ทดลองอ่าน วาสคนเขลา – หน้า 19 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน วาสคนเขลา

ชั่วขณะต่อมา นางก็ถูกชายผู้นั้นยกตัวด้วยมือเดียวขึ้นบนหลังม้า แล้วควบออกจากป่าอย่างรวดเร็ว

เขาไม่ได้รีบเดินทางกลับโรงเตี๊ยม แต่ไปยังที่มีภูเขาเขียวน้ำสวยอีกแห่งหนึ่งนอกเมือง…

นั่นคือภูเขาเล็กที่เขาจ้องมองจากที่ไกลมาตลอด เขาสั่งให้องครักษ์ซื้อฟืนจากคนตัดฟืนบนเขา แล้วให้ชาวบ้านในบริเวณนี้จากไปก่อน ภายในเขาจึงสงบเงียบลงอย่างหาได้ยาก จากนั้นการเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางมานับว่าได้ใช้งานแล้ว กระโจมหนังวัวถูกกางออก ชายฉกรรจ์หลายคนใช้พลั่วเหล็กขุดหลุมใหญ่บนพื้นอย่างชำนาญ ฟืนหลายมัดที่ซื้อมาถูกวางไว้ในหลุมและก่อเป็นกองไฟ

จี๋เฟิงกระพือปีกหลังจากถูกปล่อยออกมาจากตะกร้าไม้ไผ่ แล้วยืนอย่างตื่นกลัวอยู่บนบ่าคนเลี้ยงเหยี่ยวพลางจิกไซ้ขนที่ยุ่งเหยิง พยายามรักษาความภาคภูมิของเหยี่ยวแห่งแคว้นทางเหนือเอาไว้อย่างถึงที่สุด

แต่กระต่ายน้อยน่าสงสารตัวนั้นไม่โชคดีอย่างนี้ มันถูกถลกหนังผ่าท้อง หั่นเป็นชิ้นเสียบไม้ กลายเป็นเนื้อกระต่ายย่างอันโอชะ

ส่วนคนอื่นอีกหลายคนไม่นานก็จับไก่ป่ามาได้ กอปรกับผลไม้และใบชาที่นำมาเอง อาหารกลางวันมื้อนี้จึงนับว่าอุดมสมบูรณ์มาก

ฉู่จิ้งเฟิงรับผ้าเปียกที่กวนป้ายื่นมาให้ ก่อนจะโยนไปบนตัวมนุษย์ดินโคลนที่ขดตัวอยู่ในมุมกระโจม เห็นนางไม่คิดจะทำความสะอาดเอง เขาจึงขมวดคิ้วและนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินไปหยิบผ้าเปียกขึ้นมาเช็ดดินโคลนบนใบหน้าและบนมือของนางอย่างอดทน เผยให้เห็นเนื้อขาวนวลแต่เดิมทีละนิดๆ

หลี่รั่วอวี๋ลอบช้อนตาขึ้นมองสำรวจชายหนุ่มที่กำลังเช็ดสองมือให้นาง เป็นครั้งแรกที่เห็นนัยน์ตาประหลาดคู่นั้นกลับเป็นสีดำปกติ ผมสีขาวเงินทำให้ผิวสีแทนของเขาเป็นมันวาวอย่างประหลาด จมูกสูงโด่งและขนตางอนยาวนั้นไม่มีส่วนใดไม่น่าดู

หากไม่ใช่เพราะหิวเหลือเกิน หลี่รั่วอวี๋คิดว่าตนเองยังสามารถมองเขาได้นานอีกนิด ทว่ายามนั้นเสียงท้องร้องจ๊อกๆ ดังขึ้น นางจึงพูดเสียงเบาว่า “หิวๆ”

