บทที่ 64
อวี๋เหยา : การสั่งพรีออเดอร์ออนไลน์? เหมือนว่าในประเทศน่าจะมีการสั่งซื้อแบบนี้น้อยมากนะ? จะไหวจริงเหรอ…
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : ในวงการนิยายโดจินนักเขียนต้องแบกรับภาระเรื่องยอดตีพิมพ์เองโดยจะตีพิมพ์ตามยอดสั่งซื้อของผู้อ่าน ดังนั้นจึงเป็นการสั่งพรีออเดอร์ในรูปแบบออนไลน์ทั้งหมด…อันที่จริงก็มีขั้นตอนเดียวกันกับวงการสื่อสิ่งพิมพ์แบบดั้งเดิมที่จะส่งจดหมายแนะนำหนังสือก่อน จากนั้นก็รอให้ตัวแทนจัดจำหน่ายส่งใบสั่งซื้อกลับมาแล้วค่อยตีพิมพ์…เพียงแต่เปลี่ยนจาก ‘การส่งจดหมายแนะนำหนังสือ’ เป็น ‘การประชาสัมพันธ์ทางอินเตอร์เน็ต’ และเปลี่ยนผู้สั่งซื้อจากตัวแทนจัดจำหน่ายเป็นตัวผู้อ่านเท่านั้นเอง
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : [ภาพบันทึกหน้าจอ] [ภาพบันทึกหน้าจอ]
เนื้อหาของภาพบันทึกหน้าจอ : ครั้งหนึ่งที่โพสต์โปรโมตเกี่ยวกับ ‘หนังสือเทพเจ้าแห่งแม่น้ำลั่ว’ ในบัญชีทางการของนิตยสาร มีการเผยแพร่ภาพส่วนหนึ่งที่แม่นางเจี่ยนวาดซึ่งเป็นชุดภาพโปสเตอร์กันอย่างกว้างขวาง
การตอบรับของนักอ่านใต้ภาพนั้นคึกคักมาก เพียงแต่ในนั้นก็มีคนที่รู้สึกเสียดายไม่น้อย…
‘ฮือๆๆ พวกเด็กหอที่อยู่ได้แต่ในโรงเรียนอย่างเราๆ ออกไปซื้อที่ร้านหนังสือไม่ได้ โกรธชะมัดเลย’
‘แถวมหาวิทยาลัยไม่มีร้านหนังสืออ่า T_T’
‘เทศกาลต่อแถวแย่งกันซื้อหนังสือมาถึงอีกแล้ว จริงๆ เลย ตอนนี้ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นหนังสือของนักเขียนที่ชอบก็ไม่ได้ไปร้านหนังสือมานานมากแล้ว’
‘ไปต่อแถวช้าแล้วไม่ได้ซื้อนี่สิน่าสงสารที่สุดแล้ว…ครั้งก่อนไปแย่งกันต่อแถวซื้อหนังสือของโค่วเหวยก็ไม่ได้มา ต่อแถวกันสี่ห้าร้อยคน ร้านที่พวกเราไปมีหนังสือเข้าแค่สามร้อยกว่าเล่ม! โกรธมากที่ซื้อไม่ได้ แถมยังเสียเวลาอีกด้วย! ในอินเตอร์เน็ตสามารถซื้อได้ตามสะดวก แต่ก็ไม่อยากได้หนังสือช้ากว่าคนอื่นหลายวัน’
มีคอมเมนต์แนวนี้เต็มไปหมด
กลุ่มวัยเรียนบ่นว่าพักอยู่ที่หอไม่สามารถออกไปซื้อได้
กลุ่มวัยทำงานบ่นว่าเสียเวลาไปต่อแถวที่ร้านหนังสือ
คนที่ไปต่อแถวช้าแล้วไม่ได้ซื้อยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่…
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : สถานการณ์ทั้งหมดนี้สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการพรีออเดอร์ออนไลน์…เพราะพอโรงพิมพ์รวบรวมยอดทั้งหมดแล้วก็สามารถจัดส่งให้ทั้งผู้สั่งซื้อรายย่อยและตัวแทนจัดจำหน่ายได้เลย ดังนั้นผู้อ่านก็จะไม่ได้รับหนังสือช้า…
