ทดลองอ่าน ยุทธจักรเริงรมย์ ตอน พิษโอสถ บทที่ 3 #นิยายวาย – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

everY

ทดลองอ่าน ยุทธจักรเริงรมย์ ตอน พิษโอสถ บทที่ 3 #นิยายวาย

3 of 3หน้าถัดไป

“ท่านผู้เฒ่า ท่านปู่ ตรงนี้ยังมีที่นั่งสองที่ หากไม่ถือสา ให้ข้านั่งสักที่นะขอรับ!” เสี่ยวชุนคลี่ยิ้มพร้อมแวบเข้าไปในศาลาโดยไม่รอให้คนที่อยู่ตรงนั้นอนุญาต ถือวิสาสะนั่งลงข้างชายชราหนวดขาว

“คุณชายจ้าว” พ่อบ้านพยักหน้าทักทายเขา

“เอ๋? ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าแซ่จ้าว” เสี่ยวชุนยิ้มถาม

“แม่นางเคยพูดถึงชื่อของท่าน บอกว่าเป็นหนี้คุณชายจ้าวที่รักษาอาการป่วยให้แม่นาง ยาเทียบนั้นของท่านทำให้แม่นางอาการดีขึ้นมาก คนในปราสาทเขาหลิวเขียวทุกระดับชั้นซาบซึ้งใจยิ่งนัก” พ่อบ้านตอบอย่างสำรวม

“แม่นางเลี่ยวเชี่ยวเห็นข้าแล้วหรือ ทำไมไม่เห็นนางออกมาเลย” เสี่ยวชุนถามอีก

“แม่นางยังร่างกายอ่อนแอไม่สะดวกพบแขก คุณชายจ้าวโปรดอภัยด้วย”

“ไม่เป็นไรๆ ข้ารู้ว่านางอาการดีขึ้นก็พอแล้ว ว่าแต่ซือถูคนนั้นทำไมต้องเฝ้าแม่นางเลี่ยวเชี่ยวอย่างแน่นหนาขนาดนั้นด้วย นางต้องออกมาสูดอากาศบ้าง ไม่งั้นระวังผลลัพธ์จะกลายเป็นตรงกันข้ามกับที่หวังนะ!” เสี่ยวชุนแค่นเสียงหึสองที พูดอย่างไม่ใส่ใจเท่าไร

จมูกพลันได้กลิ่นหอม ตอนนี้เสี่ยวชุนเบนสายตาไปที่ชายชราหนวดขาวที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ท่านผู้เฒ่า ชาของท่านทำไมถึงได้หอมขนาดนี้ เมื่อครู่ในห้องอาหารข้าก็ได้กลิ่น ตอนนั้นยังคิดว่าคือกลิ่นอะไรกันแน่ ในโลกมนุษย์จะมีกลิ่นหอมอย่างนี้ด้วยหรือ” เสี่ยวชุนกล่าวยกย่อง ดวงตาทั้งคู่เป็นประกายกะพริบวิบวับไร้ที่เปรียบ ทำให้คนรู้สึกว่าเขาพูดออกมาจากหัวใจ

ชายชราหนวดขาวหัวเราะอย่างมีเมตตาและเป็นมิตร ยกถ้วยชาที่ชงแล้วถ้วยหนึ่งให้เสี่ยวชุน

เสี่ยวชุนยื่นมือจะไปรับ ชายชราก็เหาะเหินพร้อมเอาชาไปด้วย เสี่ยวชุนเห็นดังนั้นก็ตามไป เห็นเพียงคนสองคนสองมือประมือกัน ผสมผสานแรงและลม พลิกถ้วยหยกสีขาวที่บรรจุชาหอมไปๆ มาๆ อยู่อย่างนั้น ทว่าระหว่างที่ประมือกันก็สงบนิ่งเป็นพิเศษ น้ำในถ้วยไม่กระฉอกออกมาสักหยด

บนเวทีประลองกันไปแล้วหนึ่งยก ข้างล่างเวทีในศาลารั้งสดับสถานการณ์ศึกก็กำลังดุเดือด

ชายชราถอยเพื่อรุก สลายสองมือของเสี่ยวชุนที่ตามมาถึงหน้าอก หากเสี่ยวชุนหมายใจจะเอาชนะด้วยการฉวยโอกาสซัดพลังฝ่ามือไปที่หน้าอกของเขา จะต้องทำให้กำลังภายในของตนสะเทือนจนบาดเจ็บแน่นอน

คาดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้พอเห็นว่าใกล้จะซัดถูกคนแล้วก็ฝืนดึงพลังฝ่ามือกลับ จึงถูกกำลังภายในของตนเองสะเทือนจนศีรษะโงนเงน ส่งเสียงร้องโอ๊ย

ชายชรายิ้มพร้อมส่งชามาวางตรงหน้าเสี่ยวชุนแล้วบอก “เชิญน้องชายดื่มชา”

“ไม่เล่นแล้วหรือ” เสี่ยวชุนส่ายหัวที่กำลังวิงเวียน พอกลับเป็นปกติแล้วจึงหัวเราะถามไปแบบนั้น

“น้องชายอายุยังน้อยแต่กลับมีกำลังภายในยอดเยี่ยมนัก ถ้าหากหมั่นเพียรศึกษาประสานวิทยายุทธ์ทั้งนอกและใน ในวันหน้าจะเป็นดาราพร่างพรายดวงหนึ่งในยุทธภพแน่ ทั้งยังมีอนาคตไกลไร้ขีดจำกัดด้วย” ชายชราบอก

เสี่ยวชุนยกถ้วยชาใบนั้น พอสูดดมดูแล้วรู้สึกถึงกลิ่นหอมอวลปะทะจมูก จากนั้นดื่มไปอึกหนึ่งก็รู้สึกหอมหวานคล่องคอ มุมปากและดวงตาหยักโค้งอย่างอดไม่ไหว หัวเราะบอกอีกฝ่าย “ท่านผู้เฒ่า ชาของท่านรสดีจริงๆ ผู้น้อยแม้จะไม่เข้าใจหลักการจิบชา แต่ดื่มแล้วก็รู้ว่าไม่เหมือนชาทั่วไป เป็นของชั้นยอดในชั้นยอด!”

เสี่ยวชุนชะงักแล้วว่าต่อ “แต่ว่าท่านผู้เฒ่า ศิษย์ของอาจารย์ข้าฝึกฝนเรื่องยากันมาหลายชั่วคน วิชาติดตัวนี่เป็นเพียงวิชาที่อาจารย์สอนข้าเอาไว้ป้องกันตัว ดังนั้นจึงไม่ได้ร้ายกาจเท่าใดนัก ตอนที่เจอยอดฝีมือ หากไม่ถึงตายก็ต้องหนีให้รอดก็เพียงพอแล้ว ท่านกล่าวชมข้าเกินไปแล้ว ก็เหมือนกับชานี้ที่แม้จะเป็นชาดี แต่กลับไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาและแรงกายแรงใจเท่าไรจึงจะได้มา ข้าคนนี้ข้อหนึ่งนั้นขี้เกียจ ข้อสองคือกลัวเหนื่อย ปกติชอบเพียงศึกษาค้นคว้ายาสมุนไพรบนเขา ดวงดาราพร่างพรายนั้นให้คนอื่นเป็นก็พอแล้ว ข้าไม่มีความสามารถนั้น ทำไม่ได้หรอก!”

“ไม่ปรารถนาไม่ร้องขอก็ดีเหมือนกัน”

ชายชราหนวดขาวและเสี่ยวชุนมองกันและกันครู่หนึ่ง สบตากันแล้วยิ้มให้กัน ทั้งสองคนเริ่มดื่มชาอีก มองบนเวทีที่ไม่รู้ต่อสู้กันไปกี่ยกแล้ว

ครู่หนึ่งหลังจากนั้นซือถูอู๋หยาเพิ่งมาถึงศาลารั้งสดับ พอเขาเห็นเสี่ยวชุนกำลังพูดคุยกับผู้อาวุโสหานไจกระบี่มังกรครวญที่ปราสาทเขาหลิวเขียวเชิญมารับรองการคัดเลือกเจ้ายุทธภพในครั้งนี้อย่างสนุกสนานก็ค่อนข้างประหลาดใจ

“เป็นเจ้า!” ซือถูอู๋หยาร้องลั่น

พอเสี่ยวชุนเงยหน้าขึ้นปุ๊บเห็นซือถูก็หัวเราะถาม “ประมุขใหญ่ซือถูผู้สูงส่งเป็นถึงเจ้าบ้านในการคัดเลือกเจ้ายุทธภพในครั้งนี้ แต่ล่าช้าไปตั้งนานกว่าจะมา หรือว่าไปเจอแม่นางเลี่ยวเชี่ยวมาล่ะ ไม่ทราบว่าตอนนี้แม่นางเลี่ยวเชี่ยวสบายดีหรือไม่ ท่านประมุขได้โปรด ‘ปล่อย’ นางออกมาให้ข้าเจอหน่อยได้หรือไม่” ทั้งๆ ที่เมื่อครู่รู้มาจากพ่อบ้านแล้วว่าเลี่ยวเชี่ยวสบายดี แต่พอเห็นซือถูคนนี้แล้วเสี่ยวชุนก็ยังอดพูดถึงนางขึ้นมาอีกหนไม่ได้

