ทดลองอ่าน วาสคนเขลา – หน้า 11 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน วาสคนเขลา

หลี่รั่วอวี๋พลิกเปิดม่านเขียว มองไปโดยรอบอย่างงุนงง นับจากฟื้นขึ้นจากการหมดสติไปหนึ่งเดือนเต็ม ทุกครั้งที่ตื่นลืมตาตอนเช้า สมองจะถูกความว้าวุ่นและความว่างเปล่ามาแทนที่ ความรู้สึกเงียบเหงาไร้ที่พึ่งนั้นไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไร ก็เหมือนตอนนี้ที่ถูกความมืดปกคลุม ความเย็นจากพื้นหินทะลุผ่านใต้ถุงเท้าส่งผ่านไปถึงหัวใจที่ว่างเปล่านั้น

นางกะพริบตาช้าๆ ท่ามกลางความมืดแล้วเริ่มลุกขึ้นคลำทาง เดินเท้าเปล่าออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

ค่ำคืนที่วัดบนภูเขาในพุ่มดอกไม้เต็มไปด้วยหิ่งห้อยที่มีแสงสว่างดวงน้อยๆ กำลังเต้นรำภายใต้แสงจันทร์ และท่ามกลางแสงจันทร์ นางสวมชุดนอนตัวบางหลวมโคร่งปล่อยผมสยายเดินไปในลานเรือน

บนภูเขานี้กลับมีเสียงสะท้อนอย่างชัดเจน จนสามารถได้ยินเสียงพูดคุยเบาๆ ของบ่าวที่เฝ้ายามหน้าประตูเรือนจากที่ไกลๆ

นับจากนางฟื้นขึ้นมาก็ชอบอยู่คนเดียว จึงปลีกตัวจากบ่าวไพร่ หมุนตัวเดินไปหลังเขาที่ติดกับตัวเรือนอย่างช้าๆ

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ตามสัญชาตญาณแล้วก็ได้ยินเสียงน้ำไหลมาจากบนเขา… หลี่รั่วอวี๋เม้มริมฝีปากที่แห้งผาก ยื่นมือเกาะไปบนผนังผาแล้วปีนขึ้นไปราวกับแมวน้อยที่คล่องแคล่วตัวหนึ่ง จากนั้นก็เดินไปบนทางหินกรวดที่มีดอกกล้วยไม้ปกคลุมตามเสียงน้ำนั้นไป ไม่รู้ว่าเดินไปนานเท่าใด ตอนที่เสียงน้ำเข้ามาใกล้ เลี้ยวผ่านหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ด้านหลังเป็นสถานที่อาบน้ำที่เงียบสงบแห่งหนึ่ง แตกต่างกับสถานที่อาบน้ำของสกุลหลี่ในตอนเช้า ที่นี่เหมือนจะสร้างขึ้นชั่วคราว ถังไม้ใบใหญ่รองรับน้ำที่ใช้กระบอกไม้ไผ่ดึงน้ำลงมาจากที่สูง

และในตอนนี้คนที่หลับตาแช่น้ำอยู่ในถังอาบน้ำคือชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่… ชายผมขาว

เห็นผมที่สยายอยู่บนไหล่ที่มีมัดกล้ามแข็งแรงไม่ใช่เพียงแค่ขาว แต่มีสีเงินที่ทำให้ตาพร่า ส่องประกายเย็นชาอยู่ภายใต้แสงจันทร์ ตัดกับกล้ามเนื้อแน่นตึงสีแทนนั้นอย่างประหลาด

หากจะบอกว่าเป็นเพราะอายุมากจึงมีผมขาวก็ว่าไม่ได้ ดูคิ้วที่เรียวงาม รูปโฉมที่งามสง่านั้นแล้ว ไม่เหมือนคนแก่เลย แต่เหมือนชายงามที่อยู่ในวัยแรกรุ่นมากกว่า…

