ทยาดาเลิกคิ้วมองฝ่ายตรงข้ามที่ทำหน้าเจื่อนเมื่อได้ยินบทลงโทษ พยายามปรับสีหน้าตัวเองให้เสียใจอย่างสุดซึ้งเท่าที่จะทำได้แม้มุมปากจะเหยียดยิ้มออกมาจนปิดไม่มิด พร้อมคิ้วที่เลิกขึ้นข้างหนึ่งราวประกาศให้รู้ว่าใครแน่กว่าใคร
“ส่วนทอย อยู่ที่นี่ก่อน กรรมการจะขอพบด้วยสักครู่”
ประโยคที่ตามมาทำเอาฝั่งคู่กรณีทำหน้าเยาะเย้ยเปิดเผยยิ่งกว่าเมื่อรู้ว่าเธอต้องโดนอยู่ต่อ สายตาเดียดฉันท์ที่ส่งมานั้นแทบจะแสดงออกมาเป็นประโยคให้เห็นได้เลยทีเดียวว่าเธอต้องโดนหนักกว่าแน่นอน
“ค่ะ” หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อนลงอย่างเดาไม่ถูกว่าจะต้องเจอกับอะไรอีก
ความเย็นของเครื่องปรับอากาศในห้องประชุมเล็กนี้ไม่ได้ทำให้ผิวเนียนสะท้านสะเทือนสักเท่าไหร่ จวบจนกระทั่งประตูเชื่อมห้องประชุมถูกเปิดออกแล้วปรากฏร่างสูงในชุดสูทกรมท่าที่ถูกรีดเนี้ยบตลอดลำตัวแทบไม่มีรอยยับให้เห็น
บัดนั้นเธอจึงได้รู้ว่าเครื่องปรับอากาศในห้องประชุมนี้มันหนาวประดุจยืนเปล่าเปลือยบนยอดเขาในขั้วโลกเหนือ
ร่างสูงของชายผู้มาใหม่ถอดเสื้อสูทตัวนอกพาดไว้ที่พนักเก้าอี้ เผยให้เห็นเชิ้ตสีขาวพับแขนครึ่งศอกตัดกับเนกไทสีดำขลับเป็นเงา
เขาบรรจงนั่งลงด้วยกิริยาท่าทางสุภาพ แฟ้มประวัติการทำงานของทยาดาที่มือหนาหยิบติดมาด้วยนั้นถูกวางลงบนโต๊ะอย่างใจเย็นพร้อมกับการเอ่ยน้ำเสียงที่แสนทุ้มนุ่มดุจมิตรสหายที่รู้จักกันมานาน มิตรเหรอ…มิจฉาชีพน่ะสิยายบ้าเอ๊ย!!
“สวัสดีครับคุณทยาดา พิธีบริรักษ์”
หญิงสาวเผยอปากค้างอย่างคนพูดอะไรไม่ออก สายตาเพ่งพินิจคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ร่างสูงโปร่งที่คุ้นเคยในภาพจำครั้งแรกฉายชัดขึ้น คนที่ก้มเก็บห่อผ้าอนามัยขึ้นมาแล้วทำท่าตลกขบขันเหมือนได้ของเล่น คนที่วิ่งมากั้นประตูรถขวางเอาไว้ไม่ให้เธอไป คนที่ฉวยโอกาสจับมือหน้าด้านๆ และคนที่มาส่งอาหารในสภาพโกโรโกโสแม้หน้าตาจะดูดีมากแค่ไหนก็ตาม
ทว่าคนตรงหน้านี้มาในมาดภูมิฐานสมกับตำแหน่งกรรมการคนใหม่ และเขาคือคนเดียวกับภาพจำของเธอทั้งหมด ทยาดาสาบานได้ว่าเขากำลังมองเธอด้วยความปีติยินดีอย่างมาก มากเสียจนเธอรู้สึกได้ว่าขนลุกชันไปทั่วทั้งร่างกายแล้ว
“หน้าตาคุณดูดีใจนะครับที่ได้เจอกัน” เขาส่งยิ้มเก๋ๆ ที่มีลักยิ้มบุ๋มลึกกว่าคนเป็นน้องเล็กน้อยให้ ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่เอาแต่ยิ้มแป้นแล้นอย่างเห็นได้ชัด
ทยาดาประจักษ์แล้วว่าเขานั้นคนละลุคกับที่เธอเคยเจอราวกับเป็นคนละคน แต่แววตาซุกซนที่ซ่อนไม่มิดนั่นทำให้เธอต้องเชื่อว่าเป็นคนเดียวกันแน่นอน
