“จะขี่หลังหรือให้อุ้มครับ”
“ไม่มีตัวเลือกให้เดินเองบ้างรึไง”
“รุ่นพี่ไม่มีรองเท้าเพราะผมเป็นคนอุ้มมา เมื่อกี้อุ้มแล้ว งั้นขากลับขี่หลังมั้ยล่ะครับ”
ฮยอนซึงถอดเสื้อตัวนอกที่สวมอยู่คลุมให้ซงอาก่อน จากนั้นย่อตัวลงนั่งหันหลังให้เธอ
อย่างน้อยก็ดีกว่าให้เขาอุ้มแหละน่า ซงอาลังเลครู่หนึ่งก่อนจะยอมขึ้นหลังชายหนุ่ม
“ทำไมตัวเบาขนาดนี้ แอบไดเอ็ตไม่ให้ผมรู้เหรอ”
“ฉันอยากทำก็ทำ ต้องแอบนายด้วยรึไง ไปเร็วๆ เถอะ น่าอายจะแย่”
“อายอะไรครับ ผมชอบออก วนรอบโรงพยาบาลสักรอบค่อยกลับดีมั้ย”
“งั้นปล่อยฉันลง”
ซงอาขยับตัวตั้งท่าจะลงจริงๆ ฮยอนซึงรีบห้ามโดยการยึดขาเธอไว้แน่นกว่าเดิม
“โอเคๆ ยอมแล้วครับ เห็นแบบนี้โหดไม่ใช่เล่น เหมือนจะโหดเฉพาะกับผมซะด้วย”
“ใครใช้ให้นายโชว์แต่ด้านไร้สาระให้ฉันเห็นล่ะ เดี๋ยวโหด เดี๋ยวอ่อนโยน เดี๋ยวเผด็จการ เดี๋ยวเจ้าเล่ห์ จะบอกให้นะว่าฉันไม่สนใจนายจริงๆ ไม่ต้องมาโชว์อะไรที่เสียเวลาเปล่าอีก”
“บังคับกันได้ด้วยเหรอครับ ชอบไปแล้ว แถมสารภาพรักไปแล้วด้วย”
ซงอาไม่ตอบเพราะไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด ฮยอนซึงแอบยิ้มเงียบๆ แทนที่จะเศร้าเพราะถูกเธอเมิน กลับเอ็นดูและรู้สึกขอบคุณที่เธอยังคุยกับเขาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใจจริงเขาอยากเดินไปเรื่อยๆ แบบนี้จนสุดขอบโลกเสียด้วยซ้ำ ทว่าพริบตาเดียวก็ถึงที่จอดรถชั้นใต้ดินแล้ว
“อย่าหวังเลยครับ”
ฮยอนซึงนั่งประจำที่คนขับ สบตากับซงอาที่นั่งอยู่บนเบาะด้านข้าง
“ผมพูดจากใจจริงนะครับที่บอกว่าจะค่อยๆ เปลี่ยนใจรุ่นพี่ อย่าหวังเลยว่าผมจะยอมแพ้ง่ายๆ ผมรู้ดีว่าผมกลายเป็นคนเลวในสายตารุ่นพี่ไปแล้ว แต่ผมยอมแพ้ไม่ได้หรอกครับ”
“นายเองนั่นแหละที่อย่าหวังเลย ถึงฉันจะเป็นผู้หญิงง่ายๆ ก็ไม่มองผู้ชายอายุอ่อนกว่าหรอกนะ”
“งั้นผมจะทำลายกฎนั้นเอง ไหนครับ ไม่เห็นจะง่ายเลย ใครมันบอกว่ารุ่นพี่ง่าย”
ฮยอนซึงมองซงอานิ่งๆ ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยื่นมือพาดไปบนไหล่ขวาของเธอ ซงอาขมวดคิ้วเบาๆ
“จะไม่ตกใจสักหน่อยเลยเหรอครับ”
“ผู้ชายอ่อนกว่าไม่ถือเป็นชายหนุ่มหรอกนะ”
“โอ้โห ยากมาก ยากเกินไปแล้ว”
ฮยอนซึงจงใจตอบสนองแบบโอเวอร์เกินจริง เขาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ซงอาก่อน แล้วค่อยคาดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเอง
“ลองคิดดูหรือยังครับ”
“คิดอะไร”
“เรื่องใช้ประโยชน์จากผมไง ผู้ชายแบบนั้นต่อให้อ้อนวอนจนเขากลับมาก็จะเป็นแบบเดิมอีกอยู่ดี อย่าทำอะไรโง่ๆ เลยครับ ทรยศแล้วทิ้งซะ อีแจชินหยิ่งในศักดิ์ศรีขนาดนั้น รับประกันว่าต้องบ้าคลั่งแน่”
ฮยอนซึงส่งสายตาเชิญชวนซงอาให้เข้าร่วมแผน แต่เธอกลับหันมองทางข้างหน้าแทน
“พาฉันไปส่งบ้านเถอะ”
“ไปบ้านผมมั้ยครับ ผมจะต้มโจ๊ก แล้วก็คอยเฝ้าไข้ให้ด้วย”
“ไว้วันหลัง…”
“ทำให้แฟนนายเถอะ เหรอครับ” ฮยอนซึงพูดขัด
“รู้แล้วก็อย่าให้ต้องเปลืองน้ำลายพูดบ่อยๆ ได้มั้ย”
ซงอาผินหน้าไปทางกระจกรถพลางหลับตาลงเป็นนัยว่าไม่อยากพูดกับเขาอีก
รอยยิ้มพาดผ่านริมฝีปากของฮยอนซึงเงียบๆ แวบหนึ่ง
“ก็ได้ครับ ไว้เป็นแฟนกันแล้วผมจะทำให้นะ วันนี้ผมเสียสละให้ก่อน”
ฮยอนซึงมองหญิงสาวที่นิ่วหน้าเล็กน้อยเหมือนหงุดหงิด เขายิ้มอีกครั้งแล้วออกรถ
ด้วยความที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ไกล ครู่เดียวก็มาถึงอพาร์ตเมนต์ของซงอา คราวนี้พอเขาออกตัวว่าอยากอุ้มก็อุ้มเธอมาส่งจนถึงที่ตามอำเภอใจ ซงอาคร้านที่จะแย้งจึงปล่อยเลยตามเลย อย่างไรก็ถือว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณ แค่นี้ปล่อยตามใจสักหน่อยคงไม่เป็นไร
“กลับไปได้แล้ว ไว้วันหลังจะตอบแทนให้”
“ช่วยปลดบล็อกเบอร์ด้วยสิครับ ปลดให้เห็น แล้วผมจะกลับ”
เมื่อคำนึงถึงหน้าที่การงาน แน่นอนว่าคงปล่อยให้อยู่ในสภาพนี้ต่อไปไม่ได้ ซงอาทิ้งให้ฮยอนซึงยืนรอตรงหน้าห้อง ตัวเองเดินเข้ามาด้านในเพื่อเก็บโทรศัพท์บนพื้น ทว่าพอเปิดหน้าจอก็เห็นแจ้งเตือนข้อความเข้าทันที เป็นข้อความจากแจชิน เธอไม่ได้อยากอ่านเพราะกลัวต้องเห็นคำพูดที่สร้างความเจ็บปวด แต่แล้วความคาดหวังกลับมีมากกว่า
‘เรียก 119 รึยัง ไม่เป็นไรมากใช่มั้ย ขอโทษที่ไปไม่ได้นะ สถานการณ์ไม่เอื้อให้ปลีกตัวเลย ไว้พรุ่งนี้จะโทรหา’