เขารีบล้างจานในมือ ทว่ากลับเงยศีรษะขึ้นมองหานต้งตลอดเวลา เขาคิดไม่ออกว่าทำไมแค่ก๋วยเตี๋ยวชามเดียวอาจารย์ถึงไม่ยอมให้เขาทำแต่กลับเข้าครัวเอง ผลลัพธ์คือเมื่อเห็นน้ำซุปที่หานต้งใช้ก็ตกตะลึง
หานต้งไม่ได้ต้มบะหมี่ให้สุกในน้ำซุปธรรมดา แต่กลับตรงไปเปิดไฟอ่อนๆ เอาบะหมี่ลงไปต้มในน้ำซุปไก่ชั้นดีของร้านที่เคี่ยวไม่เคยดับไฟมาตลอดสามปี ส่วนผักก็ต้มในน้ำซุปเนื้อ จากนั้นยังผัดเนื้ออีกนิดหน่อย น้ำซุปที่ใช้ในขั้นตอนสุดท้ายก็ปรุงจากน้ำซุปไก่ชั้นดีและน้ำซุปเนื้อ
เจิ้งหลินเทียนตกตะลึงพรึงเพริด “อาจารย์ครับ…นี่มันน้ำซุปผักที่ไหนกัน…อาจารย์เอาใจพี่เหมียวเกินไปหน่อยแล้ว…”
“พูดมากน่า” หานต้งมองเขาปราดหนึ่งด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แล้วยกก๋วยเตี๋ยวออกไปด้วยตัวเอง
หวงหรูหรูคิดเงินเสร็จแล้วก็มาเม้าท์กับเหมียวเหมี่ยว เธอเล่าเรื่องวันนี้ให้ฟังคร่าวๆ รอบหนึ่ง ตีอกชกหัวด้วยความหงุดหงิด “ฉันมันไม่ได้เรื่องเลยใช่รึเปล่า”
“เขา…สนใจเธออยู่ใช่มั้ยล่ะ” เป็นเหตุผลเดียวที่หวงหรูหรูคิดขึ้นมาได้
เหมียวเหมี่ยวนิ่งอึ้ง สะบัดสะบิ้งจนหูแดง “จะเป็นไปได้ยังไง เราเพิ่งเจอกันแค่สามครั้งเองนะ คนสูงรวยหล่ออย่างเขาคู่ควรกับเน็ตไอดอลไม่ใช่หรือไง”
“อ้าว เธอเองก็เป็นเน็ตไอดอลนี่นา” หวงหรูหรูพูดอย่างตรงไปตรงมา
เหมียวเหมี่ยวสีหน้าหม่นหมอง “ฉันไม่ใช่เน็ตไอดอลสักหน่อย ปีนึงเน็ตไอดอลได้เงินเป็นสิบล้าน ฉันได้ค่าลิขสิทธิ์ไม่กี่หยวนเอง”
“โห อยากเห็นสีหน้าของเถ้าแก่ฟางหลังจากรู้ว่าเธอเป็นนักวาดการ์ตูนที่เขาชอบจังเลย ต้องสนุกแน่ๆ” หวงหรูหรูเท้าเอวทั้งสองข้างพลางเพ้อฝัน สักครู่ใหญ่ก็ฝันไม่ออกเสียแล้ว เธอคว้าแขนของเหมียวเหมี่ยวแล้วเอ่ยถาม “ไม่ได้สิ จินตนาการไม่ออกเลย เขาหน้าตาเป็นยังไง เธอให้ฉันดูหน่อยสิ”
เหมียวเหมี่ยวคิดว่าจะเอารูปคู่ที่ถ่ายด้วยกันให้หวงหรูหรูดู แต่จู่ๆ ก็คิดได้ว่าเธอมีภาพสเก็ตช์ของเขาอยู่ด้วย ก็ค้นจะเอาขึ้นมา “วันนี้ฉันแอบสเก็ตช์ภาพของเขามาด้วยล่ะ จะเอาให้เธอดูก่อนเลย”
“วันนี้เธอออกไปวาดรูปมาด้วยเหรอเนี่ย” หวงหรูหรูรอไปก็พูดไป
เหมียวเหมี่ยวขานรับคำหนึ่ง ล้วงมือค้นลงในกระเป๋าใบใหญ่อยู่ตั้งนานสองนานก็ยังหาสมุดสเก็ตช์ภาพไม่เจอ เธอพลันวุ่นวายใจ “อะไรกัน…สมุดสเก็ตช์ภาพของฉันล่ะ”
“บะหมี่ครับ” หานต้งยกบะหมี่เข้ามาวางลงตรงหน้าเหมียวเหมี่ยวพอดี กลิ่นซุปทั้งหอมทั้งเข้มข้นชอนไชเข้าสู่โพรงจมูกของเหมียวเหมี่ยว เบี่ยงเบนความสนใจของเธอได้ทันที
อย่างกับว่าเหมียวเหมี่ยวเห็นบะหมี่ชามนี้ก็ไล่ตามแสงสว่างไป กลิ่นหอมของบะหมี่ผักพวยพุ่งไปทั่วทุกทิศ เธอกลืนน้ำลายลงไป น้ำซุปซึมเข้าเส้นบะหมี่อย่างเห็นได้ชัด ผักซึ่งเป็นต้นหอมสีเขียวประหนึ่งหยก ข้างๆ มีเนื้อเส้นอยู่เล็กน้อย
เธอเงยหน้าถามหานต้ง “ทำไมมีเนื้อเส้นด้วยล่ะคะ”
“เพิ่มให้น่ะ” หานต้งอธิบาย