“หลังจากที่ได้ดูแฟ้มประวัติการทำงานของคุณแล้ว น่าชื่นชมนะครับที่คุณเป็นคนทุ่มเทในการทำงานอย่างมาก ไม่น่าเชื่อว่าบริษัทที่เพิ่งเปิดมาสิบปีจะมีพนักงานที่เติบโตไปพร้อมกันจนได้รับตำแหน่งหัวหน้าทั้งที่อายุยังน้อยอย่างคุณอยู่ด้วย”
คำพูดเป็นการเป็นงานของเขาทำเอาทยาดาเริ่มลังเลว่าตกลงเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า สมองอันปราดเปรื่องรีบประมวลผลจากความทรงจำอย่างรวดเร็วเพื่อหาข้อจับผิดว่าคนตรงหน้าอาจจะเป็นแค่คนหน้าเหมือนก็ได้ แต่ก็จบลงแค่นั้นเมื่อร่างสูงเอ่ยต่อ
“น่าเสียดายที่ผมเพิ่งกลับมารับตำแหน่งนี้ ถ้ารู้ว่าคุณทำงานอยู่ที่นี่คงไม่ต้องคิดวางแผนหาทางไปบ้านคุณอยู่เป็นคืนๆ ว่าจะทำยังไงให้มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ” รอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ที่ประดับบนใบหน้าหล่อๆ นั้นอาจทำให้คนอื่นหวั่นไหวในชั่วพริบตา แต่มันทำให้ทยาดาคนนี้หวั่นกลัวเสียมากกว่า
“ล้อเล่นน่ะคุณ แต่ในฐานะที่เราได้เจอกันอีกครั้ง ผมขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการเลยแล้วกัน” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เผยให้เห็นว่าที่จริงแล้วเขาสูงกว่าเธออยู่มากนักเท่าที่พอได้พิจารณาดูอย่างถี่ถ้วน ซึ่งการพบกันก่อนหน้านี้ไม่ได้ทำให้เธอใคร่จะมาไล่สังเกตอะไรมากนัก พอเอาเข้าจริงจากคนที่ดูทีเล่นทีจริงกลับมีมาดขึงขังเอาเรื่อง
“ผม กวิน ภูธนากุล จะเข้ามาดำรงตำแหน่ง…”
“เอ่อ…เดี๋ยวค่ะ” หญิงสาวเอ่ยขัดขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ “ไว้แนะนำพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ ยังไงก็ต้องเข้าประชุมพร้อมกันหมดทุกคนอยู่ดี”
ทยาดาโพล่งออกไปเท่าที่ใจคิด โดยลืมเสียสนิทว่าคนตรงหน้านั้นเป็นใครและเหนือกว่าเธอแค่ไหน แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อคิดได้ถึงตำแหน่งของเขา “ขอประทานโทษค่ะ”
หญิงสาวอยากจะหยิกตัวเองที่เผลอลืมตัว ก็เพราะเห็นแต่ภาพจำทับซ้อนกันขึ้นมามากกว่าร่างสุขุมตรงหน้า ชายหนุ่มแอบหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มละลายโลกทั้งใบแล้วค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้อีกนิด ส่งมือหนายื่นเข้ามาถือวิสาสะจับมือของเธอขึ้นทักทายแบบสากลพลางพูดด้วยอย่างอารมณ์ดี
“ยินดีที่ได้รู้จักและได้พบอีกหลายๆ ครั้งนะครับ”
ซวย! ซวยแน่ๆ ชีวิตไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วยายทอย!
ติดตามตอนต่อไปวันพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น.