เกี่ยวกับหญิงสาวมหัศจรรย์แห่งเมืองเหลียวเฉิงผู้นี้ เรื่องราวของนางสืบรู้ได้ง่ายมาก เดิมทีคิดว่าเพราะนางบุกเข้าไปในลานอาบน้ำที่เขาอาบน้ำอยู่จึงแกล้งทำบ้าบอ แต่พอสืบอย่างละเอียดแล้วจึงพบว่าไม่ได้เป็นเช่นนี้ ผลลัพธ์จากอุบัติเหตุเมื่อสองเดือนก่อนครั้งนั้นน่าอนาถยิ่ง หญิงสาวที่ฉลาดหลักแหลมพูดจางามสง่ากลับกลายเป็นคนที่พูดจาไม่ชัดเหมือนเด็กในตอนนี้…

ฉู่จิ้งเฟิงคลายมือที่จับชีพจรของนางออก บรรพบุรุษของเขาเป็นแพทย์มาหลายรุ่น เขาเองก็เชี่ยวชาญวิชาแพทย์ จากชีพจรของนางเมื่อครู่ ชีพจรตึงเครียดจริงๆ อุดเส้นความคิดจิตใจเอาไว้

ที่ผ่านมาต่อให้ฉลาดแข็งแกร่งแล้วอย่างไร ก็ยังมีสภาพเหมือนเช่นตอนนี้ไม่ใช่หรือ คนทางบ้านของนางไม่สนใจนางแล้วหรือ ปล่อยให้นางมาเดินเล่นที่ลานล่าสัตว์เช่นนี้ หากมีลูกธนูยิงพลาด…

เรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับเขา ฉู่จิ้งเฟิงไม่อยากคิดต่อไป เขาสะบัดมืองามออก แล้วหมุนตัวไปนั่งลงข้างโต๊ะหยิบตำราทหารเล่มหนึ่งขึ้นมาอ่าน สมองเสื่อมแล้วอย่างไร เขาไม่อาจเป็นเหมือนเหยี่ยวโง่ที่เขาเลี้ยงไว้ตัวนั้น ที่เห็นเหยื่อแล้วก็โผเข้าไปโดยไม่สนใจอะไร ได้แต่พุ่งหัวเข้าใส่จนเลือดออกครั้งแล้วครั้งเล่า…

ในตอนนี้เอง กวนป้ายกอาหารที่ย่างเสร็จแล้วเข้ามา หลังจากจ้องหลี่รั่วอวี๋แวบหนึ่งแล้วก็ลดมือถอยออกจากกระโจมไป

ฉู่จิ้งเฟิงยกมือขึ้นหยิบเนื้อกระต่ายเสียบไม้มาหนึ่งไม้ หางตาเหลือบเห็นร่างเล็กๆ นั้นขยับมาข้างกายตนเองเหมือนถูกดูดวิญญาณ มือเล็กจับมุมโต๊ะไว้แน่น ไม่โวยวาย ดวงตาโตจ้องตรงมายังปากที่เคี้ยวอาหารของเขาไม่วางตา ก่อนจะพยายามกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

ฉู่จิ้งเฟิงมองดูปลายลิ้นที่นางแลบออกมา เลียริมฝีปากแดงราวดอกอิงฮวา* นั้นเบาๆ หัวคิ้วก็ขมวดเล็กน้อยอีกครั้ง

หลี่รั่วอวี๋กำลังมองเพลิน จู่ๆ ก็เห็นปากของชายหนุ่มไม่ขยับแล้ว นางอดใจกับแรงดึงดูดของกลิ่นหอมนั้นไม่ไหวอีกต่อไปจึงรวบรวมความกล้ายื่นคอไปกินเนื้อเสียบไม้ในมือของเขาทันที

ฉู่จิ้งเฟิงไม่ได้ขยับหลบ ปล่อยให้ปากเล็กราวดอกอิงฮวานั้นเปื้อนน้ำมันทีละนิด สุดท้ายเนื้อกระต่ายเสียบไม้นั้นก็เข้าสู่ปากเล็กของนาง

เขาเลื่อนจานอาหารมาตรงหน้านาง ส่วนตนเองยกกาน้ำชาดินเผาเล็กกาหนึ่งขึ้นมา เตรียมจะชงชาร้อนสักถ้วย