ไม่รู้เพราะเหตุใด หลี่รั่วอวี๋รู้สึกว่าชายหนุ่มใต้แสงจันทร์ที่น่าประหลาดนั้นน่ามองเหลือเกิน… ดังนั้นจึงอดใจไม่ไหวเดินเข้าไปอีกหลายก้าว แต่ตอนที่เท้าเปลือยเปล่าของนางเหยียบไปบนกิ่งไม้ ชายหนุ่มที่หลับตาอยู่ตลอดก็ลืมตาขึ้นทันที ในดวงตาเฉี่ยวราวหงส์ราวกับแฝงด้วยประกายงดงามของผลึกแก้ว…

แววตาประหลาดคู่นั้น สีของนัยน์ตาทั้งสองข้างไม่เหมือนกันนัก ข้างหนึ่งเป็นสีดำ แต่นัยน์ตาอีกข้างหนึ่ง… กลับเป็นสีแดงจางๆ ราวทับทิม

ค่ำคืนบนเขาเช่นนี้ หากเป็นคนอื่นมาเห็นชายหนุ่มนัยน์ตาปีศาจผมขาวผู้หนึ่งอาบน้ำ เกรงว่าคงสงสัยว่าเป็นปีศาจในเขา ตกใจจนล้มกลิ้งหนีอย่างทุลักทุเลไปแล้ว ทว่าคนที่ลอบมองชายหนุ่มอาบน้ำในตอนนี้กลับเป็นคนปัญญาอ่อนสมองเสื่อมผู้หนึ่ง เมื่อชายหนุ่มผู้นั้นมองมาด้วยสายตาเย็นเยือก นางยังไม่รู้จักหลบเลี่ยง และยังคงเหม่อมองชายหนุ่มดังเดิม

ในตอนนี้เอง คมกระบี่เย็นเยือกก็มาพาดอยู่บนลำคอระหงของหลี่รั่วอวี๋แล้ว

“อย่าขยับ!”

ไม่รู้ว่ามีชายฉกรรจ์ในชุดทะมัดทะแมงผู้หนึ่งโผล่เอากระบี่มาจ่อที่คอหลี่รั่วอวี๋ตั้งแต่เมื่อใด กระบี่ที่แหลมคมกรีดผิวเนียนนั้นเล็กน้อยแล้ว ความเจ็บที่ส่งมาทำให้ในดวงตาโตของนางมีน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว…

ในตอนนี้ชายฉกรรจ์อีกคนก็ยกตะเกียงเล็กดวงหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะขยับมาทางหลี่รั่วอวี๋ แสงไฟส่องไปบนใบหน้าของนาง ส่องให้เห็นใบหน้าซีดขาวไร้เรี่ยวแรงนั่น

ชายผมขาวผู้นั้นเห็นหน้าตาผู้บุกรุกอย่างชัดเจนแล้ว ดวงตาที่ฉายประกายสีแดงจางๆ แต่เดิมดูเหมือนเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย เมื่อแสงสีแดงสว่างขึ้น ดวงตาปีศาจคู่นั้นก็ยิ่งทำให้คนไม่กล้าจ้องมองโดยตรง เขายกมุมปากบางขึ้นพลางพูดขึ้นเสียงเข้ม “คุณหนูรอง ไม่เจอกันเสียนานเลย!”

หลี่รั่วอวี๋กะพริบดวงตาที่มีน้ำตา เดิมในใจรู้สึกกลัวและกำลังจะร้องไห้ออกมา แต่คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มผมขาวจะเอ่ยเรียกนางขึ้นมาทันใด นับจากนางฟื้นขึ้นมา บ่าวไพร่สาวใช้ข้างกายล้วนเรียกนางว่า ‘คุณหนูรอง’ ดูแลเอาใจนางเป็นอย่างดี ตอนนี้ได้ยินชายหนุ่มเรียกเช่นนี้ เห็นได้ว่าเขารู้จักนาง ไม่มีทางทำร้ายนาง

