ทางทีมงานเชิญผู้เข้าแข่งขันที่ได้คะแนนสูงสุดสิบคนแรกขึ้นมาบนเวทีโดยให้ยืนเรียงลำดับตามคะแนน เหยาซิงโจวยืนอยู่ในอันดับที่สาม ยังรักษารอยยิ้มหยิ่งผยองและไม่เสียภาพลักษณ์ไว้ได้เป็นอย่างดี กล้องจึงจับภาพเขาไว้เป็นพิเศษ
ฉินย่าหนานยืนอยู่ในอันดับที่หนึ่ง เธอตื่นเต้นจนแทบจะร้องไห้ออกมา ตอนการแข่งขันออกแบบเสื้อผ้าที่จัดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยครั้งหนึ่ง เธอเชื่อว่าเธอควรจะได้ตำแหน่งชนะเลิศ แต่เพราะถูกคนเลววางแผนทำร้าย หลายปีมานี้เธอไม่ได้รับความยุติธรรม ต้องยอมให้กับเซียวเซียวตลอด ก็เพราะผู้ชนะในครั้งนั้นคือเซียวเซียว ไม่ใช่เธอ
ในที่สุดเธอก็ได้ล้างอายแล้ว
หลังจากการแข่งขันรอบรองชนะเลิศก็จะประกาศกติกาในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ บนเวทีได้แขวนป้ายนักแสดงไว้ห้าคน ใต้ป้ายจะมีเข็มกลัดอยู่สองอัน บนเข็มกลัดจะมีชื่อของนักแสดงคนนั้นติดอยู่
“การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ ทางเราโชคดีมากที่ได้นักแสดงทั้งห้าท่านมาสนับสนุนการแข่งขัน ซึ่งการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศก็คือการออกแบบตัดชุดให้กับนักแสดงทั้งห้าท่านนั่นเอง”
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศคือการตัดเย็บเสื้อผ้าให้กับคนจริงๆ เพื่อเป็นการแสดงความสามารถที่แท้จริงของดีไซเนอร์ ในครั้งนี้จะเป็นการบันทึกเทปตลอดการแข่งขัน ทางทีมงานจะพาดีไซเนอร์ทั้งหมดไปอยู่ที่รีสอร์ตปิดแห่งหนึ่ง ทางรายการจะเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ช่างทําแพตเทิร์น และช่างตัดเย็บไว้ให้ เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดเย็บชุดในรายการได้ โดยกำหนดระยะเวลาให้หนึ่งสัปดาห์ ซึ่งจะเห็นขั้นตอนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ
และสุดท้ายจะนำวิดีโอทั้งหมดมาตัดต่อแบบรายการประเภทเรียลลิตี้โชว์เพื่อถ่ายทอดในรายการ
“สัดส่วนของนักแสดงจะส่งให้กับทุกท่านในวันที่เข้าไปในรีสอร์ต ตอนนี้ที่ต้องทำก็คือเลือกลูกค้า ทุกท่านต้องตั้งใจเลือกนะครับ ผลงานที่ออกมาทางเราจะขอให้นักแสดงท่านนั้นสวมด้วย” พิธีกรพูดพร้อมกับเชิญให้ทุกคนยืนเข้าแถว
นักแสดงห้าคนแบ่งให้กับดีไซเนอร์สิบคน ก็แปลว่านักแสดงหนึ่งคนต่อดีไซเนอร์สองคน ถ้าดีไซเนอร์ที่มีความสามารถสูงกับความสามารถไม่สูงเลือกนักแสดงคนเดียวกัน ก็จะเป็นการเปรียบเทียบอย่างน่าอเนจอนาถ
อันดับต้นๆ มีโอกาสได้เลือกก่อน พวกที่อยู่หลังๆ ก็ไม่มีโอกาสเลือก
