ทดลองอ่าน วาสคนเขลา – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน วาสคนเขลา

ยังไม่รอให้เสิ่นหรูป๋อพูดจบ ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ก็รีบพูดตัดบทคำพูดของเขา “บุตรสาวของข้าเดิมทีก็ทำอะไรตามอำเภอใจ นิสัยผิดแปลกจนน่าตกใจ ข้อเสนอของนางตอนนั้น ถ้าได้ลูกหลานชาวนาหรือพ่อค้าทั่วไปก็ดี สกุลเสิ่นของพวกเจ้าเป็นขุนนางมาทุกรุ่น เดิมทีก็ไม่เหมาะสม เสียทีที่เจ้าเอาใจนาง ตอบตกลงโดยไม่คำนึงอะไรเลย เดิมทีรั่วอวี๋จะแต่งสามีเข้ามาก็เพราะวิชาการต่อเรือของสกุลหลี่ไม่อาจถ่ายทอดให้คนนอก ตอนนี้นาง… เป็นเช่นนี้แล้ว แม้จะมีเคล็ดวิชาตกทอดของสกุลก็จำไม่ได้แม้แต่น้อย หมดเรื่องถ่ายทอดให้คนนอกแล้ว ถ้าเจ้ายอมแต่งงาน จะมาพูดเรื่องแต่งเข้าสกุลอีก พวกเราสกุลหลี่ไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผล ย่อมไม่อาจให้ลูกเขยของตัวเองลำบากใจได้… แต่ว่าตอนนี้นิสัยของรั่วอวี๋เหมือนเด็กสามขวบ คงจะทำหน้าที่ภรรยาที่ดีไม่ได้ ถ้าแต่งงานกับเจ้า… เรื่อง… เรื่องเข้าห้องหอ เกรงว่าคงจะทำให้นางตกใจ…”

เสิ่นหรูป๋อเหมือนจะเดาถึงความกังวลของฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ได้จึงผ่อนเสียงเอ่ยปากพูด “ฮูหยินผู้เฒ่าคิดมากไปแล้ว ข้ารักและเคารพรั่วอวี๋มาตลอด แต่งนางมาอยู่ข้างกายก็เพื่อสะดวกในการดูแล จะทำให้รั่วอวี๋ตกใจเหมือนเด็กหนุ่มป่าเถื่อนบ้ากามได้อย่างไร ถ้านางไม่ยินยอม ข้าจะเคารพนางอย่างดี จะไม่ให้นางได้รับความลำบากใจแม้แต่น้อย…”

ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เป็นคนหูเบามาแต่ไหนแต่ไร หลายวันก่อน ไม่รู้ว่าหลี่รั่วอวี๋ไปสร้างอริทางการค้าที่ยากจะรับมืออะไร ตอนที่นางหมดสติอยู่ ร้านค้าสิบแห่งในทุกพื้นที่ถูกคนตรวจค้น แม้แต่หลงจู๊และคนงานที่คอยดูแลก็ถูกจับส่งทางการ โชคดีที่เสิ่นหรูป๋อลงแรงจัดการ จึงได้รักษาชีวิตของหลงจู๊และคนงานที่ซื่อสัตย์สิบกว่าคนเอาไว้ได้ แต่ร้านค้าสิบแห่งนั้นกลับเรียกคืนมาไม่ได้ พอไปสืบความก็ได้ยินว่าก่อนหน้านี้บุตรสาวไปล่วงเกินซือหม่า* แซ่ฉู่ผู้หนึ่ง เขาจึงคอยหาเรื่อง ทำให้ร้านค้าสกุลหลี่ได้รับความเสียหาย

ในบ้านเสียหายอย่างหนัก กอปรกับเหนื่อยใจต่อกันหลายวัน ทำให้ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เชื่อฟังเสิ่นหรูป๋อผู้นี้ยิ่ง

ตอนนี้เสิ่นหรูป๋อคุกเข่าอยู่ตรงหน้าตนเอง ขอร้องให้นางยกบุตรสาวปัญญาอ่อนให้แต่งงานกับเขา นางยังมีอะไรจะปฏิเสธได้อีก

