ท่านซือหม่ามีความหยิ่งทะนง หลังจากถูกคุณหนูรองหลี่ปฏิเสธย่อมไม่มาเกาะแกะนางอีก และไม่ได้หาข้ออ้างมาหาเรื่อง แม้จะไม่มาพบหน้าคุณหนูรองหลี่อีก แต่ภารกิจการขนส่งสัมภาระการทหารก็ยังมอบให้สกุลหลี่ไปทำ
แต่หญิงใจคอโหดร้ายผู้นี้กลับร่วมมือกับสกุลไป๋ จงใจถ่วงกำหนดการส่งสินค้า ทำให้ท่านซือหม่าอยู่แนวหน้าต้องเอาตัวไปเสี่ยงบุกทะลวงวงล้อมและถูกพิษประหลาด ทำให้ผมขาวไปภายในคืนเดียว
ตอนคุณหนูรองหลี่เอาสัมภาระการทหารมาส่งและขอโทษหน้าค่ายใหญ่ของผู้เป็นนาย หญิงผู้นั้นเห็นหน้าตาของผู้เป็นนายเช่นนี้ กลับมีท่าทีรังเกียจ… กวนป้าคิดถึงตรงนี้ก็ขบกรามแน่น
แม้จะเป็นเช่นนั้นแต่ผู้เป็นนายก็ไม่ได้ฆ่านางให้ตายในดาบเดียว เพียงแค่ฆ่าม้าในขบวนสินค้าของนาง เผาทำลายรถม้าและไล่นางออกจากค่ายใหญ่ ประกาศว่าต่อไปอย่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีก
เฮ้อ ผู้เป็นนายมีเมตตาเกินไปหน่อย ไม่เช่นนั้นจะถูกดีดอย่างดูหมิ่นในวันนี้ได้อย่างไร
ฉู่จิ้งเฟิงแค่นเสียงสบถเย็นชา มองท่าทางของกวนป้าที่ถูกตนเองถลึงตาใส่จนตกใจไม่กล้าพูดอะไรอีก แล้วลุกขึ้นเดินไปที่กลางลาน หยิบกระบี่ออกมาจากแท่นวางกระบี่แล้วตวัดร่ายรำอย่างคล่องแคล่วใต้แสงจันทร์ ทุกที่ที่ปลายกระบี่ชี้ไปเกิดเป็นลมแรงเย็นเยือกบีบใจคน
ใช้การได้หรือไม่ มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ พอคิดถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น ช่วงล่างของเขาก็เกิดความร้อนรุ่มขึ้นมาเล็กน้อย…
สิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมเสียงป๊อก คือแท่นวางกระบี่ที่ทำจากไม้ถูกเขาผ่าออกเป็นสองส่วนในหนึ่งกระบี่ “สตรีสมควรตาย มีคู่หมั้นอยู่แล้วยังมายั่วยวนข้าแบบนี้ ช่างใจโลเลจริงๆ! ถ้านางตกมาอยู่ในมือข้า…”
จู่ๆ ฉู่จิ้งเฟิงก็ไม่อยากคิดต่อไป เพียงแค่ร่ายรำกระบี่ในมืออย่างรวดเร็วเย็นเยือก ไล่ใบหน้าเล็กยิ้มสดใสที่ปรากฏตรงหน้านั้นให้สลายไป…
หลังจากฝึกวิชากระบี่เสร็จหนึ่งชุด ชายหนุ่มใต้แสงจันทร์นั้นมีไอความร้อนแผ่กระจายไปทั่วร่าง เขาเอ่ยสั่งกวนป้าที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเย็นชา “ไป! สืบดูว่าหลี่รั่วอวี๋นั่นเกิดเรื่องขึ้นจริงหรือไม่”
เมื่อฟ้าสาง หญิงสาวบนเตียงใหญ่ก็ตื่นขึ้น
พอตื่นมาพบว่าตนเองอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แปลกตาแห่งหนึ่ง ความหวาดกลัวก็พุ่งขึ้นในหัวใจ หลี่รั่วอวี๋อยากร้องไห้ แต่ก่อนนอนร้องไห้มากเกินไป หางตาจึงรู้สึกเจ็บเล็กน้อย อยากจะบีบน้ำตาออกมาสักนิดก็เป็นเรื่องที่เสียแรงมาก
นางกะพริบตาหลายครั้ง ก่อนจะขยับมาข้างเตียงช้าๆ บนพื้นมีรองเท้าสวมเล่น ที่พื้นรองเท้าเป็นผ้าไหมอ่อนนุ่ม นางสวมรองเท้าเดินมาถึงข้างหน้าต่าง พบว่าบนหน้าต่างนั้นมีราวเหล็กหนาหลายเส้น
