‘ทำไมล่ะ’
‘กับคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแบบนี้ คุณจะอธิบายไปเพื่ออะไร’
ลู่จยาพูดถูก ถ้าเขาจะต้องคอยอธิบายทุกครั้งที่มีคนเข้าใจผิดคงต้องเหนื่อยตายแน่
เฉิงอี้เหิงเดินขึ้นไปยังชั้นบนพร้อมกับลู่จยา โรงแรมนี้ไม่มีลิฟต์แต่ยังดีที่ห้องพักของลู่จยาอยู่ที่ชั้นสาม แม้เฉิงอี้เหิงอยากจะแบกลู่จยาขึ้นไปแต่ลู่จยากลับปฏิเสธ
‘ถ้าไม่อุ้มฉัน ฉันก็ค่อยๆ กระโดดขึ้นไปเองได้ คุณจะมาให้ฉันขี่หลังอะไรกันอีก ฉันเป็นพ่อของคุณหรือไง’
เฉิงอี้เหิงไม่รู้ว่าจะตอบว่าอย่างไรดี
ลู่จยาพูดต่ออีก ‘ฉันล้อคุณเล่นน่ะ’
เมื่อถึงห้องพักลู่จยาก็หยิบคีย์การ์ดออกมาเปิดประตูห้อง
พอพยุงตัวเองไปถึงเตียง เธอก็โยนไม้ค้ำทิ้งเตรียมตัวจะขึ้นไปนอนแผ่หลาบนเตียง เฉิงอี้เหิงคิดจะห้ามจึงตะโกนออกไป ‘เฮ้ย! คุณอย่าทิ้งตัวแบบนั้นสิ ถ้ากระเทือนแผลที่ขาจะว่า…’
แต่ก็ไม่ทันแล้ว ลู่จยาขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อย
ทั้งเพิ่งผ่านการผ่าตัด แล้วยังหนีออกจากโรงพยาบาลมาอีก เรียกได้ว่าใช้ชีวิตสมบุกสมบันมาทั้งวัน ลู่จยาจึงเหนื่อยล้าจนแทบไม่ไหวแล้ว ทำให้พอขึ้นไปนอนบนเตียงเพียงครู่เดียวก็ได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเธอ
เฉิงอี้เหิงรู้ว่าต่อให้เรียกลู่จยายังไงก็ไม่มีประโยชน์แล้วจึงพยายามดันตัวเธอเข้าไปด้านใน เขาดึงผ้าห่มที่เธอนอนทับไว้ออกมาแล้วห่มให้
ถึงจะห่มผ้าเรียบร้อยแล้วแต่คงยังไม่พอ เฉิงอี้เหิงคิดแล้วจึงค่อยๆ เก็บมุมผ้าห่มทั้งสี่ด้านให้เรียบร้อยด้วยเกรงว่าจะมีลมผ่านเข้าไป หากลู่จยาหนาวแล้วเกิดไม่สบายขึ้นมาคงไม่ดีแน่
เขาปรับเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในโหมดสลีป ตอนนั้นเองถึงเห็นว่าที่รีโมตเครื่องปรับอากาศมีสติ๊กเกอร์แปะไว้ว่า เปิดใช้เครื่องปรับอากาศเพิ่มสิบหยวน เขาได้แต่ส่ายหัว
เฉิงอี้เหิงเปิดห้องธรรมดาซึ่งมีเตียงอยู่สองเตียง เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเขาก็รู้สึกว่าปวดเมื่อยไปทั้งตัวจึงบิดขี้เกียจแล้วปีนขึ้นไปเตียงข้างๆ ตั้งใจจะหลับตาสักพัก กะว่าพอพวกนักข่าวไปแล้วเขาก็จะรีบกลับไปที่ห้องพักของตัวเองเพื่องีบต่ออีกสักหน่อยก่อนจะออกไปราวนด์วอร์ดตอนแปดโมงเช้า
ไม่คิดเลยว่าหลังจากหลับตาลงแล้วจะเผลอหลับจนถึงเช้า และเป็นเพราะเสียงกดชักโครกที่ทำให้เขาตื่นขึ้น
ขณะที่เฉิงอี้เหิงลืมตาขึ้น เขาก็เห็นลู่จยายืนพิงอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ ‘ขา…ชาอีกแล้ว’
เขาสะบัดผ้าห่มที่ไม่รู้ว่าห่มไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ออก ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ ลู่จยาอย่างรวดเร็ว เฉิงอี้เหิงก้มลงนั่งยองๆ เพื่อให้ลู่จยาเกาะหลังเขา แต่เมื่อคิดถึงคำพูดของเธอขึ้นมาจึงตัดสินใจอุ้มลู่จยาแทน เขาอุ้มเธอไปวางไว้บนเก้าอี้