ด้วยสภาพของบุตรสาวในตอนนี้ แม้ว่าจะยังมีคนอยากมาขอดองด้วย คงต้องหวังในกิจการของสกุลหลี่แน่นอน จะมีความบริสุทธิ์ใจเหมือนเสิ่นหรูป๋อได้อย่างไร คิดได้ดังนั้นนางจึงยิ่งมีน้ำตาไหลลงมามากขึ้นอีก

หลังจากเสิ่นหรูป๋อลากลับไปแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ก็ลุกขึ้นเดินไปเยี่ยมบุตรสาว หลายวันมานี้นางไปพบท่านหมอชื่อดังมาหลายคน แต่หลังจากฟังอาการของบุตรสาวแล้ว ท่านหมอยอดฝีมือเหล่านี้ล้วนพากันส่ายหน้า เกรงว่ารักษาไม่สำเร็จจะเสียชื่อเสียงตนเอง จึงไม่ยอมลงมือช่วย

รอจนเข้าห้องบุตรสาวแล้ว เห็นหลี่รั่วอวี๋เปลี่ยนไปใส่เสื้อนวมปิดคอสีขาวนวล กำลังก้มหน้าเล่นชุดห่วงเชื่อมที่ทำจากไม้จันทน์ชิ้นหนึ่ง นี่เดิมทีเป็นของเล่นของเสียนเอ๋อร์บุตรชายอายุเจ็ดขวบของนาง ตอนนี้เอาเข้ามาในห้องของหลี่รั่วอวี๋ ในจำนวนของเล่นมากมาย มีเพียงชิ้นเดียวนี้ที่หลี่รั่วอวี๋ชื่นชอบ เล่นตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ยอมหยุด

บุตรสาวหมดสติไปหนึ่งเดือนเต็ม และเพราะมีไข้สูงต่อกันหลายวัน หลังจากฟื้นขึ้นมาก็สูญเสียความทรงจำและจำผู้ใดไม่ได้ หลายวันแรกไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าใกล้อีกด้วย เอาแต่ขว้างปาของ ภายหลังคนในบ้านปลอบใจอย่างดีจึงทำให้นางสงบสติอารมณ์ลงได้ แต่หญิงผู้มีความสามารถเลื่องชื่อไปทั่วเจียงหนานกลับไม่เหลือความสง่าไว้เลย การกระทำนิสัยล้วนเป็นเหมือนเด็กเล็ก แม้จะไม่เข้าใกล้คนอื่นนัก แต่นางสนิทสนมกับน้องชายเจ็ดขวบของนางมาก พอวางของเล่นที่เอามาจากเสียนเอ๋อร์เหล่านั้นไว้ให้ นางก็จะเล่นมันอย่างสนุกสนานได้เป็นครึ่งค่อนวัน

ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่มองดูบุตรสาวที่ท่าทางไร้เดียงสาของตนเองแล้วก็เกิดความเศร้าใจขึ้นมาอีกครั้ง แต่น้ำตายังไม่ทันไหลก็เห็นบุตรสาวเงยหน้าขึ้นทันใด ดวงตาโตฉายประกายยินดี ชูห่วงชุดในมือที่เพิ่งปลดออกมาได้แล้วส่งเสียงอ้อแอ้ ทำให้บุตรชายคนเล็กนอนเปิดท้องกลิ้งไปหา “พี่รอง พี่จะทำให้เสียนเอ๋อร์โกรธจนตายอยู่แล้ว ข้าเล่นมาหลายวันก็ยังปลดไม่ได้ เหตุใดพี่เล่นไม่ถึงสองวันปลดออกได้แล้วล่ะ”

เขาพูดพลางดึงกางเกงที่เกือบหลุดขึ้นแล้วรีบโผเข้าไปในอ้อมกอดของฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ “ท่านแม่ พวกลิ่วฝูในสำนักศึกษาล้วนพูดว่าพี่ปัญญาอ่อนไปแล้ว เสียนเอ๋อร์โกรธมาก ต่อยตีกับพวกเขาด้วย พี่ไม่ยอมพูดกับเสียนเอ๋อร์เลย แต่เหตุใดนางยังเก่งกว่าเสียนเอ๋อร์อีก นางกำลังแกล้งป่วยอยู่หรือ”

