เมื่อครู่เพิ่งจะหลับมาถึงกลางดึก เพราะจู่ๆ ก็รู้สึกว่าหน้าอกถูกกด เขาเลยตื่นขึ้นมาจึงเห็นสุ่ยรั่วนอนอยู่บนร่างเขา มือข้างหนึ่งโอบคอเขาไว้ ส่วนอีกข้างวางอยู่บนหน้าอกเขา หน้าผากก็หนุนอยู่ที่เดียวกันนั้น ลมหายใจเบาบางราวกับกลิ่นกล้วยไม้พรูเข้ามาในเสื้อของเขาที่ไม่รู้ว่าแหวกกว้างตั้งแต่เมื่อใด เป่ารดผ่านหน้าอกและโหมเพลิงปรารถนาของเขาให้ลุกโชนในขณะเดียวกัน
สิ่งที่แย่ที่สุดคือเสื้อผ้าครึ่งบนของนางถูกดึงจนคลายไปกว่าครึ่ง เพราะมือใหญ่ที่ซุกซนของเขา เผยให้เห็นไหล่งามขาวราวหิมะด้านหนึ่ง และผิวเรียบลื่นนวลผ่องอีกกว่าครึ่ง อีกทั้งหน้าอกนุ่มที่ทับอยู่บนอกเขาซึ่งแทบจะโผล่ออกมาให้เห็น นางแค่หายใจ เนินนุ่มขาวผ่องก็ค่อยๆ กดทับหน้าอกเขาเบาๆ ผ่านชั้นเสื้อบางๆ และยังอยู่ในสภาพจะหลุดมิหลุดแหล่อีกด้วย
จั้นปู้ฉวินครางต่ำๆ ออกมา ลมหายใจเร่งร้อนขึ้นโดยไม่รู้ตัว กางสองมือออกไปด้านข้าง ไม่กล้าแตะต้องนางและไม่กล้ามองนางอีก ได้แต่มองหลังคาดำมืด ร้องเรียกสวรรค์อยู่ในใจ
สองวันติดกัน เขาได้โอบกอดสาวงามเต็มอ้อมกอด…ช่วยไม่ได้ แม้ระหว่างพวกเขาสองคนจะมีหมอนไม้ขวางกั้น แต่ก็นอนบนเตียงหลังเดียวกัน อีกทั้งกลางคืนหนาวเย็นมีน้ำค้าง หลังจากหลับสนิทก็จะหาที่อุ่นๆ โดยสัญชาตญาณ เมื่อคืนตอนที่เขาตื่นขึ้นมาก่อน ทั้งสองคนอยู่ในสภาพกอดเกี่ยวกันอยู่ แต่ตอนนั้นใกล้สว่างแล้ว อีกทั้งกล้ามเนื้อและกระดูกทั้งตัวเขายังปวดไม่หาย จึงยังไม่มีปฏิกิริยาร้อนแรงถึงเพียงนี้ เพื่อไม่ให้นางกระดากอาย เขาจึงฉวยโอกาสตอนที่นางยังไม่ตื่นย้ายนางกลับไปที่อีกฝั่งเตียง แต่เช้านี้เขาโคจรพลังปรับลมหายใจแล้ว กล้ามเนื้อและกระดูกไม่ได้เจ็บอีกแล้ว ทว่าตอนนี้…
ทันใดนั้นนางก็ถอนใจ ปรับท่านอนให้สบายแล้วก็หลับต่อ จั้นปู้ฉวินแข็งทื่อไปทั้งตัว ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเสื้อบางๆ ของนางได้เลื่อนจากตำแหน่งเดิมอย่างตามใจชอบแล้ว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ ไม่ใช่นักบวช แน่นอนว่าเกิดปฏิกิริยาในทันที
ถ้าหากเขาเป็นวิญญูชนผู้มีเกียรติจริงๆ เขาก็ควรจะจัดดึงเสื้อนางให้ดีๆ และเคลื่อนย้ายนาง…
ตอนนี้ขาเนียนของสุ่ยรั่วพาดเอวเขา ทำเอาเลือดลมพลุ่งพล่านทันที วีรบุรุษหรือจอมยุทธ์ วิญญูชนผู้มีเกียรติอะไรนั่นถูกเขาโยนทิ้งไปไกลแสนแปดพันลี้แล้ว หากวันนี้คนที่นอนอยู่บนตัวเขาไม่ใช่นาง เขาอาจจะควบคุมได้ แต่อีกฝ่ายเป็นนางนี่สิ ทั้งยังเป็นสตรีหนึ่งเดียวที่ทำให้เขาหวั่นไหวในรอบสามสิบกว่าปีมานี้
ตายเป็นตายก็แล้วกัน ไหนๆ ข้าก็ไม่ใช่วีรบุรุษหรือจอมยุทธ์อะไรอยู่แล้ว!
