ท่าทีแสร้งทำโง่ แสร้งว่าเป็นคนดีมีคุณธรรมเช่นนี้ สิบปีที่ผ่านมาใช้ฐานะน้องสาวหลอกลวงมาเข้าใกล้เขา ได้รับความเชื่อใจจากท่านพ่อท่านแม่เขา หัวเราะเยาะทุกคน ผลักให้เขาตกอยู่ในสภาพที่น่ารังเกียจและน่าอับอาย
เขา เซียวอี้เหริน ไม่มีวันยกโทษให้คนหลอกลวงที่ทำราวกับเขาเป็นคนโง่อย่างเด็ดขาด!
“ท่านพี่” นางมองใบหน้าบึ้งตึงของเขาด้วยสายตาที่มึนงง
“ทำเรื่องที่เจ้าควรทำ อย่าบีบบังคับให้ข้านำหนังสือหย่า…มาปลดปล่อยเจ้า!” เขามอบสายตาเย็นชาซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวให้นาง
ฟู่เหลียงเฉินทรุดกายนั่งลงบนเตียงด้วยร่างกายที่อ่อนยวบราวกับโคลน ในหูอื้ออึง แขนขาค่อยๆ เย็นเฉียบ หลังจากผ่านไปสักพักรอยยิ้มขมขื่นก็ปรากฏขึ้นมาพร้อมคำพูดที่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ…
“ข้าทำผิดอะไรอย่างนั้นหรือ…นี่ล้วนเป็นเพราะท่านชอบนางมากใช่หรือไม่”
คืนนั้นฟู่เหลียงเฉินคอยเฝ้าไข้ที่ข้างเตียงแม่สามีอยู่เงียบๆ ป้อนยาด้วยมือตนเอง จุดยาหอมผ่อนคลายจิตใจ ให้สาวใช้ถืออ่างน้ำอุ่นกับผ้าเช็ดหน้า นางก็ชุบผ้าแล้วเช็ดไปทั่วใบหน้าและแขนขาของแม่สามีเบาๆ ดั่งเช่นเป็นเรื่องปกติ
ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้ความเฉยเมยนิ่งสงบในใจนาง เลือดลมภายในอกได้ตีย้อนขึ้นมาที่ลำคอซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ถูกนางกล้ำกลืนลงไป
“ฮูหยินน้อย ท่านกลับไปพักสักหน่อยเถอะ ตอนนี้ก็ใกล้จะยามโฉ่ว* แล้ว ท่านอดนอนมาทั้งคืน ร่างกายจะรับไม่ไหวเอาได้นะเจ้าคะ” ตู้เจวียนเกลี้ยกล่อมด้วยเสียงอันเบา
“ใช่เจ้าค่ะ” ซิ่วเยวี่ย สาวใช้ข้างกายเซียวเหอซื่อถือถ้วยยาเข้ามาพลางเอ่ยด้วยความเป็นห่วง “ถ้าฮูหยินรู้เข้าจะต้องเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง”
“ข้าไม่เป็นไร” นางรับถ้วยยามาให้แม่สามีจิบทีละช้อนเต็มด้วยความระมัดระวัง โดยไม่ลืมที่จะเช็ดคราบยาที่เปื้อนตรงมุมปากด้วย นางป้อนยาจนกระทั่งไม่เหลือสักหยดแล้วจึงส่งถ้วยยากลับคืนไปในมือซิ่วเยวี่ย “ท่านกั๋วกงยังคอยเฝ้าอยู่ข้างนอกที่ห้องทางตะวันออกหรือไม่”
“เจ้าค่ะ” นางถอนหายใจออกมาเบาๆ พลางยันกายแล้วเอ่ยขึ้น “เช้านี้ท่านกั๋วกงคงไม่มีใจไปเข้าท้องพระโรงเป็นแน่ อาจลาหยุดอยู่ที่จวน ตู้เจวียน เจ้าบอกพวกสาวใช้ให้เพิ่มเตาถ่านอีกสองเตา ในห้องจะได้อบอุ่นขึ้นมาอีก ให้ในครัวจัดอาหารเช้าที่อุ่นร้อน เป็นอาหารอ่อนบำรุงร่างกาย ตั้งสำรับไว้ข้างในห้อง ท่านกั๋วกงจะต้องอยากคอยอยู่กับฮูหยินที่นี่”
“ข้าน้อยรับทราบแล้ว จะรีบจัดการเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”
“ซิ่วเยวี่ย เรื่องฮูหยินที่นี่รบกวนฝากเจ้าดูแลด้วย ข้าจะกลับห้องไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน หลังจากที่จัดการงานตอนเช้าทุกอย่างภายในจวนเสร็จเรียบร้อยค่อยมาเฝ้าไข้” ฟู่เหลียงเฉินอธิบายอย่างนุ่มนวล ดวงหน้าขาวซีดไร้สีเลือดยังคงฝืนกระตุ้นเรี่ยวแรง
“ฮูหยินน้อย ท่านโปรดวางใจได้ ข้าน้อยทุกคนที่อยู่ที่นี่จะดูแลฮูหยินเป็นอย่างดี ท่านเองก็ควรหาเวลานอนหลับพักผ่อนเสียบ้าง ไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อฮูหยินหายดีก็จะเปลี่ยนเป็นท่านที่ป่วยเสียเอง แล้วเช่นนั้นจะดีหรือเจ้าคะ” ซิ่วเยวี่ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือความเป็นห่วงโดยไม่ปิดบัง
นางยิ้มออกมา “ได้ ข้าจะพักผ่อน”