ฟังคำพูดเด็กอย่างไม่ซ่อนเร้นของบุตรชายแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่ก็ลูบใบหน้าเล็กอวบอิ่มของเขา มองดูบุตรสาวโยนห่วงชุดทิ้ง แล้วหยิบของเล่นข้างๆ ขึ้นมาเล่นอีก ก่อนจะพูดเสียงอ่อนโยนว่า “ห่วงชุดนั่นเดิมทีก็เป็นของเล่นตอนเด็กของพี่รองเจ้า ภายหลังเก็บเอาไว้ให้เจ้า นางฉลาดเกินผู้ใดมาตั้งแต่เด็ก ตอนสี่ขวบก็ปลดห่วงชุดนั่นได้แล้ว ทำให้ท่านพ่อเจ้าดีใจอย่างมาก ชื่อของนางเดิมชื่อว่ารั่วซี แต่ภายหลังท่านพ่อเจ้าเปลี่ยนชื่อให้นางเป็น ‘รั่วอวี๋’ จุดประสงค์เพราะกลัวว่านางฉลาดเกินไปจนบดบังวาสนา…” พูดถึงตรงนี้ ในดวงตาก็รู้สึกเจ็บปวด พูดในใจว่า… นายท่าน ตอนนั้นที่ท่านเปลี่ยนชื่อ คิดเอาไว้แล้วหรือว่าบุตรสาวจะมีสภาพเหมือนเช่นวันนี้

หลี่รั่วเสียนได้ยินคำพูดของมารดาแล้วก็มีความสงสัยในทันที จึงหันกลับไปมองพี่รอง ในใจคิดว่า… คนถ้าฉลาด ไม่ใช่เรื่องดีหรือ อาจารย์ในสำนักศึกษามักจะด่าว่าเสียนเอ๋อร์โง่ เหตุใดพอไปถึงพี่รอง กลับกลายเป็นภัยร้ายไปได้

พี่รองที่ปกติจะดูน่าเกรงขามแม้จะไม่โมโห ตอนนี้ล้มนอนบนพรมนุ่มจากซีอวี้อย่างไม่เหลือความสง่าเลย สะบัดเท้างามที่ไม่ได้สวมถุงเท้า ท่าทางไร้เดียงสามีความสุข ไม่เหมือนกับเขา ต้องไปทนอยู่ในสำนักศึกษาทุกวัน… เช่นนี้ดูไปแล้ว นับว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง…

ฮูหยินผู้เฒ่าหลี่เองยามนี้ก็มีน้ำตารื้นขอบตาอีกครั้ง จึงปล่อยมือบุตรชาย เดินไปข้างกายบุตรสาวที่นอนอยู่บนพรมนุ่ม ลูบหน้าผากนวลเนียนของนางอย่างเต็มไปด้วยความรัก เห็นนางสูญเสียความฉลาดไปหมด แต่กลับมีสายตาที่ไร้เดียงสา จึงพูดเสียงเบาว่า “พี่รองของเจ้าไม่มีทางแกล้งป่วยหรอก นางกตัญญูที่สุด จะทำให้คนอื่นเป็นห่วงแบบนี้ได้อย่างไร แต่นางก็ไม่ได้ปัญญาอ่อนเหมือนที่คนนอกพูดกัน นางก็แค่อยากเล่นกับเสียนเอ๋อร์ เติบโตใหม่อีกครั้งเท่านั้น”

หลี่รั่วอวี๋ปล่อยให้หญิงข้างกายลูบเบาๆ ปากก็พ่นเสียงไม่เป็นคำ นิ้วเรียวยาวขยับเล่นกลองป๋องแป๋งสีรุ้งในมืออย่างมีความสุข เสียงกลองดังตุงๆๆๆ

