“ทำไมผลงานปีนี้ถึงได้แย่นัก” โจวไท่หรานขมวดคิ้วหลังจากมองดูใบตอบรับจากทางคณะกรรมการจัดการแข่งขัน การแข่งขันการออกแบบระดับประเทศเป็นโอกาสที่ดีในการประชาสัมพันธ์ บริษัทแอลวายเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจออกแบบเสื้อผ้าแต่กลับมีคนเข้ารอบเพียงสองคน ช่างน่าขายหน้าเสียจริงๆ
“การแข่งขันการออกแบบนี้พูดกันตามตรงเลยก็คือการแข่งขันการออกแบบของพวกวัยรุ่น จำกัดอายุของผู้สมัคร ดีไซเนอร์ระดับซีเนียร์อายุเลยสามสิบห้าไปแล้วทั้งนั้น ส่วนคนที่อายุยังไม่เกินก็เข้าแข่งขันไปเมื่อคราวที่แล้ว ท่านประธานสบายใจได้ค่ะ บริษัทอื่นก็ผ่านเข้ารอบไปไม่เยอะ ผู้ที่ผ่านรอบคัดเลือกเข้าไปได้ทั้งหมดมีเพียงสามสิบคนเท่านั้น” เลขาฯ เห็นโจวไท่หรานโมโหจึงรีบอธิบาย
“ทำไมถึงน้อยอย่างนี้” โจวไท่หรานรู้สึกผิดคาด เขาจำได้ว่าการแข่งขันเมื่อคราวที่แล้วมีผู้เข้ารอบเป็นหลักร้อย
“ปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกา เดิมทีคนที่สมัครก็ไม่มากเท่าไหร่ แล้วยิ่งรอบตัดสินยังมีการถ่ายทอดสดอีก การคัดเลือกจึงเข้มงวดมาก” เลขาฯ อธิบายตามความเข้าใจ บริษัทแอลวายเป็นกรรมการในการแข่งขันนี้ด้วย เธอจึงเข้าใจเรื่องราวเป็นอย่างดี
โจวไท่หรานจับไปที่คริสตัลตัวอักษรแอลวายที่อยู่บนโต๊ะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินออกไปที่ฝ่ายออกแบบโอตกูตูร์
“อเดอลีน ผมมีเรื่องจะปรึกษา” โจวไท่หรานยิ้มจนตาหยีพลางเดินเข้าไปข้างๆ อเดอลีน
“เรื่องอะไร” อเดอลีนเอ่ยปากถามทั้งที่ยังก้มหน้าเย็บผ้าบนโต๊ะต่อไป
“การแข่งขันการออกแบบบริษัทเรามีคนเข้ารอบแค่สองคน ผมอยากจะขอให้คุณช่วยเป็นที่ปรึกษาแนะนำพวกเธอสักหน่อย” โจวไท่หรานยิ้มจนนัยน์ตารูปเมล็ดท้อโค้งลง สายตาเต็มไปด้วยความคาดหวังมองไปที่หลินซือหย่วนซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง “พร้อมกันนั้นก็ต้องการความช่วยเหลือจากพี่หย่วนด้วยเช่นกัน”
“อย่ามองฉันแบบนี้นะ” หลินซือหย่วนยิ้มออกมา “จิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างนายลองถ้าทำท่าแบบนี้แล้วใครจะไปปฏิเสธนายได้ลง”
อเดอลีนเอาเข็มปักไปที่หุ่นแล้วพูดอย่างไม่เห็นด้วย “การแข่งขันเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ถ้าคุณกับฉันยื่นมือเข้าไปยุ่ง มันก็ไม่ยุติธรรมกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่น”
“ไม่ได้ให้พวกคุณช่วยพวกเธอทำอะไรหรอก เพียงแค่เป็นผู้แนะนำเท่านั้นเอง ให้คำแนะนำตอนที่พวกเธอต้องการความช่วยเหลือเท่านั้นก็พอแล้ว”
บริษัทอื่นๆ ก็ทำแบบนี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้บริษัทแอลวายเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปจึงไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเลย แต่สองปีนี้มีดีไซเนอร์ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด และการแข่งขันเกี่ยวพันกับหน้าตาของบริษัท โจวไท่หรานจึงไม่อาจนิ่งดูดายได้
หลินซือหย่วนตอบตกลงแล้ว ส่วนอเดอลีนแม้ว่าจะไม่เห็นด้วยแต่ก็ไม่ได้คัดค้านอะไร ทั้งสองคนเลือกคนที่ตัวเองต้องดูแล ซึ่งหลินซือหย่วนเลือกฉินย่าหนานอย่างไม่ลังเล
แม้ว่าฉินย่าหนานจะหน้าตาธรรมดา แต่เมื่อแต่งหน้าแต่งตาแล้วก็ยังดูดี ส่วนหน้าของเซียวเซียวดูน่ากลัวไปหน่อย เขากลัวว่ามองเยอะๆ แล้วจะกลับไปนอนฝันร้าย