14 วัน 14 เรื่อง
ทดลองอ่าน ลำนำรักเจ้านาวา ชุด หัวใจเจ้าทะเล
ภูเขาไกลโพ้น ดอกไม้แรกแย้ม สายน้ำไหลเรื่อยไม่หวนกลับ
แม่น้ำฉางเจียงที่แสนงดงามมักจะเห็นเงาใบเรืออยู่ไม่น้อย บ้างก็ล่องไปตามแม่น้ำ บ้างก็ล่องทวนน้ำ หรือไม่ก็บรรทุกสินค้า ไม่ก็ตกปลา ลมหนาวพัดโชยเอื่อยเช่นนี้ ภาพทิวทัศน์งดงามสำราญใจ ถ้าหากได้สุราดีอีกกา กับแกล้มอีกสองสามจาน ก็จะยิ่งสุขสำราญเลยทีเดียว
แต่ในตอนนี้บนเรือที่ติดธงของสกุลจั้นกลับมีชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งหน้าตาซีดขาวคล้ายปลาตายนั่งพิงหีบสินค้า บนใบหน้าหาความสำราญใจมิได้เลยสักนิด
มองตัวอักษร ‘จั้น’ โดดเด่นอยู่บนธงที่ปลิวไสวตรงหัวเรือ เขาก็เหมือนเห็นหน้าตาบิดเบี้ยวลำพองใจของหญิงผู้นั้นทับซ้อนกับธงผืนใหญ่ ทำให้รู้สึกไม่สบายถึงขีดสุด
มังกรสมุทรตระกูลจั้นติดอันดับหนึ่งในสิบสมาคมใหญ่แห่งต้าถัง
คนที่เป็นผู้นำคือสตรี ชื่อเสียงเรียงนามว่าจั้นชิง อายุ…สามสิบห้า?
น่าจะใช่กระมัง ไหนๆ นางก็เป็นหญิงห้าว สิ่งที่ทำให้คนไม่อาจเชื่อได้มากที่สุดคือหลายปีที่เขาไม่อยู่บ้าน หญิงห้าวผู้นี้ถึงกับหลอกเอาคนมือเติบมาแต่งงานด้วย แล้วคนมือเติบผู้นั้นก็คือเซียวจิ้ง พี่ใหญ่ร่วมสาบานของเขา
เฮ้อ เดิมนึกว่าในที่สุดจะได้หลุดพ้นจากกรงเล็บของหญิงห้าวผู้นี้เสียที ใครจะไปรู้ว่าไปอ้อมซีอวี้รอบใหญ่ๆ รอบหนึ่งกลับมา เขาก็ยังถูกหญิงห้าวควบคุมอย่างแน่นหนา ไม่เพียงแค่นั้น ตอนนี้นางแต่งงานแล้ว คนที่แต่งด้วยยังเป็นพี่ใหญ่ของพี่ใหญ่ของเขาอีก ลำดับอาวุโสนี้ไม่ว่าจะนับอย่างไรเขาก็ยังอ่อนอาวุโสที่สุด อีกทั้งยังลดลำดับลงสองขั้นติด นี่คือสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงตั้งแต่ที่ออกไปจากบ้าน
ชายร่างใหญ่กำยำหนวดดำถอนหายใจ แม้ทางใต้อากาศจะอบอุ่นแต่กลับชื้นนิดๆ เขามักจะรู้สึกว่าหนวดครึ้มที่คางหนักขึ้นมาเล็กน้อยอย่างไร้สาเหตุ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมีละอองน้ำเกาะอยู่หรือไม่
เขาน่ะแซ่จั้น ชื่อปู้ฉวิน แม้จะเป็นนายน้อยสกุลจั้น แต่มีนิสัยเลือดร้อน สมัยเด็กเพราะทะเลาะกับบิดาจึงประชดด้วยการหนีออกจากบ้าน ท่องยุทธภพอยู่หนึ่งรอบ สุดท้ายมีโอกาสได้เดินทางไปซีอวี้แต่กลับหลงทางในทะเลทราย เกือบจะถูกดวงอาทิตย์ร้อนแรงแผดเผาจนกลายเป็นศพแห้งๆ เสียแล้ว
โชคดีที่ในช่วงกึ่งมึนงงกึ่งตื่นนั้น ทำให้เขาเดินสับสนจนมาถึงเขตรอบนอกของเขาเหยี่ยวดำที่เล่าลือกันแล้วหมดสติไป จากนั้นก็ถูกนายน้อยแห่งเขาเหยี่ยวดำเฮ่อเหลียนอิงช่วยชีวิตไว้จึงได้รอดตาย
ช่วงเวลาที่พักรักษาตัวอยู่ที่เขาเหยี่ยวดำ เขาพบว่าแม้เฮ่อเหลียนอิงจะดูเหมือนเย่อหยิ่งเย็นชา แต่ความจริงแล้วก็เป็นบุรุษเลือดร้อนคนหนึ่ง เขาได้เห็นกับตาเมื่อมีคนปล้นขบวนสินค้าของเขาเหยี่ยวดำสองสามครั้งทำให้เฮ่อเหลียนอิงต้องตอบโต้กลับ อีกทั้งเฮ่อเหลียนอิงยังเป็นคนที่ทำงานเฉียบขาดยึดถือคุณธรรม ลงโทษและให้รางวัลลูกน้องชัดเจน และทำดีด้วยใจจริงโดยไม่หวังให้ใครรู้ ยิ่งทำให้เขาเกิดความเลื่อมใสต่อนายน้อยที่วรยุทธ์สูงส่งผู้นี้
