ทดลองอ่าน สาวใช้ประพันธ์รัก – หน้า 8 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน สาวใช้ประพันธ์รัก

“อันที่จริง งานนี้ไม่ยุ่งยากสักนิด…” หลังแบ่งงานให้สาวใช้นางอื่นเรียบร้อย เขาก็พาเสวียนจีเดินไปทางด้านตะวันออกพลางเอ่ยอธิบาย “ขอเพียงเจ้ารู้หนังสือ เคยอ่านหนังสือมาบ้าง การจัดหนังสือขึ้นชั้นตามประเภทก็เป็นงานสบายยิ่ง” อาจเพราะต้องการชดเชยที่ผลักนางเข้ากองไฟ เขาจึงพูดด้วยถ้อยคำน้ำเสียงที่ดี

เสวียนจีมองเขาปราดหนึ่ง “พ่อบ้านหยวน ท่านกำลังเหงื่อไหลอยู่”

“เอ๊ะ?” นางสายตาดีเพียงนี้เชียว? “ข้า…อย่างนั้นหรือ ฮะๆ อากาศร้อน ร่างกายก็อ่อนแอ” เขาปาดเหงื่อบนหน้าก่อนเดินเข้าสวนซั่งกู่

ขนาดของคฤหาสน์สกุลเนี่ยกว้างใหญ่ที่สุดในหนานจิง เสวียนจีเข้ามาในคฤหาสน์ได้เดือนกว่าแล้ว ทว่าเพิ่งได้มาสัมผัสสวนซั่งกู่เป็นครั้งแรก นางสังเกตเห็นว่าบริเวณนี้ไม่มีบ่าวไพร่เดินสักเท่าไร อากาศก็อบอวลไปด้วยกลิ่นอายวังเวงเปล่าเปลี่ยว

“ถ้าเจ้าทำได้ดี วันหน้างานที่ห้องหนังสือจี๋กู่ก็มอบให้เจ้า ข้าเองก็ไม่ต้องคอยเปลืองสมองมาจัดห้องหนังสือที่แสนใหญ่นั่นปีละครั้งแล้ว” หยวนซีเซิงคล้ายว่าพูดกับตนเอง

“ห้องหนังสือจี๋กู่?!” นางพลันอุทาน ทำเอาหยวนซีเซิงตกใจจนเท้าก้าวพลาด หวิดจะตกลงทะเลสาบคนขุด

“เจ้า…เจ้าร้องหาอะไร!” เขาเหลือกตา ตวาดว่า “อยากจะทำข้าตกใจตายหรือไร!” เขากลืนน้ำลายที่สำลักก่อนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ต่อ “ข้าเตือนเจ้าไว้เลยนะ ทำงานที่สวนซั่งกู่ไม่เหมือนกับทำงานที่อื่น เรื่องสำคัญอันดับหนึ่งคือต้องเงียบเข้าไว้ อย่าเอะอะก็แหกปากร้อง”

นางคล้ายว่าไม่ได้ยินคำเตือนด้วยความหวังดีของเขา เอ่ยถามเสียงแหบแห้งขึ้นว่า “ท่านหมายถึงห้องหนังสือจี๋กู่ที่มีหนังสือเก็บอยู่มากกว่าแปดหมื่นเล่มห้องนั้นหรือ”

หยวนซีเซิงอึ้งไปเล็กน้อย ประเมินมองนางปราดหนึ่ง “สาวใช้อย่างเจ้ากลับรู้อะไรต่อมิอะไรดีนัก อีกทั้งยังรู้อีกว่าห้องหนังสือจี๋กู่ของนายน้อยสามของพวกเรามีหนังสืออยู่เท่าไร เจ้าห่วงว่าจะจัดการไม่เสร็จหรือ ไม่ต้องกลัว ข้ามิได้จะให้เจ้าทำให้เสร็จในวันเดียว”

“ข้าจะไม่รู้จักห้องหนังสือจี๋กู่ได้อย่างไรกัน” เสวียนจีพึมพำ

มันเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในหมู่บัณฑิตเมืองหนานจิง เป็นสถานที่เก็บหนังสือของเนี่ยเฟิงอวิ๋น ตำราหนังสือแปดหมื่นเล่มได้ทะลุจำนวนเก็บรวบรวมของคนปกติไปแล้ว ขอเพียงบอกชื่อหนังสือออกมาได้ต้องสามารถหาพบในห้องหนังสือจี๋กู่แน่นอน ซ้ำข้างในยังมีหนังสือที่ตีพิมพ์ด้วยรูปแบบราชวงศ์ซ่งของร้านหนังสือเฟิงอวิ๋นและหนังสือสะสมที่มีเพียงฉบับเดียวอยู่ด้วย ที่สำคัญที่สุดคือยังมีนิยายที่เนี่ยเฟิงอวิ๋นเขียนบทส่งท้ายให้ครบชุด