อวี๋เหยา : เพิ่งจะวางแผนตอนนี้ไม่ฉุกละหุกไปหน่อยเหรอ
ช้างที่บินได้ : ตอนนี้ข้อมูลทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ถ้าจะรับสั่งซื้อพรีออเดอร์ทางออนไลน์จริงๆ แค่เพิ่มข้อมูลนักเขียน ข้อมูลหน้าปก อย่างเร็วที่สุดพรุ่งนี้ก็ประกาศได้แล้ว ช้าที่สุดก็มะรืนนี้
ช้างที่บินได้ : แต่ลองทำครั้งแรกแบบนี้ แนะนำให้รวบรวมเคสของนิยายโดจินและดูว่าคนอื่นโปรโมตกันยังไง
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : เดี๋ยวฉันกินข้าวเย็นเสร็จ รถไฟใต้ดินน่าจะยังไม่ปิด ฉันจะกลับไปทำโอทีที่กอง บ.ก. ละกัน รีบทำก่อนดีกว่า
ช้างที่บินได้ : ฉันยังอยู่แถวสำนักพิมพ์ เดี๋ยวกลับไปช่วยเธอ
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : อ๊าๆๆ จริงเหรอ ดีๆๆ ทำไมเธอใจดีจังเลย
ช้างที่บินได้ : ไม่มีฝ่ายศิลป์คอยช่วย เธอจะลงมือทำมั่วๆ เอาเหรอ
เหมียวเหมียว : เอาแต่ทำตามคนอื่น เธอรู้จักกฎเกณฑ์และรูปแบบการพรีออเดอร์ทางออนไลน์ของนิยายโดจินดีพอหรือยัง @มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นเธอต้องรับผิดชอบนะ
เหมียวเหมียว : อยากทำโอทีกันเองนะ แต่ถึงยังไงโครงการนี้ก็เป็นเรื่องที่พวกเธอต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว
มือปืนไซเบอร์ที่ลิงเชิญมา : อืม ไม่ได้เรียกคุณมาสักหน่อย
อวี๋เหยา : ในเมื่อพวกเธอตั้งใจขนาดนั้น งั้นลองดูก็ได้ จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ต้องลองดูถึงจะรู้ สู้ๆ!
ชูหลี่วางโทรศัพท์มือถือลงแล้วเข้าไปทำอาหารในห้องครัว ต้มโจ๊กเนื้อง่ายๆ และหยิบผักดองในตู้เย็นที่ซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตก่อนหน้านี้ จากนั้นก็เรียกคนที่นั่งยองๆ เผาต้นฉบับเพื่อป้องกันไม่ให้คนเร่ร่อนมาขโมยความคิดของตัวเองอยู่นอกประตูเข้ามากินข้าว
โจ้วชวนเข้าบ้านล้างมือเรียบร้อย ชะโงกมองโต๊ะอาหารทีหนึ่งแล้วทำหน้าตาเบื่อหน่าย “ไม่มีเนื้อ”
ชูหลี่หยิบช้อนตักเนื้อชิ้นโตขึ้นมาจากโจ๊ก “นี่อะไรเอ่ย”
“ผมหิวมาทั้งวัน คุณจะให้ผมกินแค่โจ๊ก…เห็นผมเป็นขอทานงั้นเหรอ” เขาบ่นแต่ก็ยังนั่งลงอย่างเรียบร้อย ถือตะเกียบกำลังจะเอื้อมไปคีบเครื่องเคียง พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นหญิงสาวก้มหน้าก้มตากิน ทำลายล้างอาหารบนโต๊ะตรงหน้าจนหมดสิ้นไปในพริบตา
เนื่องจากโจ๊กเพิ่งต้มเสร็จจึงร้อนมาก ด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่เธอตักโจ๊กคำใหญ่เข้าปากอย่างรวดเร็วก็จะแลบลิ้นออกมาระบายความร้อนเหมือนสุนัข แล้วส่งเสียง “ฮู่ๆ ฮ่าๆ” พร้อมกับใช้มือช่วยพัด…
