“อารอง ท่านอย่าได้เอ่ยชื่อขึ้นมาอีกเลย” จั้นชิงเดินไปที่ริมขอบเรือแล้วเอามือจับกราบเรือ มองไปยังเรือสำเภาบนแม่น้ำที่อยู่ในหมอกเบาบาง เอ่ยอย่างไม่ยี่หระ “บุรุษที่จะมาเข้าใกล้ข้าได้ มีผู้ใดบ้างที่ไม่ได้ต้องการฮุบอำนาจทางน้ำของสกุลจั้น? ทั้งยังมีผู้ใดบ้างที่ไม่คิดอาศัยโอกาสแต่งคุณหนูใหญ่สกุลจั้นเพื่อประสบความสำเร็จ? เพียงแค่พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนไม่คาดคิดมาก่อนว่าตำแหน่งผู้นำตระกูลคนปัจจุบันในตอนนี้มิใช่บุรุษ หากเป็นคุณหนูใหญ่สกุลจั้นที่พวกเขาคิดอยากแต่งงานด้วย! ที่พวกเขายิ่งคิดไม่ถึงก็คือข้าไม่เพียงมิใช่คุณหนูสูงศักดิ์ที่สามารถอยู่แต่ในบ้านคอยเย็บปักถักร้อย เชื่อฟังว่าง่าย หากยังมีแต่ความสามารถในการนำพากองเรือของพวกเราทำการค้าไปทั่วสี่คาบมหาสมุทร”
นางหันกลับมามองฉีซื่อเจินแล้วยิ้มเย้ยหยันคราหนึ่ง “กับบรรดาบุรุษที่หลงคิดว่าแค่พูดคำหวานเล็กน้อยก็สามารถทำให้ข้าคลานอยู่ใต้ฝ่าเท้าได้อย่างง่ายดายเหล่านั้น จะทำให้ข้าใจเต้นได้อย่างไร บนร่างของคนพวกนั้น ข้าเห็นเพียงแต่ความหลงตนเอง ละโมบ และโง่เง่า”
“แย่ขนาดนั้นเชียว?” ฉีซื่อเจินขมวดคิ้วทั้งยังทอดถอนใจในใจ หรือว่าที่ข้าช่วยยายหนูนี่ตั้งแต่ทีแรกจะทำผิดเสียแล้ว?
หากว่านางไม่เคยขึ้นเรือมาตั้งแต่แรก ไม่ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ เช่นนั้นอำนาจผู้นำตระกูลในยามนี้ย่อมเป็นของเจ้าหนูจั้นปู้ฉวินอย่างแน่นอน ภาระบนบ่าของนางก็จะไม่หนักหนาถึงเพียงนี้ เช่นนั้น…สายตาของนางก็คงไม่สูงลิบขนาดนี้ แล้วก็คงแต่งให้กับบุรุษในดวงใจไปนานแล้วใช่หรือไม่
เห็นฉีซื่อเจินขมวดคิ้วมองมาที่ตนเองอย่างกังวล จั้นชิงรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่จึงยิ้มเอ่ย
“อารอง อย่าได้คิดมากเลย ไม่ว่าช้าหรือเร็วยังไงข้าก็ย่อมคิดหาวิธีขึ้นเรือให้ได้ ท่านควรจะรู้ว่าข้าไม่มีทางตัดใจโดยง่ายอย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้นท่านจะเป็นอย่างท่านพ่อเช่นนั้นหรือไร คิดว่าสตรีไม่มีความสามารถดูแลมังกรสมุทรตระกูลจั้นงั้นหรือ”
เขาได้ยินแล้วก็ทอดถอนใจ ยิ้มขมขื่นตอบกลับ
“ยายหนู หากข้าคิดเช่นนั้นก็ไม่มีทางช่วยเจ้าพูดแต่แรกแล้ว”
“เช่นนั้นท่านเสียใจภายหลังแล้วหรือไม่” นางถามด้วยดวงตาเป็นประกาย
ฉีซื่อเจินมองไปยังกองเรือสำเภาบนแม่น้ำรอบๆ ในเวลาไม่กี่ปีสั้นๆ ยายหนูได้ทำให้ทุกคนในสกุลจั้นยอมรับนับถือจากใจ ไม่เพียงแต่เอ็นดู ที่มากกว่านั้นคือความเคารพ นางพิสูจน์ความสามารถของนางแล้วจริงๆ กระทั่งนำพาทุกคนเปิดเส้นทางเรือสายใหม่ เสาะหาเส้นทางชีวิตที่สงบสุขมากขึ้นอีกเส้น
ในยามปกตินางเป็นพี่สาวน้องสาว บุตรสาวที่น่ารัก แต่เมื่อเกิดเรื่อง นางก็เปลี่ยนเป็นผู้นำตระกูลที่ฉลาดเฉลียวและใจเย็นทันใด จัดการปัญหาอย่างเด็ดขาดรวดเร็ว ปฏิบัติต่อลูกน้องอย่างยุติธรรมเข้มงวด กระทั่งตอนเผชิญคลื่นลมพายุในทะเล นางเองก็สามารถยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับคนเรือคนอื่นๆ ได้ ถึงแม้พละกำลังของนางจะไม่มากเทียบเท่าคนอื่นจริงๆ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่านอกจากหัวหน้าแล้ว เขาก็เห็นว่ายายหนูเป็นคนเรือที่ดีที่สุดคนหนึ่ง กระทั่งน้องชายของนางจั้นปู้ฉวินยังไม่มีพรสวรรค์เทียบเท่านางแต่อย่างใด
นางกับหัวหน้าล้วนเป็นคนเรือโดยกำเนิด!