เมื่อคิดเช่นนี้ หลี่รั่วอวี๋จึงฉีกยิ้มยิงฟันอย่างขลาดกลัว

แต่รอยยิ้มแสดงความเป็นมิตรนี้พอเข้าไปในตาของชายหนุ่มผู้นั้นกลับเหมือนการท้าทาย ดวงตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย ยืนขึ้นจากถังไม้อย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงน้ำหยด เผยให้เห็นมัดกล้ามที่แข็งแกร่ง แต่บนร่างสูงใหญ่แข็งแรงนั่นมีบาดแผลสดใหม่เต็มไปหมด

เห็นทีเขาคงได้ยินชื่อเสียงของน้ำพุร้อนที่นี่ จึงมาแช่น้ำเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเช่นกัน

ภายใต้แสงจันทร์ ชายหนุ่มผู้นี้แม้จะสวมเสื้อคลุมอาบน้ำ แต่เมื่อเสื้อคลุมอาบน้ำเปียกน้ำก็ดูเหมือนไม่ได้สวมอะไรเลย หากเป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไป ตอนนี้คงจะกรีดร้องเลื่อนสายตาหนีแล้ว แต่หญิงสาวที่ถูกคมกระบี่จ่อเอาไว้นี้ กลับยังคงเบิกดวงตาโต จ้องตรงไปใต้ท้องน้อยของเขา…

ชายหนุ่มผมขาวอ้าขายืนนิ่ง มองดูท่าทางของหลี่รั่วอวี๋ แล้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ความกล้าของคุณหนูรองไม่ได้ลดลงเลย เดิมทีคิดจะเห็นแก่พระมาตุลาปล่อยเจ้าไปสักครั้ง แต่ในเมื่อเจ้ามาถึงที่เอง ก็ได้แต่โทษชะตาชีวิตแล้ว…”

เขาพูดพลางยื่นมือไปรับมีดสั้นวาววับเล่มหนึ่งที่องครักษ์ด้านข้างยื่นมาให้ คมมีดแหลมนั้นกรีดท้องตัดไส้ หรือควักลูกตาล้วนเป็นอาวุธที่เหมาะมือ

ชายฉกรรจ์ที่เดิมทีคุมตัวหลี่รั่วอวี๋เอาไว้ก็คลายกระบี่ในมือ ปล่อยให้หญิงสาวที่ไม่มีผู้ใดประคองล้มลงคุกเข่าบนพื้น ผู้เป็นนายเสียเชิงมามากเพราะหญิงสาวที่ไร้เรี่ยวแรงนางนี้ ตอนนี้สามารถคลายความคับแค้นใจได้อย่างไม่ง่ายนัก พวกเขาที่เป็นผู้ใต้บัญชาย่อมต้องเห็นดีด้วย ไม่ขัดขวางความสุขของผู้เป็นนาย

หลี่รั่วอวี๋คุกเข่าอยู่บนพื้น เจ็บจนร้องครางเบาๆ แต่นางคิดว่าเป็นเพราะชายหนุ่มผมขาวผู้นี้เอ่ยปาก คนเลวด้านหลังจึงปล่อยมือ ดังนั้นเขาต้องเป็นคนดีแน่นอน ในตอนนี้นางจึงช้อนตามองไปทางชายหนุ่มผมขาวที่มองนางอย่างเย็นชาอยู่ตลอด รู้สึกเพียงว่าดวงตาของเขาคู่นั้นน่าดูมากยิ่งขึ้น แต่เขาได้รับบาดเจ็บมากมายเช่นนี้คงเจ็บมากแน่นอน และคงเจ็บยิ่งกว่าบาดแผลบนลำคอของนางด้วย

ดวงตางดงามอย่างนั้น หากยิ้มออกมาต้องน่าดูยิ่งขึ้น… หลี่รั่วอวี๋ดวงตาเปล่งประกายขึ้นทันใด นึกถึงการเล่นที่เพิ่งเรียนรู้เมื่อตอนเช้าจึงยืนขึ้นอย่างช้าๆ