เซียวเซียวหันไปมองป้ายทั้งห้า ทั้งหมดล้วนเป็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่แล้ว มองเพียงแวบเดียวก็รู้ว่ายากหรือง่าย โดยนักแสดงทั้งห้าคนนี้ได้แก่ จั๋วหย่า นางเอกมากความสามารถ จ้าวเฟยเฟย สาวน้อยที่กำลังโด่งดังในขณะนี้ แล้วยังมีนางฟ้าของเธอหลันโม่หรู กับศัตรูคู่อาฆาตของหลันโม่หรูอย่างหลิ่วหลิน และสุดท้ายก็คือนักแสดงชายอีกคน
ไม่ว่าจะเป็นชุดราตรีหรือชุดธรรมดา ชุดของผู้หญิงจะโดดเด่นและมีทางเลือกมากกว่าของผู้ชายอยู่แล้ว การเลือกออกแบบชุดผู้ชายโอกาสที่จะชนะจึงมีค่อนข้างน้อยกว่า
เพื่อเพิ่มยอดการรับชม ทางสถานีโทรทัศน์จึงได้เชิญนักแสดงชายที่กำลังมีชื่อเสียงในขณะนี้มาร่วมด้วย แต่สำหรับดีไซเนอร์ที่อยู่อันดับท้ายๆ มันคือวิบากกรรม
“จบกัน ถึงพวกเราสองคนคงจะเหลือแค่ผู้ชายคนนั้น” คนที่ได้อันดับที่เก้าพูดกับคนที่ได้อันดับที่สิบอย่างหมดหวัง
“ผู้ชายก็ผู้ชายเถอะ งั้นทำกระโปรงให้เขาซะเลยดีไหม” คนที่ได้อันดับที่สิบพูดล้อเล่นอย่างคนมองโลกในแง่ดี
“เอ่อ จำให้ดีว่าพวกด้านหน้าเลือกใคร ต้องไม่เลือกซ้ำกับเหยาซิงโจว” คนที่ได้อันดับที่หกกระซิบเสียงเบากับเซียวเซียว
ถึงแม้รอบรองชนะเลิศเหยาซิงโจวจะได้ที่สาม แต่นั่นเป็นเพราะการดัดแปลงเสื้อผ้าเก่าไม่ใช่ทางถนัดของดีไซเนอร์ใหญ่คนนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศก็คือการออกแบบชุดโอตกูตูร์ การออกแบบชุดโอตกูตูร์เป็นงานประจำของดีไซเนอร์ใหญ่อย่างเหยาซิงโจว เด็กๆ อย่างพวกเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอย่างแน่นอน
“ถ้าเลือกนักแสดงคนเดียวกับเหยาซิงโจว สุดท้ายก็จะแพ้อย่างน่าอนาถ” คนที่ได้อันดับที่แปดพูดด้วยสีหน้าราวกับจะร้องไห้ เขาคาดไว้ว่าเมื่อถึงตัวเองอาจจะเหลือแค่นักแสดงชายกับนักแสดงที่เหยาซิงโจวเลือก นั่นเท่ากับมีแต่ตายลูกเดียว
ฉินย่าหนานเลือกเป็นคนแรก เธอเลือกจั๋วหย่าอย่างไม่ลังเล เพราะนางเอกคนนี้มีบุคลิกดีมาก เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแบบไหนเมื่ออีกฝ่ายสวมใส่แล้วก็ดูดีไปหมด
เหมยซินเลือกจ้าวเฟยเฟย เพราะจ้าวเฟยเฟยแสดงละครพีเรียดมามากและมีความงามแบบย้อนยุค เหมาะสมกับสไตล์การออกแบบของเธอมาก
เหยาซิงโจวลังเลระหว่างหลิ่วหลินและหลันโม่หรู สุดท้ายก็เลือกหลันโม่หรู
เมื่อถึงคิวของเซียวเซียวก็เหลือหลันโม่หรู หลิ่วหลิน และนักแสดงชายให้เลือก หากต้องการเลี่ยงเหยาซิงโจว หลิ่วหลินย่อมเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ว่า…
ในฐานะที่เป็นแฟนคลับของหลันโม่หรู เซียวเซียวเกลียดหลิ่วหลินมาก จึงเดินขึ้นหน้าไปหยิบเข็มกลัดที่มีชื่อหลันโม่หรูอย่างไม่ลังเลใจ
เหยาซิงโจวมองการตัดสินใจของเธอแล้วก็อดเลิกคิ้วขึ้นมาไม่ได้
เด็กคนนี้กล้ามาก!