หลี่รั่วอวี๋รู้สึกว่ามันคล้ายกับกรงที่ใช้ขังนกแก้วขนเขียวในห้องของนางมาก แต่ตอนนี้ห้องที่เหมือนกรงนี้คนที่ถูกขังคือนาง
ในลานบ้านนอกห้อง มีผู้เฒ่าตาเดียวผู้หนึ่งกวาดลานอยู่ ดูหน้าแล้วก็เป็นคนที่นางไม่รู้จักเช่นกัน หลังเขย่าราวเหล็กอย่างเสียแรงเปล่าไปหลายที นางจึงขยับตัวไปข้างประตูช้าๆ ตอนที่มาถึงประตูห้อง พบว่าข้างนอกก็มีประตูราวเหล็กอีกชั้นหนึ่ง
ตอนนี้ไม่มีประตูทางเดินอิสระแล้ว ในตอนที่ดวงตานางมีน้ำตาเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง เสิ่นหรูป๋อก็มาปรากฏตัวที่ปากประตู มือถือข้าวต้มเห็ดหอมเนื้อไก่ฉีกร้อนๆ พอเห็นหลี่รั่วอวี๋ยืนอยู่ที่ประตู เขาจึงฉีกยิ้มกล่าว “เจ้าตื่นแล้วหรือ กินอาหารได้พอดี”
ตอนที่พูด บ่าวที่อยู่ข้างกายเขาก็จับกลอนเหล็กที่ประตู และเปิดประตูออกให้เสิ่นหรูป๋อเดินเข้าไป
“ข้าวต้มนี้ใช้น้ำกระดูกหมูต้ม ข้าสั่งให้คนพัดให้มันเย็นลงหน่อยแล้ว เช่นนี้เจ้าก็กินได้เลย”
พอเขาพูดจบและเงยหน้าขึ้น กลับพบว่าหญิงสาวยืนอยู่ไกลจากเขามาก ใบหน้าระแวดระวังไม่คลาย
เขาคนข้าวต้มในถ้วย จากนั้นก็ยกถ้วยเดินมาใกล้ตรงหน้านาง ตักหนึ่งช้อนแล้วพูดว่า “เด็กดี อ้าปาก”
แต่ช้อนนั่นกลับถูกหลี่รั่วอวี๋ปัดทิ้งอย่างแรงและตกลงบนพื้น ดวงตากลมเปล่งประกายคู่งามที่จ้องมองเขา เต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจและโมโห
เสิ่นหรูป๋อปัดเศษข้าวต้มที่กระเด็นติดบนตัวออกเบาๆ ทันใดนั้นก็ยื่นมือไปกุมมืองามของนาง แรงบนมือหนักมาก แต่ปากกลับพูดอย่างอ่อนโยนดังเดิม “รั่วอวี๋ไม่เชื่อฟังอีกแล้ว ท่านแม่เจ้าเอาใจเจ้าจนเคยตัว นิสัยขี้โมโหจึงได้รุนแรงขึ้น…”
หลี่รั่วอวี๋รู้สึกเพียงว่ามือถูกกุมจนเจ็บมาก ทั้งร่างถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอย่างบังคับไม่ได้ ชายผู้นี้มักจะแสดงท่าทางอ่อนโยนสุภาพต่อหน้ามารดา แต่ทุกครั้งที่อยู่ตามลำพังกับนาง สายตานั้นมักเหมือนจะกลืนกินนางลงท้อง นางรู้สึกไม่ชอบเลย เหตุใดตอนมารดากับน้องชายไม่อยู่ต้องทิ้งนางไว้กับเขาเพียงผู้เดียวด้วย
เสิ่นหรูป๋อมองดูหญิงสาวในอ้อมกอดที่เหมือนกวางน้อยตื่นตกใจ โดยเฉพาะริมฝีปากแดงราวย้อมด้วยสีกุหลาบนั้น ก่อนจะโน้มหน้าลงไปช้าๆ…
ในตอนนี้เอง นอกประตูมีคนพูดเสียงเบาว่า “คุณชายรอง คุณหนูสามหลี่มาถึงแล้ว รออยู่ห้องชั้นนอกขอรับ”
เสิ่นหรูป๋อขมวดคิ้วแล้วคลายออกอีกครั้ง คนเข้ามาในคฤหาสน์ของเขาแล้ว จะเด็ดดมเมื่อใดก็เป็นเรื่องง่าย เหตุใดต้องร้อนใจให้ได้ตอนนี้เล่า! ดังนั้นเขาจึงคลายมือที่ตรึงนางเอาไว้ หลังจากสั่งให้นางกินข้าวต้มอย่างอ่อนโยนแล้วก็เดินออกจากห้องและตรงไปที่ห้องชั้นนอกทันที