หลายวันมานี้นางมีสหายใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อย เข้ากับเพื่อนเล่นหลายคนของน้องชายได้ดี จึงเกิดความคิดอยากคบสหายขึ้นมาบ้าง

ในตอนนี้นางจึงยิ้มขัดเขินให้กับชายหนุ่มผมขาว สองมือบิดแขนเสื้อ แล้วขยับไปทางชายหนุ่มอย่างช้าๆ

ชายหนุ่มผมขาวดูเหมือนคาดไม่ถึงที่นางไม่หลบหลีก แต่เดินเข้ามาหาตนเอง แววตานั้นเปล่งประกาย ลดมือที่ถือมีดคมลง อยากดูว่านางคิดจะทำอะไร

เห็นเพียงหญิงสาวผอมบางในที่สุดก็ก้มหน้าเดินมาถึงตรงหน้าเขา ใบหน้าเล็กน่ารักเงยขึ้นเล็กน้อย ยิ้มให้เขาอย่างไร้เดียงสา โน้มตัวยื่นมืองามข้างหนึ่งออกมา นิ้วโป้งกับนิ้วชี้เกี่ยวกัน แล้วยื่นไปที่หว่างขาของเขาช้าๆ สอดผ่านเสื้อคลุมอาบน้ำ จากนั้นก็ดีดนิ้วทันที “คาบ…คาบลูกเจี๊ยบไป…”

เคร้งๆ… ที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะใสแจ๋วของหญิงสาว ก็คือเสียงดาบและกระบี่ที่ตกลงพื้น

ชายหนุ่มผมขาวช้อนดวงตาแดงก่ำขึ้นช้าๆ มองเห็นทหารฝีมือดีหลายนายของตนเองถือดาบโลหะไว้ไม่อยู่ อ้าปากกว้าง เบิกตาโตเท่าไข่ไก่หัวเราะขัน

ไม่โทษเหล่าผู้ใต้บัญชาที่น้อยนักจะเห็นผู้เป็นนายเสียหน้า… คุณหนูรองหลี่ผู้นี้เป็นบ้าไปแล้วหรือ กล้ามาหยอกล้อผู้มีใบหน้าปีศาจผีเห็นยังหวาดหวั่นจนตัวสั่นทั้งที่ไม่หนาวผู้นี้ และยังใช้วิธีน่าอับอายแบบนั้นด้วย ข้อมือปลายนิ้วของหญิงอ่อนแอผู้หนึ่งสามารถดีดออกดึงกลับได้อย่างเป็นธรรมชาติ ลงมือรวดเร็วจนไม่ทันตั้งตัว…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 3-4

บทที่ 3 หัวหน้าขันทีไม่แม้แต่จะเหลือบแลอวี้ฉือรุ่ย แต่ถามออกมาตรงๆ “ท่านใดคือคุณหนูเฟยเยี่ยน” เสียนเกอเอ๋อร์ข่มโทสะไม่อย...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 5-6

บทที่ 5 เถ้าแก่ร้านตกใจจนเบิกตากว้าง โบกไม้โบกมือเอ่ย “แม่นาง นี่มันสิงโตอ้าปากกว้าง นี่! เห็นว่าพวกงานปักของเจ้าเป็นงาน...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 9-10

บทที่ 9 หวังอวี้หล่างไม่นึกฝันว่าจะได้มาเจอกับองค์ชายรองที่นี่ เมื่อครู่นี้เขายังแสดงกิริยาเสียมารยาทอีกด้วย ในเวลานั้นจ...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 7-8

บทที่ 7 อวี้ฉือเฟยเยี่ยนฝืนยิ้มเอ่ย “เซียวอ๋องเสด็จมาผิดเวลา โจ๊กในร้านขายหมดไปนานแล้วเพคะ” เซียวอ๋องติดกระดุมคอเสื้อ ริ...

community.jamsai.com