใช้จูงม้ามาให้แล้วถอยออกไป ชายหนุ่มสองคนตวัดตัวขึ้นม้า เพราะไม่ได้รีบเร่งเดินทางจึงคุยเล่นหัวเราะไปตลอดทาง จั้นปู้ฉวินคุยเรื่องทิวทัศน์นอกเมืองทางเหนือ และสิ่งที่ได้พบเจอจากการเดินทางไปทั่วสารทิศ สวี่จื่อฉีก็เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นหลายปีมานี้ในยุทธภพจงหยวนสองสามเรื่อง จนตอนที่มาถึงหอเซียวเซียงแห่งเยวี่ยหยาง ชายหนุ่มทั้งสองก็เหมือนพี่น้องร่วมสาบานที่คบหากันมานานหลายปี

เสี่ยวเอ้อร์ที่หอเซียวเซียงเห็นคุณชายจั้นเมื่อวานนี้และคุณชายสวี่แห่งสกุลสุ่ยก็รีบออกมาต้อนรับทันที พอได้ยินว่าคุณชายทั้งสองจะนั่งชมทิวทัศน์ก็พาขึ้นชั้นบนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง หาที่นั่งส่วนตัวที่สงบเงียบให้ทั้งสองคนตรงชั้นสามติดหน้าต่าง จากนั้นก็ลงไปยกสุราและอาหารขึ้นมาให้อย่างกระตือรือร้น

“ช่วงนี้ข่าวที่เล่าลือกันอย่างหนาหูที่สุดในยุทธภพก็คือเดือนก่อนสำนักชิงเยี่ยนที่ทำกิจการรับจ้างสังหารถูกคนกำจัด แต่ไม่รู้ว่าเป็นยอดฝีมือจากสำนักพรรคใด บางคนว่าเป็นภิกษุชื่อดังจากเส้าหลิน บางคนเดาว่าเป็นนักสู้รุ่นใหม่จากพรรคฉางไป๋ แล้วยังมีคนเดาว่าเป็นเหลิ่งหรูเฟิงศิษย์เอกของฉีไป๋เฟิ่ง…เพราะได้ยินว่าตอนนั้นเขาไม่อยู่ที่ฉางอันจึงน่าสงสัยที่สุด” กับข้าวยังไม่มา สวี่จื่อฉีจึงรินชาร้อนให้ตัวเองและจั้นปู้ฉวินก่อน

เพ้ย สำนักชิงเยี่ยนก็คือสำนักมือสังหารที่ไม่มีลูกตา ลักพาตัวลูกชายของพี่ใหญ่เขามิใช่หรอกหรือ พวกนั้นถูกพี่ใหญ่ เขา พี่เขย และเหลิ่งหรูเฟิงช่วยกันกำจัด ไม่คิดเลยว่าจะยังเป็นที่ถกเถียงของยุทธภพด้วย จั้นปู้ฉวินได้ยินแล้วก็เลิกคิ้ว หัวเราะถาม

“สำนักชิงเยี่ยนมีชื่อเสียงโด่งดังในยุทธภพหรือ”

สวี่จื่อฉีคลี่ยิ้ม

“สำนักชิงเยี่ยนทำกิจการรับจ้างสังหาร ไปมาไร้ร่องรอย และมีการต่อสู้กันมากมายในยุทธภพ ขอเพียงคนอยู่ในยุทธภพ มากน้อยอย่างไรก็ต้องมีศัตรู แต่ละพรรคแต่ละสำนักย่อมหวาดระแวงสำนักชิงเยี่ยน ครั้งนี้สำนักชิงเยี่ยนถูกทำลาย ก็ไม่รู้ว่ามีคนมากน้อยเท่าไรที่โล่งใจแล้ว”

ที่แท้เขาและพี่ใหญ่ก็นับว่าช่วยคนอื่นลดความยุ่งยากไปได้ไม่น้อย

“จากที่พี่สวี่มอง ในบรรดาสองสามคนที่เอ่ยถึงก่อนหน้านี้ ท่านคิดว่าใครมีความเป็นไปได้มากที่สุดหรือ” จั้นปู้ฉวินว่างอยู่เบื่อๆ จึงถามอย่างนึกสนุก

“เล่ากันว่ามือสังหารของสำนักชิงเยี่ยนส่วนใหญ่ถูกปลิดชีพในดาบเดียว แต่ก็มีรอยแผลที่เกิดจากทวนและอาวุธอื่นๆ ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นสองคนแรก เป็นไปได้ว่าเจอกับยอดฝีมือหลายท่านที่ร่วมมือกันโจมตี สำนักชิงเยี่ยนเคยลอบสังหารขุนนางผู้ใหญ่หลายท่านก่อนหน้านี้ ดังนั้นเป็นไปได้มากว่าจะเป็นฝีมือของคุณชายรองเหลิ่ง ต่อให้เขาไม่ได้ลงมือเอง แต่ก็น่าจะมีส่วนรู้เห็น” สวี่จื่อฉีตอบ

ตอนนี้จั้นปู้ฉวินยิ่งมองสวี่จื่อฉีในมุมใหม่ คิดไม่ถึงว่าแม้อีกฝ่ายจะคาดเดาไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้คลาดเคลื่อนไกลนัก แม้เหลิ่งหรูเฟิงจะแค่สังหารมือสังหารฉายาผู้พิพากษาดำขาวของสำนักชิงเยี่ยน แต่ก็มีส่วนร่วมในแผนการจริง ดูท่าเขาไม่อาจดูเบาพี่สวี่ที่หน้าตาขี้ริ้วคนนี้ได้ คนผู้นี้ไม่ใช่แค่ทางดาบไม่เลวเท่านั้น สมองก็ยังปราดเปรื่องมากอีกด้วย เขาจะต้องระวังตัวไม่เผลอเปิดเผยธาตุแท้ต่อหน้าศิษย์เอกของสกุลสุ่ยผู้นี้เสียแล้ว

ความจริงถ้าหากไม่ใช่เพราะพี่สาวกำชับไว้ก่อนหน้านี้ เขาก็อยากจะถามสวี่จื่อฉีไปตรงๆ ว่าเหตุใดสกุลสุ่ยจึงขึ้นราคาค่าต่อเรือสูงฮวบฮาบเช่นนี้ ทว่าตอนนี้เขาย่อมทำเช่นนั้นไม่ได้ จึงได้แต่คิดหาวิธีอื่น

เสี่ยวเอ้อร์ในร้านยกกับข้าวขึ้นโต๊ะทีละอย่าง ทั้งสองคนดื่มสุราพูดคุยกันอย่างสำราญใจ แล้วก็คุยเรื่องยุทธภพกันต่อ

ทะเลสาบต้งถิงนอกหน้าต่างมีเงาเรือเป็นหย่อมๆ ตีนเขาไกลๆ ถูกไอน้ำของทะเลสาบที่ระเหยขึ้นไปโอบล้อม เสียงคลื่นดังลอยมาเป็นพักๆ บางครั้งก็ยังมีเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วอีกด้วย

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com