“ทำไมไม่รับโทรศัพท์นะ”
ฮยอนซึงเป็นห่วงซงอา เธอไม่รับโทรศัพท์สักครั้งเดียว เขาเลยแจ้นมาหาเธอที่อพาร์ตเมนต์จนได้
“คงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรอกมั้ง”
เขาเชื่อว่าซงอาคงไม่เลือกทำอะไรสิ้นคิดเป็นอันขาด แต่จิตใจเธออ่อนแอกว่าที่ประเมินไว้มาก ฮยอนซึงจึงอดพะวงไม่ได้
“เมื่อกี้ตอนถามที่อยู่น่าจะขอเลขห้องเอาไว้ด้วย”
ฮยอนซึงยืนอยู่ด้านนอกแหงนมองตึกอพาร์ตเมนต์ เขากะจะลองคุ้ยตู้จดหมายดูสักตั้งเลยเดินเข้ามาด้านใน ครั้นเห็นยามรักษาความปลอดภัยเท้าก็เปลี่ยนทิศ เอาเป็นว่าถามยามน่าจะดีกว่าค้นตู้จดหมายให้ดูมีพิรุธ
“ขอโทษนะครับ”
“ครับ มีอะไรให้ช่วยมั้ยครับ”
“ไม่ทราบว่าพอจะบอกได้รึเปล่าครับว่าลูกบ้านที่ชื่อยุนซงอาอยู่ห้องหมายเลขอะไร”
คำถามฟังดูน่าสงสัย สีหน้ายามเริ่มระแวดระวังมากขึ้น ฮยอนซึงยิ้มอย่างเป็นมิตร รีบอธิบายเหตุผล
“รู้จักกันน่ะครับ แต่โทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ ผมต้องพบเธอเสียด้วยสิ”
“ติดต่อไม่ได้แสดงว่าไม่อยากพบคุณ เรื่องห้องคงบอกให้ทราบไม่ได้ ถ้าต้องการพบจริงๆ ก็ลองโทรไปเรื่อยๆ ดูนะครับ”
ยามโบกมือปฏิเสธอย่างเด็ดขาด น่าจะมองฮยอนซึงในทางร้ายไปเรียบร้อยแล้ว
“ผมไม่ใช่บุคคลน่าสงสัยนะครับ ต้องพบให้ได้ แต่ติดต่อไม่ได้จริงๆ ครับ”
“งั้นแจ้งตำรวจดีมั้ยครับ”
ครั้นยามยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา ฮยอนซึงก็จำต้องถอยอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง เขาอยากลองค้นตู้จดหมาย ทว่าถูกสองตาจับจ้องขนาดนี้คงทำอะไรไม่ได้แน่
“ทำยังไงดี”
ฮยอนซึงออกมาตั้งหลักที่ด้านนอกอาคาร ในเมื่อไม่มีวิธีอื่นก็คงได้แต่ลองโทรไปเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะรับสาย
“อ๊ะ!”
ขณะเตรียมจะกดปุ่มโทรออกนั้นเอง ชื่อของซงอาก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ฮยอนซึงตกใจไปชั่วครู่กว่าจะสำเหนียกได้ว่านี่คือสายเรียกเข้าจากซงอา เขารีบกดรับทันที
“รุ่นพี่!”
“โอย…”
เสียงปลายสายเบาจนแทบไม่ได้ยิน เท่านี้ก็เพียงพอให้ฮยอนซึงรู้แล้วว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
“บอกแค่เบอร์ห้องก็พอครับ”
“ฮะ…ห้องแปดศูนย์…หนึ่ง”
“โอเคครับ รอเดี๋ยว จะขึ้นไปเดี๋ยวนี้แหละครับ”
ฮยอนซึงวางสายก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในอาคารแล้วตรงไปยังลิฟต์ ยามซึ่งคอยจับตาดูเขาอยู่เบิกตาโตแล้ววิ่งไล่ตามหลังมา
“จะไปไหนครับ!”
“ห้องแปดศูนย์หนึ่งครับลุง!”
“ได้รับอนุญาตแล้วแน่นะ?”
“มาด้วยกันเลยมั้ยครับ!”
ฮยอนซึงและยามรักษาความปลอดภัยผู้มากด้วยจิตวิญญาณแห่งวิชาชีพขึ้นลิฟต์มาพร้อมกัน ยามจ้องเขาอย่างสงสัย ส่วนเขานั้นเอาแต่เป็นห่วงซงอาเสียจนไม่ทันสังเกต เมื่อก้าวพ้นลิฟต์เขาก็ออกวิ่งมาตามทางเดินก่อนจะหยุดยืนที่หน้าห้องแปดศูนย์หนึ่ง
ติ๊งต่อง…ติ๊งต่อง
เสียงกริ่งฟังดูกระวนกระวายไม่ต่างจากใจเขา ฮยอนซึงไม่เสียเวลารอให้เธอออกมา จัดการใช้กำปั้นทุบไปที่ประตูห้องทันที
ปังๆ!
“รุ่นพี่! ผมเองครับ! แชฮยอนซึง! เปิดประตูหน่อยครับ!”
ปังๆๆ! ติ๊งต่อง…ติ๊งต่อง
ไหนจะทุบประตู ไหนจะกดกริ่ง หน้าประตูบ้านของซงอาวุ่นวายพอๆ กับใจของฮยอนซึง ครั้นไม่มีสัญญาณว่ามีคนอยู่ทั้งที่เสียงดังเอะอะขนาดนี้ ยามก็ถามแทรกขึ้นมา
“ติดต่อก่อนเข้ามาแน่รึเปล่าครับ ทำไมไม่ได้ยินเสียงอะไรจากด้านในเลย”
“มีกุญแจฉุกเฉินมั้ยครับ เปิดประตูนี่แล้วเข้าไปเลยไม่ได้เหรอ”
“อะไรของคุณ ไม่ได้ครับ! ไม่ได้เด็ดขาด ออกมานี่เลยครับ!”
ด้วยเข้าใจว่าฮยอนซึงโกหก ยามจึงหมายจะดึงตัวเขาออกมาแต่กลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะฮยอนซึงตัวสูงใหญ่กว่ามาก ลากได้ง่ายดายเสียที่ไหน ฉับพลันนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นห้ามทัพระหว่างทั้งคู่
ติ๊ดติ๊ดติ๊ด