ซงอาอ่านข้อความบนหน้าจอเหมือนจะให้สลักลึกลงในสมองทีละตัว มือบีบโทรศัพท์แน่นจนเกือบพัง
คนต่ำช้า ถ้าจะไม่สนใจก็เมินให้ถึงที่สุดสิ
แต่เขาไม่ทำ ดันมาบริหารเสน่ห์กับเธอด้วยวิธีแบบนี้ ซงอาหงุดหงิดหัวเสียกับทัศนคติของแจชิน ดูท่าเขาไม่คิดจะปล่อยใครเลยจนนาทีสุดท้าย ซ้ำร้ายยังจับเธอซึ่งเป็นหนึ่งในปลาสองตัวไว้แน่นราวกับตั้งใจเลาะลิ้มชิมเนื้อหวานให้หมดเกลี้ยงเสียก่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกถึงความเลวทราม
“ไอ้ชั่ว”
“ครับ? ว่าไงนะครับ”
ฮยอนซึงได้ยินเธอพึมพำก็ตอบรับด้วยการเข้ามายืนในบ้าน กำลังสงสัยทีเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเธอไม่ยอมออกมาเสียที
“เป็นอะไรไปครับ” ครั้นเข้ามาใกล้เขาก็สัมผัสได้ว่าซงอามีท่าทีแปลกไป “เกิดอะไรขึ้น”
“จริงใช่มั้ย”
“หมายถึงอะไรครับ”
ซงอามองมาทางฮยอนซึงด้วยสายตาดุเดือด เขาตกใจกับท่าทางไม่คุ้นตาที่เธอแสดงออก แต่ก็สบตาเธออย่างนิ่งเฉยเหมือนไม่มีความผิดปกติใด
“ถ้าทำตามที่นายบอก จะปั่นหัวอีแจชินได้จริงๆ ใช่มั้ย”
“เรื่องนั้น…”
ฮยอนซึงอ้ำอึ้ง มองโทรศัพท์ในมือสลับกับใบหน้าเธอ เริ่มเดาได้รางๆ แล้วว่าแจชินน่าจะจุดชนวนระเบิดทำลายล้างอันน่าขนลุกของซงอาเข้าให้แล้ว เขาหยุดสายตาไว้ที่ซงอา จากนั้นก็พูดอย่างเชื่อมั่นมากกว่าครั้งไหนๆ
“ลองดูสักครั้งมั้ยล่ะครับ”
บ่ายวันต่อมา ก่อนออกจากบ้านซงอาบรรจงแต่งหน้าแต่งตัวให้ดูสวยกว่าทุกวัน แม้เรี่ยวแรงจะยังไม่ค่อยมี แต่เธอก็กัดฟันสู้ อยากให้เรื่องจบโดยเร็ว ลึกๆ ในใจยังหลงเหลือเยื่อใย ทว่าจำเป็นต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อก้าวออกมาจากอพาร์ตเมนต์เธอก็พบฮยอนซึงจอดรถยืนรออยู่ก่อนแล้วพร้อมรอยยิ้ม เธอจึงเดินเข้าไปหา
“บอกว่าให้ไปเจอกันที่นั่นเลยไง”
“วันนี้อากาศหนาว ยังโดนลมเย็นมากๆ ไม่ได้ไม่ใช่เหรอครับ”
เขาสังเกตเห็นคอโล่งๆ ของซงอาจึงคลายผ้าพันคอจากเสื้อไหมพรมคอเต่าของตัวเองแล้วนำไปพันให้เธอ ซงอาขมวดคิ้วเหมือนไม่พอใจ ฮยอนซึงทำเพียงยิ้มและจัดผ้าพันคอให้เข้าที่
“กินอะไรรึยังครับ”
“เรียบร้อย ต้องขอบคุณโจ๊กจากร้านสะดวกซื้อที่นายซื้อไว้ให้”
ช่วงเช้ามืดร้านโจ๊กยังไม่เปิด ฮยอนซึงจำใจซื้อโจ๊กจากร้านสะดวกซื้อไปให้เธออย่างช่วยไม่ได้
“แค่นั้นพอเหรอครับ นี่บ่ายแล้วนะ”
“ไม่เป็นไร กินไม่ค่อยลง”
“โอเคครับ ขึ้นรถเถอะ ที่เหลือค่อยคุยกันระหว่างทาง”
ฮยอนซึงโอบหลังซงอาอย่างเป็นธรรมชาติ พาเธอไปที่รถแล้วเปิดประตูให้
ซงอากำลังจะนั่งลงตรงเบาะข้างคนขับแต่กลับชะงักมองชายหนุ่มก่อน
“มองอะไรขนาดนั้นครับ สายตารุ่นพี่ทำหัวใจผมบีบรัดนะ ผมเป็นผู้ชายอ่อนไหวซะด้วย”
เขาล้อเล่นเพื่อให้เธออารมณ์ดีขึ้นสักนิด ทว่าอีกฝ่ายไม่เล่นด้วยแม้แต่น้อย เธอรอให้รอยยิ้มของเขาหุบลงก่อนจะเอ่ยปาก
“ฉันไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากนาย ขอจัดการเองแล้วกัน”
“พูดถึงอะไรครับ อย่าบอกนะว่าจะยกโทษให้อีแจชิน”
เห็นเขาหน้าตึง เธอก็รีบพูดเสริม
“เปล่า ไม่ทำอะไรโง่ๆ แบบนั้นหรอก”
“งั้น?”
“ถ้าอยากจะปั่นหัวคนคนนั้นไม่จำเป็นถึงขนาดต้องมาใช้นายก็ได้ แค่ฉันบอกว่ามีผู้ชายคนอื่นก็พอแล้ว”
“คิดว่าอีแจชินจะเชื่อง่ายๆ เหรอ”
“ไม่เชื่อก็ช่วยไม่ได้ เพราะฉันเองก็ไม่เชื่อความจริงที่เป็นอยู่ตอนนี้เหมือนกัน”
ซงอาฝืนพูดมันออกมาทั้งที่เจ็บปวด พูดจบก็ก้าวขึ้นรถ ส่วนฮยอนซึงนั้นแม้มีอะไรอยากพูดอีกมากมาย แต่เขาคงทำได้เพียงเก็บเอาไว้ก่อน
จริงอยู่ว่ามันอาจจะยาก แต่ขอให้เจ็บแค่นิดเดียวพอนะครับ ถ้าผมเป็นพลาสเตอร์ปิดแผลให้ได้ก็ยิ่งดี
ฮยอนซึงยืนข้างกระจกรถ มองเธอด้วยแววตาบ่งบอกความสงสาร ก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่คนขับ ใจทำได้เพียงภาวนาให้วันนี้ความทรมานของเธอสิ้นสุดลงเสียที
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 22 เม.ย. 65 เวลา 12.00 น.