“เลี่ยวเชี่ยวสบายดี เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล” ซือถูหน้าง้ำแล้วถามขึ้นอีก “เจ้าแอบเข้ามาในปราสาทเขาหลิวเขียวได้อย่างไร”

เลี่ยวเชี่ยวเคยบอกว่าคนผู้นี้ชื่อจ้าวเสี่ยวชุน แค่ได้ยินชื่อก็เดาได้ว่าไม่ได้มาจากสำนักใหญ่ชื่อดัง แม้คนผู้นี้จะมีวิชาแพทย์ที่ตรงกันข้ามกับบุคลิกมอซอ แค่ยาไม่กี่เทียบก็ทำให้อาการป่วยหนักของเลี่ยวเชี่ยวดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา แต่พอซือถูเห็นเด็กหนุ่มคนนี้แล้วกลับรู้สึกว่ายิ่งมองก็ยิ่งขัดลูกตา

“ย่อมเข้ามาทางประตูใหญ่อยู่แล้ว” เสี่ยวชุนบอก “ประมุขใหญ่ซือถู การต่อสู้บนเวทีกำลังดุเดือด เทียบกับถามคนไร้ชื่อชั้นอย่างข้าว่าแอบเข้ามาได้อย่างไร สู้ดูบนเวทีว่าใครจะชิงตำแหน่งเจ้ายุทธภพไปได้จะสำคัญกว่านะ”

พ่อบ้านก้มลงกระซิบบอกข้างหูซือถูสองสามประโยค ซือถูได้ยินแล้วก็ตะลึงงันไปพักหนึ่ง

“เจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับคุณชายเจ็ด” ซือถูระมัดระวังตัว เขารู้สึกว่าคนตรงหน้านี้ไม่ได้ใสซื่อ จ้าวเสี่ยวชุนไม่ได้เป็นแค่หมอที่มีวิชาแพทย์สูงส่งผู้หนึ่งเหมือนอย่างที่เลี่ยวเชี่ยวบอกอย่างแน่นอน

“ทำไมเจ้าไม่ขึ้นไปสู้บนเวทีล่ะ ประมุขใหญ่แห่งปราสาทเขาหลิวเขียวกับเจ้ายุทธภพใครใหญ่กว่ากัน เขาฟังเจ้าหรือเจ้าฟังเขา หรือว่าเจ้าจะรอให้ยกสุดท้ายเหนื่อยล้ากันไปก่อนแล้วค่อยกระโดดขึ้นไปเตะฝ่ายตรงข้ามให้กระเด็นเพื่อตักตวงผลประโยชน์เอาทีหลัง” เสี่ยวชุนเบี่ยงประเด็น ใครจะไปรู้ล่ะว่าคุณชายเจ็ดคือใคร!

“เจ้า!” ซือถูแน่นหน้าอก เจ้าเด็กนี่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยจริงๆ

พ่อบ้านก้มหัวพูดอะไรบางอย่างอีก โทสะของซือถูที่จะระเบิดในตอนแรกจึงได้ถูกฝืนข่มไว้

จ้าวเสี่ยวชุนคนนี้…ซือถูคิดถึงคนคนนั้นที่มักจะพูดชื่อจ้าวเสี่ยวชุนสามคำนี้ บอกว่ายาได้ผลดี ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะสูตรยา สีหน้านั้นของอีกฝ่ายทำให้เขาเดือดดาลจริงๆ

ต้องมีสักวัน เขาจะต้องให้จ้าวเสี่ยวชุนคนนี้ได้รู้ซึ้ง วันนั้นแค่ฝ่ามือเดียวเป็นการดูเบาเจ้าเด็กนี่เกินไปจริงๆ

