เมื่อทั้งสองคนได้ยินเข้าก็ตกใจอยู่บ้าง ต้องเข้าใจว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างพอลล่าปกติจะไม่มีแผนกออกแบบอยู่ในต่างประเทศ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ”
“เพิ่งจะเข้ามา ยังไม่ได้เปิดตัวออกไป” ชายหนุ่มชี้ไปที่ชายอีกคนที่สวมเสื้อเชิ้ตของบริษัทพอลล่าและสวมแว่นดำอย่างภูมิอกภูมิใจ “นั่นคือคุณเหยาซิงโจวซีเนียร์ดีไซเนอร์ของพวกเรา เขาเคยได้รางวัลระดับโลกมาแล้ว พวกเธอต้องระวังเขาหน่อยนะ”
เมื่อเห็นโจวเชี่ยนกับฉินย่าหนานหน้าซีดเผือด ชายหนุ่มจึงหยุดไว้เพียงเท่านี้แล้วเปลี่ยนเรื่อง “ดาวรุ่นเราล่ะ เธอก็เข้ารอบมาเหมือนกันนี่”
เมื่อได้ยินคำว่า ‘ดาวรุ่น’ โจวเชี่ยนกับฉินย่าหนานก็หันมามองตากัน ในแววตามีความรู้สึกสะใจอยู่ลึกๆ “เข้ารอบแล้ว ตอนนี้เซียวเซียวสวยกว่าเมื่อก่อนอีก อีกสักพักนายเห็นก็อย่าตกใจล่ะ”
“พวกแกเข้ามากันแต่เช้าเชียว”
เสียงของเซียวเซียวดังขึ้นจากทางด้านหลังในเวลานั้นพอดี ทั้งสามคนจึงหันกลับไปมอง โจวเชี่ยนพลันหน้าบิดเบี้ยวทันที
ผมสีน้ำตาลอมทองที่ดัดเป็นลอนใหญ่ช่วยปิดแก้มใหญ่ๆ ไว้ได้อย่างพอเหมาะ การแต่งหน้าดึงจุดเด่นไปอยู่ที่ดวงตาซึ่งมีขนตางอนงาม การเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำและตื่นเช้าทำให้ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด เมื่อเทียบกับดีไซเนอร์ที่มักจะทำงานโต้รุ่งจนขอบตาดำคล้ำ เซียวเซียวดูสดใสมีชีวิตชีวากว่ามาก
“เซียวเซียว ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” ชายหนุ่มรีบเข้าไปจับมือเซียวเซียวเป็นการทักทาย
ทั้งสองทักทายกันสองสามประโยค บอกสถานะของตัวเองในตอนนี้ เมื่อรู้ว่าชายหนุ่มทำงานอยู่ที่บริษัทพอลล่าประเทศจีน เซียวเซียวก็แสดงความยินดีด้วยอย่างสุภาพหลายประโยค ฝ่ายชายจึงยิ่งรู้สึกลำพองขึ้นอีก แล้วก็อดที่จะอวดเหยาซิงโจวอีกครั้งไม่ได้
สองคนพูดคุยกันด้วยความสนุกสนาน ทิ้งโจวเชี่ยนและฉินย่าหนานให้ยืนเก้ออยู่ด้านข้าง
ในที่สุดโจวเชี่ยนก็ยืดอกใหญ่ๆ เข้ามา “เซียวเซียว หน้าแกดีกว่าหลายวันก่อนหน้านี้ ไปฉีดยาทำให้หน้าผอมมาใช่ไหม”
โจวเชี่ยนเป็นคนมีน้ำเสียงค่อนข้างหนัก พอพูดออกมาก็เหมือนแดกดัน ทว่าพวกเธอเรียนมาด้วยกันถึงสี่ปี เซียวเซียวจึงชินกับวิธีการพูดแบบนี้ของอีกฝ่ายแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจและล้อเล่นกลับไปว่า “หน้าอกแกก็ใหญ่กว่าเมื่อหลายวันก่อนไม่น้อยนะ ไปยัดซิลิโคนมาหรือเปล่า”
หน้าอกใหญ่เป็นสิ่งที่ผู้หญิงหลายคนต้องการ แต่เมื่อมาอยู่กับโจวเชี่ยนกลับกลายเป็นปมด้อย นี่จึงทำให้เธอโมโหจนเดือดขึ้นมา “หน้าอกใหญ่แล้วจะทำไม ดีกว่าที่มองแทบไม่เห็นแบบของเธอ ยังกับลูกเกดติดผนังอย่างนั้นแหละ”
ประโยคที่พูดออกมาไม่น่าฟังอย่างมาก เหมือนเป็นการดูหมิ่นแบบต่ำๆ ซึ่งเสียงของโจวเชี่ยนก็ดังมากจนดึงดูดสายตาของคนในบริเวณนั้นให้พากันหันมามอง
ชายหนุ่มเพียงคนเดียวในที่นั้นทำอะไรไม่ถูก เขาเพียงตั้งใจเดินมาเพื่อจะโอ้อวดหน้าที่การงานเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมาอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบของพวกผู้หญิง จึงหัวเราะแห้งๆ แล้วบอกว่าตัวเองมีธุระขอตัวไปก่อน
“แกเป็นบ้าหรือไง” เซียวเซียวพูดด้วยเสียงเย็นๆ เปลี่ยนกระเป๋าถือไปไว้มือซ้ายเพื่อให้มือขวาที่มีแรงตบคนว่างเตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์
“อย่าทะเลาะกันสิ อย่าทะเลาะกัน” ฉินย่าหนานเข้าไปห้ามโดยดึงมือของเซียวเซียวเอาไว้
เซียวเซียวสะบัดมือของฉินย่าหนานออกและถลึงตาใส่โจวเชี่ยน ระหว่างพวกเธอทั้งสามคนพลันตึงเครียดขึ้นมา
“เซียวเซียว” เหลียงจิ้งเหยาสะพายกระเป๋าใบใหญ่เดินเข้ามา เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยดีจึงรีบพุ่งเข้ามาแล้วผลักฉินย่าหนานออกไปอย่างแรง “นี่จะทำอะไร!”
แม้ว่าเหลียงจิ้งเหยาจะรูปร่างเล็กแต่แรงเยอะมาก เธอผลักฉินย่าหนานจนเซออกไป