ตอนที่เสิ่นหรูป๋อเดินเข้ามาในคฤหาสน์สกุลหลี่ ไม่รู้ว่าเสิ่นโม่พ่อบ้านของตนเองมายืนรออยู่ที่ประตูตั้งแต่เมื่อใด เมื่ออีกฝ่ายเห็นเขาออกมาก็เดินตามเขาออกจากคฤหาสน์สกุลหลี่แล้วรายงานเสียงเบา “คุณชายรอง เมื่อครู่คนในเมืองหลวงวิ่งมาให้คำตอบแล้ว ทางฉู่ซือหม่าจนหนทาง สินค้าชุดที่ขนส่งทางน้ำไปทางเหนือ ถือว่าเป็นการเอาซาลาเปาไส้เนื้อไปปาสุนัข* เอ่อ เอากลับมาไม่ได้แล้วขอรับ… เรื่องที่คุณหนูรองหลี่ก่อครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ในโลกนี้มีผู้ใดบ้างไม่รู้นิสัยฉู่จิ้งเฟิงที่ ‘ผีเห็นยังหวั่น’ ว่าเป็นคนที่มีแค้นต้องชำระ เขาเป็นคนเย็นชาไม่ไว้หน้าผู้ใดมาแต่ไหนแต่ไร คุณหนูรองกลับกล้าถ่วงเวลาขนสัมภาระการทหารของฉู่ซือหม่า ทำให้ทหารสกุลฉู่เกือบจะถูกหยวนซู่ที่ทางเหนือทำลายสิ้นซากในสงครามฮุ่ยชาง ได้ยินว่าฉู่จิ้งเฟิงได้รับบาดเจ็บอีกด้วย เรื่องใหญ่เช่นนี้ นอกจากนางหลี่รั่วอวี๋แล้ว ผู้ใดคงไม่มีปัญญาแก้ไขได้”

เสิ่นหรูป๋อหมุนแหวนหยกบนนิ้วโป้งเบาๆ นิ่งเงียบสักครู่จึงพูดว่า “รั่วอวี๋นางไม่ทำเรื่องโง่ที่ตกเป็นขี้ปากของคนอื่นเช่นนี้ เหตุใดครั้งนี้กลับ… หลงจู๊และคนงานที่ถูกคุมตัวไว้ก่อนหน้าเหล่านั้นถูกปล่อยกลับมาหมดแล้วไม่ใช่หรือ ฉู่ซือหม่าคิดจะเปลี่ยนใจหรือ”

เสิ่นโม่ส่ายหน้าพลางพูดเสียงเบาว่า “โชคดีที่พระมาตุลาไป๋ชวนซีต้องอาศัยคุณหนูรองหลี่ต่อเรือ และเห็นแก่จดหมายที่ท่านเขียนด้วยตัวเอง จึงสั่งให้ทางการปล่อยคน แต่ฉู่จิ้งเฟิงกับพระมาตุลาไป๋เป็นศัตรูกัน คนแซ่ฉู่ไม่ไว้หน้าพระมาตุลา ภายหน้าจะมาหาเรื่องอีกหรือไม่ก็ยังพูดได้ยาก ไม่แน่ว่าการตกม้าของคุณหนูรองครั้งนี้ฉู่จิ้งเฟิงอาจจะเป็นคนสั่งการก็ได้ ท่านว่าเขาจะส่งคน…”

เสิ่นหรูป๋อได้ฟังถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้ว สงบนิ่งลงอีกครั้ง ก่อนจะพูดด้วยเสียงเครียดว่า “เมืองเหลียวเฉิงไม่ใช่เมืองโม่เหอของฉู่จิ้งเฟิง ที่นี่มีค่ายทหารของสกุลไป๋อยู่ตลอด จะปล่อยให้เขาทำอะไรส่งเดชได้อย่างไร เจ้าไปที่ค่ายทหารนอกเมือง นำจดหมายของข้าไป ให้พวกเขาส่งคนมีฝีมือจำนวนหนึ่งมาเฝ้าคฤหาสน์สกุลหลี่ไว้ ในระหว่างที่จัดพิธี จะให้รั่วอวี๋เป็นอะไรไปแม้เพียงขนเส้นเดียวไม่ได้”

พูดจบเขาก็ลอยตัวขึ้นม้า และลงแส้ควบม้าไปอย่างรวดเร็ว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com