เหมียวเหมี่ยวมองอยู่สักครู่ก็รู้สึกเบื่อจึงหยิบดินสอขึ้นมาสเก็ตช์ภาพลงในสมุดด้วยความว่องไว วาดเค้าโครงใบหน้าของชายหนุ่มขึ้นมา วาดครั้งแรกเหมียวเหมี่ยวก็พบว่ามันออกมาได้สวยมากทีเดียว แต่พอเธอเกิดไม่กล้ามองเป็นครั้งที่สองจึงไม่วาดต่อเพราะขาดความมั่นใจ เหมียวเหมี่ยวเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่ารอบด้านไม่มีใครมองเธออยู่ก็รีบเปิดกระเป๋าที่อยู่ข้างๆ ยัดสมุดสเก็ตช์ภาพเข้าไปข้างใน มือก็คลำเจอหนังสืออีกเล่มหนึ่ง เหมียวเหมี่ยวนิ่งอึ้ง คิดถึงคำพูดที่ฟางไหลหยางเพิ่งพูดไว้ ‘ถ้าเบื่อก็เอาไปอ่านได้นะ’
เมื่อเธอหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมา จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นบาร์บีคิวที่อยู่เหนือไฟ อายจนอยู่ไม่สุข
มันคือหนังสือการ์ตูนปกน่ารักน่าชัง มีแมวพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์เวอร์ชั่นจิบิหนึ่งตัวอยู่บนนั้น ด้านบนมีตัวอักษรกับตัวเลขกลมดิกเขียนว่า ‘ผู้กล้าบุกอาณาจักรแมว 2’
นี่มันอะไรกันเนี่ย!
เหมียวเหมี่ยวรู้สึกเหมือนหนังสือการ์ตูนที่ถืออยู่กำลังไหม้จนลวกมือของเธอ หนังสือเล่มนี้ดูค่อนข้างเก่า เหมือนกับว่าถูกอ่านไปหลายรอบแล้ว
เมื่อคิดได้ว่าหนังสือการ์ตูนเล่มนี้เป็นของชายคนนั้น เหมียวเหมี่ยวก็รู้สึกอับอายขึ้นไปอีก ทำไมหนุ่มรูปร่างสูง ฐานะร่ำรวย ใบหน้าหล่อเหลา และดูมีสติปัญญาดีคนนี้ถึงได้อ่านการ์ตูนน่ารักติงต๊องของเธอได้ล่ะ?! จะต้องมีเด็กสาวหรือเด็กเล็กในบ้านของเขาชอบก็เลยยัดเยียดให้เขาแน่! ถ้าเกิดเขารู้ขึ้นมาว่าเธอคือคนเขียนการ์ตูนเล่มนี้ล่ะก็…พระเจ้า อย่าให้ฉันมีชีวิตอยู่อีกเลย
ความอยากรู้อยากเห็นก่อให้เกิดความวุ่นวายก็จริง แต่เหมียวเหมี่ยวก็ยังเปิดหน้าปกผ่านตาครั้งหนึ่ง เห็นแผ่นรองปกสีขาวว่างเปล่าก็โล่งใจขึ้นมาทันที ดีนะที่เขาเป็นไม่ได้ซื้อเวอร์ชั่นที่มีลายเซ็นมา
“คุณดูอะไรอยู่เหรอ” เสียงของฟางไหลหยางดังขึ้นจากบนศีรษะของเธอ
เหมียวเหมี่ยวตัวสั่นระริก ขนลุกไปทั่วทั้งตัว
เธอเหยียดรอยยิ้มอย่างประดักประเดิด “เอ่อ…ก็ดูไปเรื่อยเปื่อยค่ะ…ไม่คิดนะคะว่าคุณฟางจะชอบการ์ตูนแนวนี้ด้วย…”
“เรียกชื่อผมก็พอครับ การ์ตูนเรื่องนี้วาดออกมาได้ไม่เลวเลยล่ะ” ฟางไหลหยางนั่งลงข้างๆ เธอ ถือผ้าเช็ดหน้าเช็ดมือทั้งสองข้างเบาๆ จากนั้นก็จัดแขนเสื้อให้เข้าที่ ท่าทางนุ่มนวลสง่างาม นิ้วมือของเขากำลังเริงระบำอยู่
เหมียวเหมี่ยวเห็นอากัปกิริยาของเขากับการพูดจาที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ทั้งยังเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ มีบุคลิกอย่างชนชั้นสูง ก็ไม่อาจจินตนาการได้ว่าเขาจะอ่านการ์ตูนของเธอ
“ดะ…ดียังไงคะ ดูติงต๊องจะตายไป” เหมียวเหมี่ยวเยาะเย้ยตัวเองอย่างสุดความสามารถ
ฟางไหลหยางส่ายหน้า ตอบโต้ว่า “ไม่ติงต๊องหรอก ถึงสไตล์การวาดจะน่ารักมาก เนื้อเรื่องเรียบง่าย แต่ว่าข้างในสื่อหลักการที่มีแค่ผู้ใหญ่เท่านั้นที่จะเข้าใจเอาไว้เยอะแยะเลย”
เหมียวเหมี่ยวเกาศีรษะ ยังไงเธอก็คิดไม่ออกว่าการ์ตูนของตัวเองซ่อนความนัยเอาไว้ตรงไหน “หลักการอะไรเหรอคะ…”
“พวกเราเป็นมนุษย์ ตามธรรมชาติแล้วก็มีสิทธิ์ที่จะชี้ชะตาโลก แต่การ์ตูนเรื่องนี้กลับสลับคาแร็กเตอร์ตามปกติไป แมวเป็นเจ้านายของโลกใบนี้ คนต่างหากที่ถูกเลี้ยงดู มีวันหนึ่งตัวละครหลักที่เป็นคนป่าสูญเสียพ่อแม่ไป แล้วยังถูกญาติๆ ทิ้งขว้าง เขาตกลงใจว่าจะร่อนเร่ไปทำมาหากินในเมืองแมวที่ถูกเรียกว่าเป็นเมืองสวรรค์ เสาะหาที่พักพิง ในตอนแรกการผจญภัยในเรื่องไม่ได้ออกแบบไว้พิเศษนักหรอก แต่ผมรู้สึกได้ว่าคนวาดจะต้องเป็นคนจิตใจเข้มแข็งแล้วก็มองโลกในแง่ดีมากๆ เลยล่ะ” ฟางไหลหยางเอ่ยเสียงทุ้ม “คุณอ่านดูได้นะ ผมชอบนักวาดคนนี้น่ะ” เสียงของเขาทุ้มต่ำเจือด้วยแรงดึงดูดราวกับเสียงเชลโล หลอกล่อให้นักวาดการ์ตูนอ่านการ์ตูนของตัวเอง