“…” โจ้วชวนวางตะเกียบลง “กินเร็วขนาดนั้น จะรีบไปเกิดใหม่เหรอ”
“ถ้าไม่รีบนี่ไม่ต้องพูดถึงเกิดใหม่เลยค่ะ อย่างน้อยๆ ศพฉันควรจะเย็นได้แล้ว” ชูหลี่ประคองชามขึ้นมาด้วยมือสองข้าง ซดโจ๊กคำสุดท้ายจนหมด คว้าทิชชูที่อยู่บนโต๊ะอาหารมาเช็ดปาก “เหล่าเหมียวบอกว่าถ้าตีพิมพ์ ‘หนังสือเทพเจ้าแห่งแม่น้ำลั่ว’ ได้เกินสามแสนห้าหมื่นเล่มจะยกตำแหน่งรอง บ.ก. ให้ฉัน ถึงเวลานั้นไม่ใช่ฉันที่จะบรรลุคนเดียว พวกคุณเองก็จะได้ติดสอยห้อยตามบรรลุไปด้วยกัน…”
ติดสอยห้อยตามบรรลุไปด้วยกัน?
นักบวชเต๋าตัวน้อยที่ไม่รู้ว่ามาจากยอดเขาไหนอย่างคุณคิดจะพาเซียนจิ้งจอกอย่างพวกเราขึ้นสวรรค์เก้าชั้นฟ้างั้นเหรอ
โจ้วชวนมองหญิงสาวที่เดินออกจากโต๊ะอาหารแล้วรีบวิ่งขึ้นข้างบน วิ่งเร็วเสียจนลื่นเกือบพลัดตกลงมาจากบันไดด้วยอาการใจหายใจคว่ำ…ขณะที่เธอกำลังงุ่มงามยื่นมือทั้งสองข้างคว้าราวบันไดไว้ ชายหนุ่มก็ยิ้มแล้วเอ่ยปาก
“แล้วยังไงล่ะ”
“ก็เลยจะลองใช้วิธีเปิดสั่งพรีออเดอร์ทางออนไลน์ดู ทำนองเดียวกับพวกนิยายโดจินเลยค่ะ ก่อนหน้านี้แม่นางเจี่ยนก็…ช่างมันเถอะ พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจ ต้องเป็น Mr. L ถึงจะรู้เรื่อง แต่คุณไม่ใช่ Mr. L นี่นา” ชูหลี่ลุกขึ้นยืนได้แล้ว จากนั้นก็โผล่หัวออกมาจากบันได “สรุปว่าจากนี้ไปให้คุณทำอะไรคุณต้องให้ความร่วมมือนะคะ ยอดตีพิมพ์ครั้งแรกสามแสนห้าหมื่นเล่มเลยนะ มากพอที่จะเอาชนะเจียงอวี่เฉิงชายหนุ่มข้างบ้านได้แล้ว…”
“คุณเลิกเอาเขามายั่วผมได้แล้ว”
“แต่คุณต้องเชื่อฟัง”
“ไม่”
“ฉันทำเพื่อคุณทั้งนั้นเลยนะคะ”
“ไปเลย”
เสียงวิ่งไปวิ่งมาชั้นบนดังตึงๆๆ ประตูห้องใต้หลังคาปิดลง เธอเริ่มค้นหาของทุกซอกมุมอยู่ข้างบน…ไม่นานเสียงนั้นก็หายไป ตอนที่โจ้วชวนกินโจ๊กได้ครึ่งชาม ชูหลี่ก็หอบเสื้อผ้าลงมาเข้าห้องน้ำ เมื่อโจ๊กของชายหนุ่มหมดชาม คนที่อยู่ในห้องน้ำก็เดินออกมาและนั่งลงบนโซฟาพลางสวมถุงเท้า ปลายผมที่สั้นยังชื้นอยู่เล็กน้อย…
“คืนนี้คุณช่วยพาเอ้อร์โก่วออกไปเดินเล่นหน่อยนะคะ” ชูหลี่สวมถุงเท้าไปด้วยพูดไปด้วย “เดี๋ยวฉันต้องกลับไปที่กอง บ.ก. อาจจะอยู่ทั้งคืน คงไม่กลับ…”
ท่าทางของชายหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนเตรียมตักโจ๊กชามที่สองชะงักไป เขาหันกลับมามองก็เห็นขาของคนที่นั่งอยู่บนโซฟานั้นขาวกระจ่างจนแสบตา
“ทั้งคืนเลยเหรอ ทุ่มเทขนาดนั้นเลย ไม่ได้ค่าโอทีสักหน่อย”
สาวน้อยที่นั่งอยู่บนโซฟายกขาขึ้นสูงเพื่อสวมถุงเท้า จากนั้นก็ทิ้งขาลงบนโซฟาจนเกิดเสียงดัง “แล้วทำเพื่อใครกันล่ะ!!!!”