จั้นปู้ฉวินกัดฟัน มือใหญ่ที่ชื้นเหงื่อมาแต่แรกลูบแขนเรียวนวลเนียนของนางอย่างอดไม่ไหว มืออีกข้างโอบเอวบางของนางแล้วพลิกตัวกดนางไว้ใต้ร่าง
สุ่ยรั่วพึมพำเบาๆ ทว่าไม่ได้ตื่นขึ้นมา
มองดวงหน้าบริสุทธิ์อ่อนหวานของนางแล้ว หัวใจของเขาก็บีบรัดโดยไม่รู้ตัว…
ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่ได้!
จะทำกับนางเช่นนี้ไม่ได้! ต่อให้อยากได้นางแค่ไหน อย่างน้อยก็รอให้ลงเขาไปสู่ขอกับบิดานางแล้วค่อยว่ากัน!
จั้นปู้ฉวินเหงื่อซึมหน้าผาก ไม่ง่ายเลยกว่าสติสัมปชัญญะจะเอาชนะความปรารถนาอย่างสัตว์ได้ เขารีบเอามือข้างหนึ่งยันกายไว้ ใช้มืออีกข้างดึงเสื้อของนางที่เปิดออกให้กลับเข้าที่เข้าทาง และในตอนที่ทุกอย่างกำลังจะเรียบร้อย ไม่รู้เพราะเหตุใดมือใหญ่ที่ยันร่างไว้ถึงได้ลื่น…
‘ตึง!’
ร่างกายท่อนบนของเขากลับไปทับบนร่างนาง เตียงไม้ส่งเสียงประท้วง แต่โชคดีที่ไม่พังครืน
สุ่ยรั่วที่กำลังนอนหลับฝันถูกชายหนุ่มทับจนเกือบสิ้นลม นางผวาตื่นขึ้น กระแอมไอติดๆ กันหลายครั้งจึงกลับมาหายใจได้ จนตอนที่เห็นชัดว่าอะไรทับนางอยู่ก็เกือบร้องตระหนกออกมา แต่โชคดีที่ในชั่วขณะสุดท้ายปิดปากไว้ทัน
เห็นเขาหลับตาสนิททั้งสองข้าง ลมหายใจสม่ำเสมอ ไม่ขยับสักนิด สุ่ยรั่วนึกว่าเขานอนพลิกตัวจึงได้ทับนาง นางรีบคิดจะดึงตัวออกมาจากใต้ร่างเขาตอนที่เขายังไม่ตื่น แต่หมีตัวนี้ก็ช่างหนักเหลือเกินจนทำให้นางขยับไม่ได้เลย!
สุ่ยรั่วยังกลัวว่าจะทำเสียงดังจนเขาตื่น จึงไม่กล้าออกแรงผลักเขา ทว่าในตอนที่นางร้อนใจไม่รู้จะทำอย่างไรดีนั้น จู่ๆ เขาก็พลิกกลับไป!