ทดลองอ่าน ลำนำรักเจ้าสมุทรชุด หัวใจเจ้าทะเล – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน ลำนำรักเจ้าสมุทรชุด หัวใจเจ้าทะเล

ในดวงตาของจั้นชิงทอประกายโทสะ แต่นางกดข่มมันลงไปแล้วท้วงเตือนทุกคนเสียงเย็น

“การขนส่งทางเรือแปดสิบจากร้อยส่วนที่เมืองหยางโจวตอนนี้อยู่ในมือข้า ใครไม่คิดอยากทำการค้า สามารถเดินออกประตูใหญ่ของหอสี่สมุทรไปได้เลย”

ครั้นตระหนักได้ถึงความหนักหนาของปัญหา ผู้คนที่คิดอยากจะจากไปเหล่านั้นต่างชะลอฝีเท้าลงอย่างช่วยไม่ได้

โจวอวี้เฉิงที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดพลันเปิดปาก ขมวดคิ้วพูดขึ้นมา

“สาวน้อย พวกเรามาทำการค้า ไม่ได้มาเล่นหรอกนะ”

นางมองไปที่ผู้อาวุโสโจวซึ่งยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ประหลาดใจอยู่บ้างที่เขาไม่จากไป อีกทั้งผู้คนที่จะจากไปเหล่านั้นเมื่อได้ยินเสียงของโจวอวี้เฉิงก็ต่างพากันรู้สึกตัวว่าเขายังอยู่ที่เดิม จากนั้นก็พบว่าฉินเซี่ยวเทียนเองก็ยังไม่จากไป พวกเขาล้วนต่างหยุดชะงักลงด้วยความสงสัยอย่างอดไม่ได้ เพราะว่าสองคนนี้ไม่มีทางทำการค้าที่ขาดทุน

“ข้าเองก็ไม่ได้มาเล่น” จั้นชิงตีสีหน้าเย็นชาตอบกลับ

เซียวจิ้งที่กลับไปนั่งข้างกายฉินเซี่ยวเทียนแล้วพลันยิ้มแย้มเอ่ยแทรกขึ้นมา

“ในเมื่อทุกคนล้วนต่างมาเพื่อทำการค้า เช่นนั้นก็นับได้ว่ามีความคิดเห็นตรงกัน หากว่าเป็นเรื่องมีผลประโยชน์ เชื่อได้ว่าเถ้าแก่ทุกท่านย่อมไม่พลาดโอกาสทำเงินครั้งนี้ สุภาษิตกล่าวไว้ได้ดีว่ามีการค้าทุกคนแบ่งกันทำกำไร เหตุใดเถ้าแก่ทุกท่านจึงไม่ลองฟังคุณหนูจั้นกล่าวให้จบก่อนค่อยตัดสินใจอีกทีเล่า”

ทุกคนได้ยินว่ามีโอกาสทำเงิน หนนี้จึงต่างพากันเลิกคิดที่จะจากไป คนที่เพิ่งลุกขึ้นมาก็กลับลงไปนั่ง ที่ถึงประตูทางออกแล้วก็กลับมานั่งอยู่ที่เดิมกันทั้งหมด

จั้นชิงมองไปที่บัณฑิตผู้นั้นคราหนึ่ง เดิมทีนางเองก็คิดจะพูดจาให้กระจ่าง เป็นคนพวกนั้นที่ไม่คิดจะฟังแต่แรกเอง แต่ในยามนี้สถานการณ์จึงนับได้ว่าสงบลงแล้ว อย่างน้อยก็ยังไม่มีใครก้าวออกจากประตูใหญ่ไป ทั้งเหตุผลยังเป็นเพราะบุรุษผู้นี้อ้าปากเอ่ยอย่างเรียบง่ายเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น เอาใจความสำคัญยัดเข้าไปในหัวของพวกเต่าเหล่านี้

ง่ายดายเพียงแค่นั้นเขาก็สามารถทำในสิ่งที่นางคิดอยากทำให้สำเร็จได้แล้ว ช่างชวนให้น่าโมโหเสียจริงๆ

จั้นชิงขมวดคิ้วเล็กน้อย กวาดสายตามองเหล่าพ่อค้าคหบดีตรงหน้า นางสูดลมหายใจเข้า รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาใช้อารมณ์จัดการ นางเชื่อว่าขอเพียงนางพูดแผนการนั้นออกมา คนที่มีสมองเสียหน่อยย่อมเห็นด้วย

“เชื่อว่าทุกท่านต่างรู้ดี สองปีมานี้ฤดูหนาวหนาวเหน็บฤดูร้อนแห้งแล้ง ยังมีภัยจากตั๊กแตน ทุกๆ ที่ล้วนเก็บเกี่ยวได้ไม่ดี ราคาข้าวสารถูกพ่อค้าหน้าเลือดบางคนโก่งราคาขึ้น…” นางพูดพร้อมกับเจตนามองไปยังบางคน ปฏิกิริยาของพวกเขาล้วนแค่นเสียงออกมาเบาๆ เห็นได้ชัดว่าไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของนาง จั้นชิงไม่ได้สนใจ ยังพูดต่อไป “ทุกคนต่างพากันขึ้นราคา ท่ามกลางวัฏจักรเลวร้ายมีแต่จะทำให้ราคาพุ่งสูงจนลงไม่ได้ ครอบครัวธรรมดาทั่วไปไม่อาจซื้อข้าวสารได้ไหว”

“ซื้อไม่ไหวก็ไม่ต้องกินสิ” หนึ่งในพ่อค้ากล่าวด้วยสีหน้าไม่ยี่หระ “หรือว่าจะต้องให้พวกเราเปิดยุ้งแจกข้าวสารอีก พวกเราล้วนกำลังทำการค้า ไม่ใช่กำลังทำตัวเป็นพระโพธิสัตว์เสียหน่อย”