“ไม่ใช่เพื่อตำแหน่งรอง บ.ก. หรือไง”
ชูหลี่ยืนบนโซฟาด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย…เท้าเอวด้วยท่าทางของคนที่รู้สึกว่าในที่สุดก็สูงกว่าชายหนุ่มตั้งครึ่งศีรษะ แถมยังเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบเสียด้วย ก่อนใช้นิ้วชี้ไปที่ชายหนุ่ม
“เพื่อคนบ้าบางคนที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี คนอื่นต้องทำโอทีทั้งคืนเพื่อตัวเองยังมาพูดจาประชดประชันอีก!”
“คุณว่าใครบ้า”
“หึ”
หญิงสาวทำเสียงหึแล้วก็กระโดดลงจากโซฟา คว้ากระเป๋าผ้าขึ้นมาแล้วรีบไปใส่รองเท้าตรงโถงทางเข้า เจ้าเอ้อร์โก่วกระดิกหางตามมา เดินไปส่งเธอจนถึงนอกบ้าน…เมื่อเธอเดินจากไปไกลแล้ว จึงกลับเข้ามาโดยใช้จมูกดันประตูให้เปิดออก จากนั้นก็เห็นว่าเจ้านายของมันยังยืนอยู่ที่โต๊ะอาหารในท่าเดิม…
คนกับสุนัขจ้องตากันครู่หนึ่ง
“มองอะไรเล่า หรือว่าจะให้ฉันไปทำโอทีเป็นเพื่อนเธอ ทั้งคืนเลยนะ นี่ตายได้เลยนะ!”
เอ้อร์โก่วละสายตาไป
“หึ!”
ชูหลี่กลับไปที่กอง บ.ก. ตอนสามทุ่มครึ่ง อาเซี่ยงเริ่มลงมือทำข้อมูลพรีออเดอร์ทางออนไลน์แล้ว…ทั้งกอง บ.ก. มีเพียงชูหลี่และอาเซี่ยงสองคน ชูหลี่เดินไปวางกระเป๋าลงตรงที่นั่งของตัวเองและกล่าวขอบคุณอาเซี่ยงด้วยความเกรงใจ
“ไม่เป็นไร” อาเซี่ยงกำลังคลิกเม้าส์และไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา “ก่อนจะมาอยู่สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ย ตอนอยู่ที่บ้านฉันมักจะนั่งดูซีรี่ส์ทั้งคืนไม่หลับไม่นอนอยู่แล้ว”
ขณะนี้มีเพียงเธอสองคนเท่านั้น ประโยคที่อาเซี่ยงพูดจึงยาวพอๆ กับตัวอักษรที่เธอพิมพ์ลงบนอินเตอร์เน็ต
ชูหลี่ยิ้มออกมาแล้วนั่งลงบนที่นั่งของตัวเอง ถูมือไปมาเตรียมตัวลงมือทำงาน…เช่น
อันดับแรก รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการพรีออเดอร์ออนไลน์ของนิยายโดจินในช่วงเวลาระยะใกล้ๆ นี้ ซึ่งมีเยอะมากในเวยป๋อ ส่วนใหญ่มักจะแนบมากับภาพขนาดใหญ่ เนื้อหาประกอบไปด้วยข้อมูลพื้นฐาน เช่น ภาพจำลองรูปเล่มหนังสือ ข้อมูลของแถม การออกแบบปกนอกปกใน จำนวนคำ ข้อมูลนักเขียน รายละเอียดหน้าปก กระดาษที่ใช้ ราคาขาย เป็นต้น…ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้อ่านได้รู้ว่าพวกเขาจะได้อะไรจากการควักกระเป๋าจ่ายเงินในครั้งนี้บ้าง