‘ล้างหน้าล้างตาแล้วใช่ไหม’ เฉิงอี้เหิงถาม
‘อืม’ ลู่จยาตอบ
เฉิงอี้เหิงลูบหน้าตัวเอง ‘งั้นรอผมแป๊บนึงนะ’ พูดจบเขาก็ตรงไปที่ห้องน้ำแล้วปิดประตูตามหลัง
ตอนที่เขาเดินเข้าห้องน้ำไป โทรศัพท์มือถือของเฉิงอี้เหิงที่วางไว้ตรงตู้ข้างหัวเตียงก็ดังขึ้น ลู่จยาเอื้อมมือไปคว้าได้พอดีจึงช่วยเขารับสาย
‘ฮัลโหล’ น้ำเสียงร้อนรนของหญิงสาวดังขึ้น ‘คุณหมอเฉิงอยู่ไหนคะนี่ใกล้จะถึงเวลาราวนด์วอร์ดแล้วทำไมคุณหมอยังไม่มาอีก เมื่อวานคุณหมออยู่เวรไม่ใช่เหรอคะ อีกเรื่อง ลู่จยาคนนั้นก็หายตัวไปด้วยค่ะ ตอนนี้ตำรวจกำลังมาที่นี่ พวกเขาจะมาสอบปากคำเธอ เธอคงไม่ได้หนีไปแล้วหรอกนะคะ’
‘ฉันอยู่กับคุณหมอเฉิงค่ะ ตอนนี้เขากำลังแปรงฟันอยู่ พวกเราจะรีบกลับไปนะคะ ยังไงฝากคุณช่วยบอกกับตำรวจด้วยว่าฉันไม่ได้หนี’ พูดจบลู่จยาก็วางสายโทรศัพท์ทันที
เฉิงอี้เหิงพยุงลู่จยากลับมาถึงโรงพยาบาลก่อนแปดโมงเช้า
มีตำรวจมารออยู่ในห้องพักคนไข้นานแล้ว ลู่จยาปีนขึ้นเตียงคนไข้ ส่วนเฉิงอี้เหิงนั้นออกไปราวนด์วอร์ด ลู่จยาจำได้ว่าตำรวจตรงหน้าของเธอคือคนเดียวกับที่กอดขาของนักข่าวคนนั้นเอาไว้นั่นเอง เขาไม่ได้ทำหน้าที่ของตำรวจเลยสักนิด
ตำรวจแนะนำตัวเองว่าแซ่เหลิ่ง ดูๆ แล้วเขาน่าจะอายุประมาณสามสิบต้นๆ เป็นตำรวจที่ทางตำรวจจราจรส่งมาเพื่อสอบปากคำเธออย่างเป็นทางการ หลังจากแนะนำตัวแล้วเขาก็เริ่มพูด ‘จากการเก็บหลักฐานร่องรอยต่างๆ บริเวณที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงแล้ว ในเบื้องต้นถือว่าเป็นอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เท่านั้นครับ แต่ก็ยังมีคำวิจารณ์…’
‘ฉันเข้าใจค่ะ’
‘คืนนั้นที่คุณกับคุณฮว่าถิงออกไปแข่งรถกัน ใครนัดกับใครครับ’
‘ฮว่าถิงนัดฉันค่ะ เธอบอกว่าวันรุ่งขึ้นเป็นการแข่งขันรอบตัดสินเลยอยากจะลองซ้อมแข่งกับฉันดูก่อน’
ไม่คิดเลยว่าเพียงแค่ค่ำคืนเดียว คนสองคนจะได้ผ่านประสบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาลเช่นนี้ คนหนึ่งเสียชีวิต ส่วนอีกคนบาดเจ็บ และสุดท้ายก็ไม่มีใครได้เข้าร่วมการแข่งขันดังกล่าว ตำแหน่งแชมป์ตกเป็นของนักแข่งไร้ชื่อเสียงคนหนึ่งทำให้นักแข่งคนนั้นมีชื่อเสียงขึ้นมา
การออกไปซ้อมก่อนการแข่งขันของเธอกับฮว่าถิงทำให้ชีวิตของคนสามคนเปลี่ยนไป
ลู่จยาเล่ารายละเอียดการประลองความเร็วในคืนที่เกิดเหตุให้กับคุณตำรวจเหลิ่งฟังอย่างละเอียด คุณตำรวจเหลิ่งจึงซักถามในประเด็นที่สงสัยเพิ่มเติม ‘คุณบอกว่าคุณชนเข้ากับสิ่งกีดขวางก่อนถูกต้องไหมคัรบ แล้วรถของคุณฮว่าถิงก็ชะลอความเร็วลง หากเป็นแบบนั้นจริงแล้วทำไมรถของคุณฮว่าถิงถึงยังพุ่งไปที่แผงกั้นจนตกลงไปที่หน้าผาอีกล่ะครับ’