จั้นชิงพยายามกดข่มความรู้สึกรังเกียจอย่างเต็มที่ เอ่ยด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

“ข้าไม่ได้ต้องการให้ทุกท่านทำตัวเป็นพระโพธิสัตว์ ขอให้ฟังข้าพูดให้จบก่อน”

พ่อค้าผู้นั้นแค่นเสียงไม่สบอารมณ์คราหนึ่ง หากพอเห็นนางเอาแต่จ้องเขม็งมาที่ตนเองอย่างเย็นชา จึงได้ผงกศีรษะเป็นเชิงรับปากว่าจะไม่พูดขึ้นมาอีก

จั้นชิงเห็นดังนั้นจึงได้กล่าวต่อ

“ครอบครัวธรรมดาซื้อข้าวสารไม่ไหว มีแต่จะทำให้สินค้าในยุ้งข้าวของทุกท่านขายไม่ออก ข้าวสารใหม่ปล่อยทิ้งไว้หนึ่งปีก็จะกลายเป็นข้าวเก่า ต่อให้เป็นข้าวสารที่ดีแค่ไหนก็จะเกิดมอดขึ้นมา ไม่มีใครสามารถรับรองได้ว่าปีหน้าปีถัดไปจะยังคงเกิดภัยหนาวภัยแล้งติดต่อกัน หากสภาพอากาศดีขึ้น ทางตอนใต้อย่างพวกเราย่อมสามารถเก็บเกี่ยวได้ดี อยากเสี่ยงดูว่าข้าวสารเก่าที่ทุกท่านกักตุนจะสามารถแลกกับข้าวสารใหม่ได้หรือไม่อย่างนั้นหรือ บางทีตอนนี้อาจจะมีคนสามารถขายได้ในราคาหนึ่งพันตำลึงต่อหนึ่งโต่วจริงๆ แต่ถึงเวลานั้นสินค้าของพวกท่านมีแต่จะต้องวางขายในราคาต่ำ ถึงขั้นโยนทิ้งลงแม่น้ำไป”

“ความหมายของเจ้าคือต้องการให้พวกเราลดราคาข้าวสาร?” เถ้าแก่หวังยิ้มเยาะ “ฮ่าๆ เพื่อปีหน้าที่ไม่แน่นอน ละทิ้งเงินทองของปีนี้ พวกเรายิ่งไม่ได้โง่เสียหน่อย”

คนอื่นๆ ก็ต่างพากันหัวเราะความไร้เดียงสาเกินไปของคุณหนูใหญ่สกุลจั้นผู้นี้

จั้นชิงไม่ได้ยี่หระต่อเสียงหัวเราะเยาะของทุกคน เพียงแค่อาศัยเสียงที่กังวานกว่ากลบ เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

“ข้าต้องการให้ทุกท่านลดราคาข้าวสารลงจริงๆ แต่ยังคงสามารถทำกำไรได้เท่าเดิม กระทั่งมากกว่าเดิม!”

ประโยคนี้ดึงดูดความสนใจของฉินเซี่ยวเทียนขึ้นมา เขาที่รักษาความเงียบมาโดยตลอดพลันเปิดปากขึ้น

“วิธีใดกัน ลองพูดออกมาดูหน่อย”

ทันทีที่เขาเปิดปากก็ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยเก็บรอยยิ้มลงไป ลอบเหลือบมองคหบดีอันดับหนึ่งด้วยความสงสัย อย่าบอกนะว่าเขาเชื่อว่าคุณหนูผู้นี้จะมีแผนการทำเงินที่น่าสนใจจริงๆ

ความสนใจจากฉินเซี่ยวเทียนทำให้จั้นชิงได้รับกำลังใจไม่น้อย สองคิ้วเลิกขึ้นขณะเอ่ย

“ในตอนนี้ราคาข้าวสารของพวกเราแพงลิบลับ ครอบครัวธรรมดาไม่อาจซื้อได้แต่แรก หากผู้คนทางตอนเหนือยังคงสามารถซื้อได้อยู่ ข้าเชื่อว่าทุกท่านมีข้าวสารจำนวนไม่น้อยที่ถูกส่งไปขายทางตอนเหนือ แต่ว่าต่อให้สามารถส่งไปขายทางตอนเหนือได้ก็ต้องผ่านการขูดรีดสองถึงสามครั้ง หนึ่งในนั้นมีค่าขนส่งนับเป็นกว่าครึ่งของต้นทุน อีกทั้งจวบจนกระทั่งปัจจุบันไม่มีตระกูลขนส่งทางน้ำตระกูลใดสามารถขนส่งสินค้ารวดเดียวไปถึงเมืองฉางอันและลั่วหยางได้”

นางมองสำรวจทุกคน รู้สึกพึงพอใจที่เห็นว่าคนส่วนใหญ่ล้วนแสดงท่าทีสนใจขึ้นมา กลายเป็นสนใจฟังในสิ่งที่นางพูดมากกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวต่ออย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

“เหตุผลแรก เป็นเพราะว่ากิจการขนส่งทางน้ำที่มีอยู่ในตอนนี้ล้วนไม่ใหญ่พอ ทุกครั้งต่างสามารถขนส่งได้เพียงระยะทางสั้นๆ แล้วก็ต้องส่งต่อให้กับกิจการขนส่งทางน้ำตามท้องที่ถัดไป เหตุผลที่สอง เพราะว่าภัยพิบัติทำให้ผู้คนเร่ร่อนกลายเป็นโจรขโมย ทางบกมีโจรภูเขา ทางน้ำมีโจรสลัด ขนส่งสามครั้งจะต้องมีสักครั้งที่ถูกดักปล้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

community.jamsai.com