อันดับต่อมา โดยทั่วไปการพรีออเดอร์ทางออนไลน์มักจะมีของพรีเมี่ยม ซึ่งเป็นของแถมพิเศษที่นอกเหนือจากรายการที่กำหนด อาจไม่รวมอยู่ในหนังสือ แต่จะมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น สั่งซื้อภายในห้าสิบเล่มแรกหรือสั่งซื้อภายในสิบนาทีแรกจะได้รับของพรีเมี่ยมที่มีจำนวนจำกัด ของพรีเมี่ยมนี้ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นสิ่งของประเภทใด…ดังคำกล่าวที่ว่าของหายากคือของมีค่า ดังนั้นจึงกระตุ้นให้ผู้อ่านแย่งกันซื้อมากขึ้น
สุดท้ายก็ศึกษาวิธีการโปรโมต เวยป๋อซึ่งเป็นช่องทางที่รวบรวมทั้งแฟนคลับจำนวนมาก ตลอดจนนักอ่านขาจรไว้โดยไม่มีการแบ่งแยก ถ้านำจุดเด่นตรงนี้มาใช้ประโยชน์ก็น่าจะได้ผลลัพธ์อย่างคาดไม่ถึง ในเวลานี้การสุ่มผู้โชคดีจากการแชร์โพสต์ในเวยป๋อถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับการโปรโมตและกระจายข่าวสาร…
ของพรีเมี่ยมจะเป็นอะไรยังรอสรุปอยู่
สุ่มผู้โชคดีจากการแชร์โพสต์ในเวยป๋อจะให้อะไรเป็นรางวัลก็ยังรอสรุปอยู่
หลังจากที่ชูหลี่ดูตัวอย่างมาสิบกว่ารายการก็ลองลิสต์ตัวเลือกของพรีเมี่ยมออกมามากมาย เช่น ตอนพิเศษ ภาพลายเซ็นของนักเขียน ต้นฉบับของนักเขียน เป็นต้น
แต่ที่เด็ดที่สุดคงไม่เกินไปกว่าสาวๆ กลุ่มหนึ่งที่ขายอัลบั้มภาพถ่ายแถมของพรีเมี่ยมเป็นกางเกงใน
ชูหลี่ทำหน้าเขินอาย แม้จะพึมพำว่า “มีคนอยากได้กางเกงในของโจ้วชวนไหมนะ” แต่ก็รีบข้ามมันไปพร้อมกดรายงาน ‘ข้อมูลลามกอนาจาร’ เพราะการรักษาสภาพแวดล้อมบนอินเตอร์เน็ต ทุกคนมีส่วนต้องรับผิดชอบร่วมกัน
…คืนนี้เป็นคืนที่ยากจะหลับได้จริงๆ
โชคดีที่ชูหลี่เคยอยู่ในแวดวงนิยายโดจินมาก่อน จึงรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง ดังนั้นเพียงแค่รวบรวมข้อมูลเพื่อทำแผนคร่าวๆ ให้อวี๋เหยาดูก็โอเคแล้ว แต่ที่ลำบากกลับเป็นอาเซี่ยง เธอต้องศึกษาภาพโปรโมตขนาดยาวที่กลุ่มนิยายโดจินใช้กัน แล้วก็ทำภาพคล้ายๆ กันออกมา ในบรรดางานทั้งหมดสิ่งที่ยากที่สุดคือการทำภาพจำลองรูปเล่มหนังสือ…
การทำภาพจำลองเป็นการทำให้ผู้อ่านรู้ว่าหนังสือมีรูปเล่มเป็นอย่างไร…
เจ้าสิ่งนี้ ทำให้พวกเธอต้องอดตาหลับขับตานอนทำกันทั้งคืน
ชูหลี่พูดขึ้นมา “ ‘หนังสือเทพเจ้าแห่งแม่น้ำลั่ว’ รายละเอียดหน้าปกคือเป็นปกแบบหุ้ม ใช้กระดาษเคลือบแบบพิเศษลายนูนกันแสงยูวี พิมพ์สี่สี ปกหลังกันแสงยูวีแต่ไม่พิมพ์ลาย สายคาดหนังสือเป็นกระดาษพิเศษสีทองชนิดเดียวกับหน้าปก ทั้งเล่มตีพิมพ์แบบรวมหน้าในกระดาษแผ่นใหญ่แผ่นเดียว ปกในเป็นกระดาษการ์ดหน้าเดี่ยว พิมพ์สี่สี กระดาษด้านในเป็นกระดาษเบาขนาดแปดสิบแกรม”