เสี่ยวชุนไม่ใส่ใจซือถู เพียงแค่ดื่มชากับชายชราที่อยู่ข้างๆ ชมการต่อสู้เท่านั้น

ไม่รู้ว่าบนเวทีสู้กันไปกี่ยกแล้ว ผู้ชนะยืนอยู่ได้ไม่นาน ประเดี๋ยวเดียวก็ถูกเด็กหนุ่มที่ความสามารถโดดเด่นเหนือใครคนต่อไปเปลี่ยนตัวลงมา ชายชราเอ่ยเรียบๆ “คลื่นลูกใหม่มาแทนที่คลื่นลูกเก่าอยู่เป็นนิจ” หมายความถึงคนที่ยืนอยู่บนเวทีที่ยิ่งเยาว์วัยลงทุกที

เสี่ยวชุนบอก “ท่านผู้เฒ่า ท่านก็ขึ้นไปด้วยสิ ข้าอยากดูซิว่าใครจะผลักท่านให้ขยับได้บ้าง!” แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะลั่นอีกครั้ง

เสี่ยวชุนดื่มชาไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็จาม เขาผงะ วางถ้วยลงแล้วสูดจมูก อยากหาสิ่งที่ทำให้เขาคันจมูกเมื่อครู่นี้ ครู่หนึ่งหลังจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยมองซือถูที่อยู่ข้างๆ

ซือถูไม่สนใจเขาเลยสักนิด

“ประมุขใหญ่” เสี่ยวชุนร้องเรียก

ซือถูเห็นเสี่ยวชุนทำหน้าประหลาดก็เอ่ยด้วยความรำคาญ “มีอะไร”

ตอนนี้บนเวทีก็เกิดเหตุไม่คาดคิดอย่างกะทันหัน

ชายฉกรรจ์ร่างกำยำที่มีฉายาสู้ตะลุยทั่วหน้าไร้ศัตรูดาบเก้าห่วงหวงซานถูกสะเทือนกระเด็นตกเวทีเสียงดังโครม กระอักเลือดกระดูกแตกละเอียดหมดลมหายใจไปตรงนั้น ทว่าคนคนนั้นที่ขึ้นไปท้าสู้ลงมือตอนที่ขึ้นบันไดโดยใช้เวลาไม่ถึงครึ่งถ้วยชาเลยด้วยซ้ำ

สหายชาวยุทธ์ทุกคนตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้ถึงขีดสุด

“แค่ประลองเท่านั้น เหตุใดจอมยุทธ์น้อยต้องเอาชีวิตกันด้วย” คนที่ชมอยู่ข้างล่างตะโกนบอก รู้สึกฉุนเฉียวกับสภาพการตายของดาบเก้าห่วงหวงซานอย่างสุดแสน

“เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นแล้ว…” เสี่ยวชุนบอกเสียงเบา “มีคนวางยาพิษ”

“อะไรนะ” ซือถูรีบโคจรพลัง แต่กลับพบว่าจุดชี่ไห่* ว่างเปล่า พลังปราณสูญสลายไปทั้งหมด จากนั้นความเจ็บปวดสาหัสก็แล่นปราดมาจากอวัยวะภายใน รู้สึกคาวหวานที่ลำคอและกระอักเลือดออกมาคำใหญ่

ซือถูร่างโงนเงนแล้วล้มลงนั่งบนเก้าอี้หิน พลังทั่วร่างสูญสลาย ความเจ็บปวดอันยากจะทานทนที่เกิดจากพิษออกฤทธิ์ทำให้เขาทรมานไม่รู้วาย

เสี่ยวชุนเห็นดังนั้นก็รีบหันไปบอกชายชรา “ท่านผู้เฒ่าอย่าได้โคจรพลังเด็ดขาด การโคจรพลังจะทำให้พิษแทรกซึมเข้าสู่อวัยวะภายในทำให้ตายเร็วยิ่งกว่าเดิม เมื่อครู่ข้าเห็นเขาโคจรพลังแล้วกระอักเลือดจึงนึกขึ้นได้!”

“เจ้า!” ซือถูได้ยินดังนั้นก็โมโหจนกระอักเลือดอีกคำ เห็นชัดว่าจ้าวเสี่ยวชุนคนนี้จงใจ มิฉะนั้นทำไมไม่บอกให้ชัดแต่เนิ่นๆ

หานไจมีสีหน้าสุขุม จากนั้นก็เอ่ยขอบคุณ

 

* จุดชี่ไห่ อยู่บริเวณกึ่งกลางท้อง ต่ำจากสะดือ 1.5 ชุ่น

โปรดติดตามตอนต่อไป…

3 of 3หน้าถัดไป

Comments

comments

Continue Reading

More in everY

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com