หลังจากนั้นไม่นานจั้นปู้ฉวินก็สมัครใจเข้าร่วมกับเขาเหยี่ยวดำ เฮ่อเหลียนอิงแม้ปากจะไม่ได้พูด แต่ในใจกลับชื่นชมชายหนุ่มที่เป็นคนเปิดเผยผู้นี้ยิ่งนัก แม้จะไม่ได้เรียกขานเป็นพี่น้องกับเขา แต่ก็ให้ใจกับชายตัวโตร่างสูงเจ็ดฉื่อ ผู้นี้เหมือนดังพี่น้อง สิบปีที่ผ่านมาทั้งสองคนร่วมทุกข์ร่วมสุขมาด้วยกัน ทั้งยังไปล่าดินแดนกันที่ทะเลทรายอีกด้วย
เฮ่อเหลียนอิงได้ฉายาราชาแห่งทะเลทรายจากซีอวี้ จั้นปู้ฉวินมีความชอบใหญ่หลวงที่ไม่อาจมองข้าม แต่เขากลัวว่าจะถูกคนของสกุลจั้นตามหาตัวพบ จึงยินดีที่จะอยู่ในนามแม่ทัพของเขาเหยี่ยวดำ ไม่เคยบอกชื่อแซ่กับผู้ใด คนนอกจึงรู้แค่ว่าข้างกายราชาแห่งทะเลทรายมีชายตัวโตหนวดดำที่กล้าหาญไร้เทียมทาน แต่กลับไม่มีผู้ใดรู้ชาติตระกูลและความเป็นมาของคนผู้นี้เลย
แต่คนของเขาเหยี่ยวดำทำตัวลึกลับอย่างยิ่งมาตลอด ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก จึงทำให้จั้นปู้ฉวินหลบซ่อนตัวอยู่ในซีอวี้ได้สิบกว่าปีโดยไม่ถูกพบตัว
กระทั่งสามปีก่อน จั้นปู้ฉวินไปทำการค้าแทนพี่ใหญ่เฮ่อเหลียนอิงที่ด่านอวี้เหมิน และได้พบกับเซียวจิ้งที่โรงเตี๊ยมโดยบังเอิญ เขาเห็นแหวนมังกรที่เป็นสมบัติตกทอดของสกุลจั้นอยู่บนนิ้วของคนผู้นี้ ตอนแรกเขายังนึกว่าที่บ้านเกิดเรื่อง พอสืบดูจึงได้รู้ว่าหญิงห้าวได้แต่งงานไปหลายปีแล้ว และชายหนุ่มผู้นี้ก็คือพี่เขยมือเติบที่เขาไม่เคยเจอ อีกทั้งเหมือนอีกฝ่ายยังสืบหาที่อยู่ของเขาไปทั่วทุกที่ด้วย
เพราะไม่อยากถูกจับตัวกลับไป จั้นปู้ฉวินจึงออกจากด่านอวี้เหมินกลับเขาเหยี่ยวดำทันที แต่สุดท้ายก่อนที่จะออกนอกด่านก็ถูกพี่เขยที่ดูเหมือนสุภาพเรียบร้อยแต่ความจริงเฉลียวฉลาดเจ้าเล่ห์สกัดไว้
สิ่งที่น่าปวดหัวคือเซียวจิ้งเป็นชายโฉดที่เฮ่อเหลียนอิงตามหามาสิบกว่าปี…เอ่อ ไม่สิ คือพี่ชายร่วมสาบานที่ช่วยพี่สะใภ้ใหญ่หนีตายจากเหตุวุ่นวายในโรงเตี๊ยมสุนทรีเยือนในปีนั้น แต่ตอนนี้เซียวจิ้งเป็นพี่เขยของเขา อีกฝ่ายไม่รู้ว่าจะจับหรือไม่จับเขาดี หลังจากที่พูดคุยกันพักหนึ่ง จั้นปู้ฉวินต้องลงทุนลงแรงอย่างมหาศาล สุดท้ายจึงได้ทำข้อตกลงกับเซียวจิ้งสำเร็จ…เขาจะไม่รายงานให้เฮ่อเหลียนอิงรู้ เซียวจิ้งก็อย่าบังคับให้เขากลับไป และเขารับรองว่าจะคอยส่งข่าวให้หญิงห้าวอย่างสม่ำเสมอ
หลังจากที่พวกเขาตกลงกันเช่นนี้แล้วก็แยกย้ายกันไป ต่างคนต่างกลับบ้าน
และเพราะเหตุผลนี้ เขาจึงได้ถูกบังคับให้ติดต่อกับบ้านเดิมอีกครั้ง
เวลาสามปีผ่านพ้นไปในพริบตา ในที่สุดพี่ใหญ่เฮ่อเหลียนอิงก็ได้พบกับพี่สะใภ้ใหญ่ที่หายตัวไปนานอีกครั้ง ถึงแม้พี่ใหญ่จะโกรธมากที่เขารู้เรื่องแต่ไม่บอก ส่วนพี่สะใภ้ใหญ่ก็โกรธที่พวกเขารวมหัวกันปิดบังนาง เซียวจิ้งถามเขาว่าจะกลับไปเมืองหยางโจวด้วยกันหรือไม่ เขาคิดใคร่ครวญสักพัก รู้ว่าช้าเร็วก็ต้องกลับไปอยู่ดี จึงกลับไปพร้อมเซียวจิ้ง
ชายหนุ่มทั้งสองขี่ม้าควบตะบึงหลายวัน สามวันก่อนจะเข้าเมืองหยางโจว เซียวจิ้งต้องไปทำธุระที่ท่าเรือ เขาจึงปฏิเสธการเดินทางร่วมกันอย่างสุภาพ มุ่งหน้าไปดื่มสุราที่หอสุราตามลำพัง ไม่คิดเลยว่าเพิ่งจะดื่มไปได้ไม่กี่ไห หญิงห้าวจะส่งคนมาตามตัวแล้ว…