“…โอ้ นี่เธอกำลังพูดภาษาอะไร! แค่บอกมาเลยว่าหน้าตาหนังสือเป็นยังไง!”
“…สุดยอดไหม ฉันท่องอยู่นานเลยอยากโชว์สักหน่อย…ที่จริงตัวหนังสือเป็นลายฉลุ ปกนี้เธอออกแบบเองนี่นา จะมาถามฉันทำไม”
“ฉันรู้แล้วล่ะน่า ไปๆๆ อย่ามาบังแสงตรงนี้…ถ้ามีเวลาก็ลองไปถามโจ้วชวนดูนะว่าจะยินดียอมส่งกางเกงในของตัวเองมาให้ไหม โพสต์เล็กๆ ของคนอื่นที่มีคนติดตามหลักร้อย แค่ส่งกางเกงในก็สามารถแชร์ต่อได้เป็นหลักหมื่น ไม่แน่ว่าของโจ้วชวนอาจแชร์ต่อทะลุไปถึงแสนกว่าครั้งได้”
“…โอเคๆๆ ฉันไปก็ได้ เรื่องส่งกางเกงในช่างมันเถอะ”
“เธอกลัวว่าจะทนไม่ไหวใช่ไหมล่ะ”
“หลังจากบอกเรื่องนี้ วินาทีต่อมาเขาคงพูดโดยไม่ลังเลเลยว่าผมส่งหัวสุนัขไปกองบรรณาธิการน่าจะเหมาะกว่า คุณคิดว่ายังไง”
อาเซี่ยงหัวเสียงดัง “ฮ่าๆ”…
วันนี้เป็นครั้งแรกที่ชูหลี่อยู่ทำโอทีที่สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยทั้งคืน
เธอเอาภาพจำลองรูปเล่มหนังสือและแผนการพรีออเดอร์ทางออนไลน์ไปวางไว้บนโต๊ะของอวี๋เหยา ขณะที่ท้องฟ้าข้างนอกกำลังสว่าง
ชูหลี่ยืมแปรงสีฟันแบบใช้แล้วทิ้งมาจากฝ่ายการตลาดที่มักจะทำโอทีอยู่บ่อยๆ มาสองอันให้อาเซี่ยงและตัวเอง จากนั้นก็นอนฟุบบนโต๊ะไปสามชั่วโมง…จนกระทั่งตื่นเพราะเสียงเม้าส์ที่ได้ยินอยู่ข้างหู จึงได้รู้ว่าที่แท้ถึงเวลาเข้างานแล้ว
พวกอวี๋เหยาก็มากันแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครปลุกเธอ…ขณะนั้นอวี๋เหยากำลังดูแผนการพรีออเดอร์ทางออนไลน์และภาพจำลองรูปเล่มหนังสือที่ชูหลี่จัดเตรียมเมื่อคืนอยู่ที่โต๊ะ
ชูหลี่หาวแล้วล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก็พบว่าเทพเจ้าแห่งโรคระบาดบางคนส่งข้อความติดต่อกันมามากมายที่ยังไม่ได้อ่าน…
ห้าทุ่ม
โจ้วชวน : รถไฟใต้ดินปิดแล้ว
เที่ยงคืน
โจ้วชวน : คืนนี้คุณคงต้องโบกรถกลับมานะ จากสำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยมาถึงบ้านประมาณร้อยกว่าหยวน
ตีหนึ่งครึ่ง
โจ้วชวน : ยังอยู่ที่กอง บ.ก. เหรอ ทุ่มสุดชีวิตเพื่อตำแหน่งรอง บ.ก. จริงๆ
ตีสองครึ่ง
โจ้วชวน : กินโจ๊กไม่อิ่ม ผมหิวอีกแล้ว วันหลังถ้าคุณยังทำโจ๊กเป็นมื้อเย็นอีก ผมจะทุบคุณให้จมดิน!
