ฉงหรงตอบด้วยน้ำเสียงเสียดสี “เขาบอกว่า ‘ฉงหรงเอ๊ย หุ้นส่วนของเธอคนนั้นมีแผนเปลี่ยนอาชีพเป็นนักบัญชีหรือเปล่า ดูเขาคำนวณละเอียดยิบแบบนั้น ผมว่าเขามีศักยภาพทำได้นะ’ ตอนนั้นฉันตั้งใจช่วยพี่ยืนยันเป็นพิเศษ ตอบผู้เฒ่าจ้าวไปว่า ‘ลุงจ้าวคะ ถานซือเจ๋อไม่ได้มีแผนเปลี่ยนอาชีพเป็นนักบัญชี เขาเป็นนักบัญชีมาแต่แรกแล้วเปลี่ยนสายมาเป็นทนายความทีหลังต่างหาก’ ”
ถานซือเจ๋อถูกฉงหรงแซะจนหน้าหงิก ลุกขึ้นยืนเดินไปถึงข้างประตูก็หยุดแล้วหันมาพูดเสียงเขียว “ไปเป็นนักบัญชีจริงๆ ก็ได้! จะไปสอบเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตละ”
ฉงหรงผายมือทำท่า ‘เชิญ’ ทำเอาถานซือเจ๋อหัวเสียเดินออกไป
“รุ่นพี่!” ฉงหรงตะโกนเรียกถานซือเจ๋อ “ฉันวางแผนว่าอีกสองปีจะเปลี่ยนไปทำสายไม่ว่าความ ได้ยินว่าตอนนี้พี่รับงานบริษัทในตลาดหุ้น ช่วยสอนงานฉันด้วยนะ”
“ทำไมล่ะ เป็นทนายความหญิง ทำคดีอาญาใครๆ ก็เกรงขาม ใครๆ ก็กลัว เธอไม่เห็นหรือ ทุกครั้งที่เธอขึ้นว่าความ แม้แต่หัวหน้าคณะผู้พิพากษายังให้เกียรติมากกว่าปกติ”
ฉงหรงมองเขา “พี่ไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะค่าจ้างทนายความคดีอาญาสูงสินะ ความจริงงานคดีอาญาก็มีเยอะแยะที่ไม่ต้องขึ้นว่าความ เช่นปีที่แล้วโปรเจ็กต์ป้องกันความผิดทางอาญาของบริษัทนั้น พี่โกยเงินไปเยอะเลยไม่ใช่หรือไง”
ถานซือเจ๋อติดกับดัก “เธอก็เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนระดับสูงนะ ฉันได้กำไรก็เท่ากับเธอได้กำไร!”
เธอรวบปากแหช้าๆ “พี่ยังจำได้เหรอว่าฉันเป็นหุ้นส่วน”
ถานซือเจ๋อเถียงไม่ออก “เธอคือทนายมือทองด้านคดีอาญาของสำนักงานเรา เธอไม่ทำไม่ได้นะ”
“พี่มาทำเองสิ พี่ก็เติบโตมาจากสายคดีอาญา”
“ไม่ได้หรอก น้องฉงจ๋า หัวใจน้อยๆ ของฉันเปราะบางมาก เธออย่าให้ฉันต้องไปสัมผัสกับสิ่งดำมืดมากๆ เลยนะ ฉันอาจปล่อยวางทุกสิ่งในโลกีย์ หนีไปบวชชี!”
“พี่ออกบวช อย่างมากก็เป็นได้แค่หลวงจีน”
“ฉันยังชอบผู้หญิง”
ฉงหรงคร้านจะสนใจเขา
“จะเปลี่ยนไปทำสายไม่ว่าความจริงๆ หรือ” ถานซือเจ๋อได้รับคำยืนยันก็ส่ายหน้าถอนหายใจแล้วเดินออกไป “เฮ้อ ทนายความหญิงที่รับว่าความคดีอาญาน้อยไปอีกคน…”
ประตูสำนักงานปิดแล้ว ฉงหรงจึงหันมองเอกสารชุดหนึ่งบนโต๊ะ ตั้งแต่เธอเข้าวงการมาก็ไม่รับคดีทางการแพทย์ คนในวงการรู้กันดี ความจริงคดีทางการแพทย์มีโอกาสชนะง่าย ด้วยกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันกับสภาพสังคม บุคลากรทางการแพทย์จัดว่าเป็นกลุ่มอ่อนแอ ไม่ว่าจะเป็นความผิดพลาดทางการรักษาหรือไม่ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีโอกาสชนะ โรงพยาบาลจะชดใช้เงินให้เพื่อยุติเรื่อง เธอไม่สามารถห้ามคนอื่นรับคดี แต่อย่างน้อยเธอบอกตัวเองไม่ให้รับคดีได้ เพราะว่า…เวินเซ่าชิงเป็นหมอ เขาเป็นคนที่มีชีวิตอยู่บนคมมีด เสี่ยงอันตรายทุกวัน พลาดเมื่อไหร่…
ทุกครั้งที่เธอเห็นคดีทางการแพทย์ เธอจะรู้สึกต่อต้านจากก้นบึ้งหัวใจ ไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
ฉงหรงทำงานล่วงเวลาอยู่ในสำนักงานจนพ้นชั่วโมงเร่งด่วนค่อยขับรถกลับบ้าน หลังจอดรถในที่จอดรถของชุมชนคอนโดมิเนียมเสร็จแล้วจึงเห็นรถของเวินเซ่าชิงจอดเยื้องกับรถของเธอ เธอนั่งอยู่ในรถ จ้องมองรถคันนั้น เกิดความรู้สึกเหมือนหนีเคราะห์ร้ายไม่พ้น
ฉงหรงเดินในซูเปอร์มาร์เก็ตได้แค่ครึ่งรอบก็เจอเวินเซ่าชิงเหมือนที่คิดไว้ไม่ผิด