“เปล่า” ฉีซื่อเจินหันกลับมามองจั้นชิงที่กำลังยืนรอคำตอบอยู่ เอ่ยอย่างจริงจัง “กับเรื่องนี้ อารองอาจจะเคยนึกสงสัย แต่ไม่เคยนึกเสียใจภายหลังมาก่อนแน่นอน”
จั้นชิงคลี่ยิ้มกว้าง “ขอบคุณเจ้าค่ะอารอง”
“แต่ข้าก็ยังหวังให้สักวันเจ้าจะหาบุรุษในดวงใจพบและได้แต่งงานอยู่ดี”
จั้นชิงได้ยินแล้วอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉีซื่อเจินยกมือขึ้นปรามนางก่อนพร้อมเอ่ยต่อจนจบ
“ไม่ได้เป็นเพราะข้าสงสัยในความสามารถของเจ้า แต่เพราะข้าแก่แล้ว สักวันก็ต้องลงบาดาลเหลือง* ไปพบหัวหน้า ข้าหวังว่าหากมีสักวันที่ข้าไม่อยู่แล้ว อย่างน้อยก็วางใจว่ายังมีสักคนที่สามารถดูแลเจ้าได้ เป็นเช่นนี้ในยามที่ข้าตายไปถึงจะมีอะไรไปบอกพ่อเจ้าได้ เจ้าคงไม่ได้หวังว่าพวกเราคนแก่สองคนอยู่ที่โลกหลังความตายแล้วก็ยังคงเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องการแต่งงานของเจ้าหรอกนะ”
นางเม้มปากพร้อมหลบสายตา หันไปมองดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นมาขจัดกลุ่มหมอกเบาบางบนแม่น้ำ ผ่านไปชั่วครู่ใหญ่จึงเอ่ย
“เรื่องแบบนี้บางทีก็ต้องอาศัย…วาสนา”
“เรื่องนี้ข้ารู้ อารองแค่เพียงหวังว่าหากวาสนามาถึงแล้วจริงๆ อย่าได้เอา ‘มังกรสมุทรตระกูลจั้น’ สี่คำนี้ขึ้นมาเป็นข้ออ้าง เข้าใจหรือไม่”
“อืม…เจ้าค่ะ” ถึงแม้นางจะผงกศีรษะตอบรับแล้ว ในใจก็ยังคงไม่คาดหวังถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘วาสนา’ นั้น
ในเมื่อความจริงแล้ว แม้ใต้หล้าจะกว้างใหญ่ แต่จะมีบุรุษใดสามารถยอมรับอีกทั้งไม่แทรกแซงการดูแลกองเรือเหล่านี้ของภรรยาได้ ผู้ใดจะมีหัวใจที่กว้างใหญ่ถึงเพียงนั้นกัน
รุ่งอรุณทอแสงอร่ามย้อมสีของแม่น้ำให้กลายเป็นสีทองคำ บนแม่น้ำสะท้อนภาพใบเรือจากที่ไกลๆ ธงอักษร ‘จั้น’ โบกสะบัดไปตามแรงลม นางมองไปยังภาพกองเรือสำเภาอันเพียบพร้อมของตระกูลตน ในใจเกิดทั้งความภาคภูมิและขมขื่น
นี่คือผลลัพธ์จากการทำงานหนักของนาง นางพยายามพิสูจน์ตนเองต่อหน้าบิดา ต่อหน้าผู้คนทั้งโลก ในยามนี้หลังจากพยายามมานานหลายปี นางไม่มีทางยอมละทิ้งทั้งหมดนี้เพื่อใครสักคนได้ คนที่คิดแต่งงานกับนางจะต้องสามารถยอมรับและประนีประนอมได้ แต่ใครจะสามารถทำได้กัน บนโลกใบนี้จะมีคนที่เข้าใจนาง ยอมรับนางได้จริงๆ หรือ
หากว่ามี…จะเป็นผู้ใดกันนะ