โจ้วชวน : ผมจะสั่งอาหารนะ!
โจ้วชวน : คุณเอาไหม
ตีสามสี่สิบ
โจ้วชวน : อาหารที่สั่งมาอร่อยจริงๆ
ตีสามห้าสิบห้า
โจ้วชวน : สัญญาณแห่งความตายกำลังมุ่งหน้าไปหาคุณ
ตีสี่สิบห้า
โจ้วชวน : ทำไมไม่ตอบ ตายแล้วเหรอ
โจ้วชวน : ไม่ใช่ว่าหลับไปแล้วนะ
โจ้วชวน : บ้าจริง ที่บ้านมีเตียงไม่นอน ไปนอนที่บริษัทกลางดึก เป็นเอามาก!
ตีสี่ครึ่ง
โจ้วชวน : พรุ่งนี้คุณคงจะไม่ทำงานต่อจนถึงเย็นแล้วค่อยกลับใช่ไหม
โจ้วชวน : เสร็จแล้วหรือยัง
โจ้วชวน : กำลังอยากออกไปซิ่งรถตอนกลางคืน เดี๋ยวผมซิ่งไปรับคุณที่สำนักพิมพ์หยวนเยวี่ยนะ?
ตีห้าครึ่ง
โจ้วชวน : เสร็จหรือยังล่ะ
โจ้วชวน : พิมพ์นิยายอยู่
ตีห้าสี่สิบห้า
โจ้วชวน : พิมพ์นิยายค้างไว้
หกโมงเช้า
โจ้วชวน : ยังคงพิมพ์ต่อ
โจ้วชวน : ฟ้าจะสว่างแล้ว
หกโมงยี่สิบ
โจ้วชวน : ฟ้าจะสว่างแล้วจริงๆ นะ นี่ฤดูหนาวไม่ใช่เหรอ ทำไมฟ้าสว่างเร็วจัง
“…”
ชูหลี่วางโทรศัพท์มือถือลง…
นี่เขียนบันทึกการนอนดึกเหรอ
ขาดแค่ลุกขึ้นไปฉี่แล้วตะโกนรายงานตัวดังๆ แล้วนะ
มีเวลานอนไม่นอน ดีดอยู่นั่นแหละ ฉันต่อสู้ดิ้นรนเพื่อสามแสนห้าหมื่นเล่มให้คุณทั้งคืน โธ่เอ๊ย พิมพ์นิยายได้กี่ตัวอักษรกันล่ะ!!
ขณะที่เธอดูโทรศัพท์มือถือก็มีเสียงคนหัวเราะ…ขณะนั้นอาเซี่ยงถือชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตาคล้ำเป็นหมีแพนด้าเดินผ่านไป
“หัวเราะอะไรยะ อดหลับอดนอนจนเบลอไปแล้วเหรอ…แม่เจ้าโว้ย ฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะตั้งหลายชั่วโมง คอฉันจะหักอยู่แล้ว”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 12 ก.พ. 66 เวลา 12.00 น.
Comments
comments
No tags for this post.