“ท่านอาใหญ่ ตัวมันดำปี๋เลย เรียกเจ้าดำแล้วกัน” เสียงเอ๋อร์ได้ยินว่าจะตั้งชื่อให้แมวก็เสนอความเห็นอย่างตื่นเต้น
“เจ้าดำๆ” เฉี่ยวเอ๋อร์เรียกตามพี่ชาย
นั่นชื่อหมาชัดๆ! ซย่าหมิ่นขมวดคิ้ว
จากนั้นนางก็เดินเข้าไปใกล้ ทิ้งตัวลงนั่งยองๆ อุ้มมันขึ้นมา แมวดำร้องม้าวเป็นเชิงขู่ และดิ้นแรงยิ่งกว่าตอนที่พวกเด็กๆ ลูบตัวมันเมื่อครู่
ดุจริงนะ! ชาติที่แล้วซย่าหมิ่นเคยเห็นเพื่อนเลี้ยงแมวจึงรู้ว่าต้องจับอย่างไรถึงจะไม่โดนแมวข่วน นางจ้องตาสีเขียวของมัน แล้ววางท่าเฉียบขาดในฐานะผู้นำสกุลซย่า “ในเมื่อเป็นแมวก็ชื่อมีมีแล้วกัน ฟังให้ดีล่ะ จากนี้ไปเจ้าแซ่ซย่า ซย่ามีมี เป็นส่วนหนึ่งของบ้านเรา”
แมวดำทำหน้าคล้ายกับจะบอกว่า…ซย่ามีมี ชื่อบ้าอะไรนี่!
ซย่าหมิ่นเห็นหน้ามันแล้วหัวเราะขัน แมวตัวนี้ฉลาดจริง ฟังภาษาคนรู้เรื่องด้วย
“เอาล่ะ ทำตัวดีๆ นะ ข้าจะทำแผลให้เจ้า จากนั้นก็จะหาข้าวให้กิน”
กลางดึกสงัด ในห้องมีเพียงเสียงหายใจที่บ่งบอกว่ากำลังหลับสนิทของเด็กๆ
ซย่าหมิ่นนอนเตียงเดียวกับหลานทั้งสอง นับแต่พี่ชายพี่สะใภ้จากไป เด็กสองคนนี้ก็ติดนาง ตอนกลางคืนนางเลยต้องนอนด้วย
มุมหนึ่งตรงข้ามเตียงมีชามข้าวชามน้ำกับลังกระดาษวางไว้ นั่นคือเตียงที่ซย่าหมิ่นทำไว้ให้มีมี แต่เวลานี้ลังกระดาษไม่มีแม้แต่เงาแมว แมวดำตัวนั้นกำลังลากขาหลังที่มีผ้าสีขาวพันเดินไปตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
จากนั้นมันก็เล็งโต๊ะพร้อมย่อตัว ใช้ขาถีบตัวกระโดดขึ้นจากพื้น แต่เนื่องจากขาหลังบาดเจ็บจึงเกือบลื่นตกลงมา เรียกได้ว่ากระโดดพ้นอย่างหวุดหวิด โชคดีที่สุดท้ายมันทรงตัวได้
บนโต๊ะมีกระจกสำริด มันกระโดดขึ้นโต๊ะเครื่องแป้งก็เพราะมีเป้าหมายอยู่ที่กระจกบานนี้นี่ล่ะ
เมื่อส่องกระจกแล้วเห็นภาพที่สะท้อนอยู่ในนั้น มันก็ทำท่าตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาสีเขียวประหลาดฉายให้เห็นโทสะ ความหดหู่ ความสิ้นหวัง และความชิงชัง เท้าหน้าทั้งสองข้างกางอ้าเหมือนอยากตะปบกระจกให้แตกเป็นเสี่ยง ท่าทางเช่นนั้นดูอย่างไรก็ไม่ใช่ท่าทางของแมว
ถูกต้อง ภายในร่างของแมวตัวนี้มีวิญญาณคนสิงอยู่
วิญญาณของลิ่นจื่อเชิน
ตอนที่รถม้าร่วงตกจากหน้าผาเขาได้รับบาดเจ็บเพราะแรงกระแทก จากนั้นก็หมดสติไป เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองอยู่ในน้ำใกล้จมเต็มทีจึงรีบพุ้ยมือทั้งสองข้างตะเกียกตะกายขึ้นมา แล้วต้องตกตะลึงที่ได้เห็นว่าสรรพสิ่งรอบกายดูใหญ่โตไปหมด ส่วนตนเองเหมือนหดลงเหลือตัวนิดเดียว เขาพยายามร้องเรียกเซียวหลงกับหวังเจา แต่เสียงที่เปล่งออกมามีแต่เสียงเมี้ยวๆ ชายหนุ่มตกใจแทบสิ้นสติ รีบทะลึ่งตัวขึ้นจากน้ำ จึงได้เห็นว่ามือเท้าและทั่วร่างตนเองเป็นสีดำปลอด สมองปั่นป่วนยุ่งเหยิงเหมือนระเบิดไปเรียบร้อยแล้ว
เป็นไปไม่ได้ เขากลายเป็นแมวไปได้อย่างไร
ไม่ เขากำลังฝันอยู่ ต้องฝันอยู่แน่ๆ!
ความพรึงเพริดในใจยังไม่ทันสงบ หญิงแก่ท่าทางดุร้ายคนหนึ่งเห็นเขาเข้าก็คว้าไม้กวาดปรี่เข้าใส่ทันที
‘ไอ้แมวผีเก้าชีวิต จับกดน้ำยังไม่ตายอีกนะ! ข้าไม่ให้แมวโสโครกอย่างเจ้าแอบมาขโมยปลาในบ้านกินอีกแล้ว จะตีให้ตายเลยคอยดู!’
ลิ่นจื่อเชินขนหัวลุก ช่างเป็นหญิงร้ายกาจที่ใจไม้ไส้ระกำอะไรอย่างนี้ ถึงกับจับเขากดน้ำ นี่ยังคิดจะตีเขาให้ตายอีก
อ๋องหนุ่มอยากจะร้องออกมาดังๆ ว่า ‘บังอาจ’ เอาให้ยายแก่ผู้นี้หน้าหงายไปเลย แต่พอเห็นไม้กวาดหวดลงมา สัญชาตญาณก็ฉุดขาเขาให้ออกวิ่ง เขาพบว่าขาทั้งสี่พาตนเองวิ่งได้ว่องไวนัก ซ้ำยังกระโดดได้คล่องแคล่ว เพียงครู่เดียวก็หนียายแก่มาได้
ระหว่างที่กำลังถอนหายใจหินก้อนหนึ่งก็ปลิวมาเกือบจะถูกเขาเข้า
‘แมวดำนี่นา อัปมงคลจริงๆ เอาหินเขวี้ยงมันให้ตายเลย!’