เขากำลังก้มหน้ามองวันผลิตของโยเกิร์ตที่ถืออยู่ในมือ รถเข็นข้างๆ มีผักผลไม้หลายถุง
ฉงหรงเคยเจอหนุ่มรูปงามมาไม่น้อย หนุ่มรูปงามส่วนใหญ่มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จอยู่ในวงอาชีพของตัวเอง แต่ผู้ชายที่ชอบดูแล ชอบทำงานบ้าน…เธอเจอมาน้อยมากๆ
เขาคงจะเพิ่งเลิกงาน ไม่ได้ใส่ชุดอยู่บ้านอย่างที่เคยใส่หลายครั้งก่อน
ฉงหรงยืนอยู่กับที่ กำลังลังเลว่าจะเดินหลบไปอีกทางหรือเข้าไปทักทาย เวินเซ่าชิงก็เงยหน้า
คราวนี้เธอได้แต่แข็งใจเดินเข้าไปทักทาย “ไฮ…”
ฉงหรงเพิ่งยกมือทักไปก็ชะงักค้างกลางอากาศ เพราะเธอไม่รู้ว่าจะเรียกเขาอย่างไรดี
ศาสตราจารย์เวิน เรียกเขาแบบนี้ดูแก่ไป…เรียกบอสตามจงเจิน ก็ประหลาด…เรียกชื่อเวินเซ่าชิงตรงๆ ก็ดูเหมือนไม่ค่อยมีมารยาท
หลังจากชั่งใจอยู่หลายวินาที เธอก็ตัดสินใจเด็ดขาดเรียก “หมอเวิน”
การเรียกแบบนี้ประกายตาเวินเซ่าชิงฉายแววตกใจวูบหนึ่ง แล้วถูกแววขำขันเข้าแทนที่อย่างรวดเร็ว เหมือนตั้งใจเอาคืน เขาเรียกเลียนแบบเธอ “บังเอิญมาก คุณทนายฉง”
ฉงหรงฟังแล้วหน้าแดงวูบ เขาเจตนาเลียนแบบเธอแน่นอน! คุณทนายฉงก็คุณทนายฉงสิ! ก็ไม่ได้เรียกผิดนี่นา!
เธอขยับไปยืนอยู่หน้าตู้แช่แล้วเลือกโยเกิร์ต ดูไปดูมาก็พบว่ายี่ห้อที่ตัวเองกินอยู่ประจำเหลือขวดสุดท้ายแล้ว และขวดนั้นก็อยู่ในมือเวินเซ่าชิงนั่นเอง
นอกจากฉงหรงจะมีนิสัยชอบเจาะลึกถึงรายละเอียดแล้ว ยังมีนิสัยยึดติดอีกด้วย ยี่ห้ออื่นเธอกินไม่ได้ เธอจึงหยิบขึ้นมาขวดหนึ่งส่งให้เขา แกล้งแนะนำว่า “ยี่ห้อนี้ก็อร่อยนะ”
เวินเซ่าชิงมองเธอนิ่งๆ รับเอาโยเกิร์ตในมือหญิงสาวมาแล้ววางลงในรถเข็นพร้อมกับขวดที่ถืออยู่เมื่อครู่
ฉงหรงห้ามเขาเอาไว้ “อย่าซื้อเยอะ เก็บไว้นานแล้วไม่สด ซื้อขวดเดียวก็พอ”
ชายหนุ่มส่งขวดที่เธอแนะนำคืนให้ ฉงหรงทำท่าไม่อยากรับ
เวินเซ่าชิงประหลาดใจเล็กน้อย “เป็นอะไรไป”
เธอชี้ไปที่ในรถเข็นของเขา “อยากได้ขวดนั้น”
เวินเซ่าชิงหันหน้ามามอง ก่อนจะหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น “อ่อ คิดแผนได้ดี”
ฉงหรงดึงโยเกิร์ตขวดนั้นจากมือชายหนุ่มแล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์เก็บเงิน โดยมีเวินเซ่าชิงตามติดอยู่ข้างหลัง
หลังออกจากซูเปอร์มาร์เก็ต เวินเซ่าชิงมองดูเธอไปเอากระเป๋าเดินทางจากตู้ฝากแล้วก็ยังยิ้มอ่อนโยน แต่คำถามยังคงวอนโดนทุบ “ไม่นอนสำนักงานทนายความต่อแล้วหรือ”
ฉงหรงปั้นสีหน้าเรียบเฉย แต่งเรื่องไปเรื่อย “ตอนกลางคืนสำนักงานทนายความปิดเครื่องทำความร้อน หนาวมาก”
อยู่ดีๆ เวินเซ่าชิงก็หัวเราะ “กินอาหารค่ำด้วยกันมั้ย”
คงเพราะว่ารอยยิ้มของเขาดูดีเกินไป ฉงหรงจึงถูกมอมยา ตอนที่ยืนอยู่หน้าประตูบ้านเขา รอเขาเปิดประตู ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกอยากเปลี่ยนใจ
หน้าหนาวฟ้ามืดเร็ว พอเปิดประตูก็เห็นเงาดำพุ่งเข้ามา ฉงหรงรีบหลบไปอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม
เวินเซ่าชิงหัวเราะเบาๆ พลางเปิดไฟ เขาก้มตัวลูบหัวรั่งอี๋รั่ง “มันฉลาดว่านอนสอนง่าย ไม่กัดคน”
ฉงหรงยังคงหลบอยู่ที่ข้างประตู “ฉันรู้ว่ามันไม่กัดคน…”
เวินเซ่าชิงกระแอมเบาๆ กลั้นหัวเราะ “รั่งอี๋รั่ง ไปเล่นที่ระเบียง”