หยวนซีเซิงประเมินมองนางด้วยความแปลกใจเล็กๆ จริงๆ เลย ก่อนหน้านี้ยังไม่รู้สึกว่านางมีจุดใดพิเศษ ทว่าตอนนี้กลับคล้ายว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้องแล้ว สาวใช้นางนี้ช่างมีสายตาแหลมคมรู้จักแยกแยะคนโดยแท้ ถึงกับเคยได้ยินเรื่องห้องหนังสือจี๋กู่ของนายน้อยสาม ทว่านางก็เป็นเพียงสาวใช้ สาวใช้เล็กๆ นางหนึ่งจะมีความรู้สักเท่าไรเชียว

จริงสิ บิดานางเป็นอาจารย์นี่นา ทำเอาเขาตื่นตูมเสียยกใหญ่ “เป็นบิดาเจ้าเคยได้ยินมาแล้วบอกเจ้ากระมัง!” หยวนซีเซิงหัวเราะฮ่าๆ พอใจในคำตอบของตนเอง กำลังจะเปิดประตูทองแดงของหอซั่งกู่อันเงียบสงบที่ตั้งอยู่ฟากตะวันออกนี้กลับพลันมีคนชิงเปิดแล้วพุ่งตัวออกมาจากด้านใน

“ย่ามันเถอะ! เป็นเจ้าโง่ตัวไหน…หลินอัน?!” หยวนซีเซิงขวางนางไว้ทันเวลา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเข้มงวด “เช้าขนาดนี้ เจ้าไม่ติดตามข้างกายนายน้อยสาม คิดจะไปที่ใด”

“พ่อบ้านหยวน…” หลินอันเห็นเป็นคนรู้จักก็น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที “ข้า…นายน้อยสามเขา…เขา…”

“อย่าอ้ำๆ อึ้งๆ ต้องเป็นเจ้าทำงานผิดพลาดอีกแล้วแน่นอน” เขาพูดอย่างไม่สบอารมณ์ หางตาเหลือบมองเสวียนจีแวบหนึ่ง หวังว่าสาวใช้นางนี้จะไม่รู้สึกตงิดใจแล้วหนีหายไป เขาสั่งห้ามเหล่าบ่าวไพร่ไม่ให้ลอบวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของนายน้อยสามลับหลังเด็ดขาด ถ้าใครพูดก็ไสหัวกลับบ้านเก่าไปได้เลย ด้วยเหตุนี้บรรดาสาวใช้ที่มาใหม่จึงต่างไม่รู้ถึงปัญหายุ่งยากในสวนซั่งกู่

หลินอันเข้าตาเขาตั้งแต่แรกเห็น เชื่อโดยสัญชาตญาณว่านางชวนให้คนนึกชอบและไม่กลัวคนแปลกหน้า ทั้งยังเห็นนางพูดจาไพเราะอ่อนหวาน เป็นสาวใช้น้อยที่ใครเห็นใครก็รัก อายุน้อยไปสักหน่อย แต่น่าจะรับใช้นายน้อยสามได้เหมาะสม จึงจัดแจงย้ายนางมาคอยปรนนิบัติเนี่ยเฟิงอวิ๋นอยู่ที่นี่ทั้งเช้าเย็น กลับคิดไม่ถึงว่า…ละครเรื่องเดิมแสดงซ้ำทุกวัน…

เขาทอดถอนใจ ก่อนจะโบกมือให้เสวียนจีก่อนว่า “เจ้ารออยู่ตรงนี้ ข้าไปครู่เดียวเดี๋ยวกลับมา อย่าเที่ยวเดินส่งเดช…สวนมีขนาดใหญ่ ถ้าหลงทางก็ไม่มีใครว่างตามหาเจ้า” เขาจับมือหลินอันบังคับเดินเข้าหอซั่งกู่ไป

เสวียนจียืนอยู่ที่เดิมครู่หนึ่ง สายลมฤดูร้อนพัดระใบหน้า อุ่นนัก ให้ความรู้สึกสบายกว่าอุณหภูมิหนาวเย็นจนคนจะแข็งตายในตอนฟ้ายังไม่สางมาก นางริมฝีปากเปื้อนยิ้ม เดินเอื่อยเฉื่อยเลาะลานสวน

หลังจากนางเข้ามาในคฤหาสน์สกุลเนี่ยก็ไม่เคยมีสักเสี้ยวเวลาที่ได้อยู่ว่างๆ ต้องทำงานงกๆ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ วันแรกก็ต้องหอบผ้าห่มนวมไปตากแดดจนนางวิงเวียนตาลาย มือไม้อ่อนไปหมด แต่ก็ไม่กล้าโอดครวญด้วยกลัวจะเป็นที่สนใจ ทั้งตัวคนเหมือนเป็นลูกบ๊วยเหี่ยวย่น หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย บัดนี้ผ่านมาเดือนกว่า ร่างกายยังคงปวดเมื่อยน้อยๆ แต่ดีกว่าเดิมมากอย่างเห็นได้ชัด ยามนี้ได้แอบอู้ก็รู้สึกสบายจนอยากหลับตาเข้าสู่ห้วงฝันอีกครั้ง…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com