คนในพื้นที่เมืองเหลียวเฉิงชอบดื่มชาที่ชงเอง กลิ่นหอมสดชื่นและรสชาติขมเฝื่อนเหมาะแก่การแก้ร้อนในขับพิษ เติมลูกบ๊วยแช่น้ำผึ้งสองสามเม็ด หรือสาลี่แห้งฝานบางลงในน้ำชา ก็ทำให้น้ำชามีรสชาติดีหาที่เปรียบไม่ได้ โดยเฉพาะใส่น้ำตาลกรวดก้อนเล็กๆ ที่ทำจากน้ำตาลอ้อย ยิ่งเข้ากับชารสขมแบบนี้มาก คนในพื้นที่เรียกว่า ‘ชาสามอย่าง’

ผู้ใต้บัญชาของเขาก็เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ฟังคำแนะนำจากเถ้าแก่ร้านชาแล้วก็ลองเตรียมเครื่องชาสดใหม่เหล่านี้ให้ผู้เป็นนาย แต่น่าเสียดายที่ฉู่จิ้งเฟิงไม่ใช่คนเมืองเหลียวเฉิง และไม่ชอบของหวานเลี่ยนเหล่านั้น เขาจึงใช้เพียงใบชา ไม่ได้ใส่เครื่องผลไม้เหล่านั้นเข้าไปด้วย กินเพียงชาขมลงท้องเท่านั้น ความขมเฝื่อนนั้นทำให้เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้

ความขมเฝื่อนไหลไปตามปลายลิ้น รสชาตินี้เหมือนความรู้สึกในใจของเขาก่อนหน้านี้ เพียงแค่ชิมก็ยากจะลืมได้ไปชั่วชีวิต… เมื่อคิดถึงตรงนี้สายตาของเขาก็เลื่อนไปที่ตัวหญิงสาวข้างกายที่กินอิ่มและกำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่มพร้อมกับเขาอีกครั้ง

แม้จะสมองเสื่อม แต่เรื่องกินนี้ไม่เป็นปัญหาและยังพิถีพิถันเหมือนเดิม เห็นทีนางอยู่ที่บ้านคงจะดื่มชานี้อยู่เป็นประจำ ยามนี้นางจึงค่อยๆ โยนเม็ดบ๊วยกับสาลี่แห้ง ยังมีก้อนน้ำตาลสีแดงจางๆ สองเม็ดลงไปในถ้วยชา จากนั้นก็ยื่นมือไปชงชาร้อนหนึ่งถ้วย กลิ่นหอมประหลาดที่ผสานด้วยกลิ่นผลไม้กระจายไปทั่วกระโจมในทันที

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 87.1-87.2

บทที่ 87.1 พ่ายแพ้ยับเยิน เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ฉินอี๋พบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ เขาเป็นรัชทายาท โตมาจนป่านนี้ยังไม่เคยมีใค...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 171

บทที่ 171 ครั้งนี้ที่หวังอวี้หล่างย้อนกลับเมืองหลวงมีสาเหตุอื่นซ่อนอยู่ ตอนที่เซียวอ๋องเพิ่งไปถึงชายแดนเหนือ งบประมาณกับ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หยกเร้นชะตา บทที่ 86.1-86.2

บทที่ 86.1 จัดหาอนุ “หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ” ฉู่จิ่นเหยาตอบรับอย่างคล่องแคล่วด้วยท่าทางว่านอนสอนง่าย แต่เพียงพูดว่าเข้าใ...

ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก

ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 172

บทที่ 172 ได้ยินฮุ่ยกุ้ยเฟยเอ่ยทัก อวี้ฉือเฟยเยี่ยนจึงลุกขึ้นคารวะนาง พูดกันโดยไร้อคติ แรงกดดันของเสิ่นฮองเฮาในตอนนี้ลดล...

community.jamsai.com