X
    Categories: LOVEทดลองอ่านฝันดีว่ามีเธอ ชุด Home sweet home

ทดลองอ่าน ฝันดีว่ามีเธอ ตอนที่ 1

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 1

นางเอกสายมโนโล่ฝังเพชร

“ช่วงนี้สาวหน้าหวานเจ้าของแฮชแท็ก #นางเอกสายมโนโล่ฝังเพชร อย่าง ‘ณชาเดอะสเตจ’ โดนมรสุมข่าวฉาวเล่นงานอย่างหนักหน่วงไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดภาพโดนแอบถ่ายที่ถูกขุดมาปล่อยว่อนโลกไซเบอร์จนได้แฮชแท็ก #นางเอกสก๊อยสั้นเสมอหู ก็ทำพิษจนมีทีท่าว่าอาจโดนคู่ควงคนล่าสุดเท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางต้นสังกัดยังไม่วอร์รี่ เดินหน้าอัดงานนางเอกขี้มโนอย่างต่อเนื่อง!”

หลังจากศรีอาภาอ่านข่าวให้ฟังจบแล้ว เพชรพริ้งก็ออกอาการหัวร้อนจนแทบจะส่งเสียงกรีดร้องดังลั่นบ้าน เธอรับไม่ได้อย่างแรงที่คนซึ่งเป็นเหมือนลูกสาวสุดรักสุดสวาทขาดใจของตนโดนสื่อโจมตีอย่างหนัก เพราะ ‘เจส โลแกน’ นักธุรกิจหนุ่มชาวอเมริกันผู้มีภาพลักษณ์ของเพลย์บอยเต็มขั้นในแบบที่เธอแสนจะรังเกียจ เขามีลูกติดสามคน ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นลูกนอกสมรสและกำพร้าแม่ ดังนั้นเจสจึงไม่มีอะไรเลยที่ทำให้เพชรพริ้งเป็นปลื้ม เพราะเงินที่สามารถซื้อที่ดินบางประเทศได้ทั้งประเทศของเจสไม่ได้มีค่ามีความหมายอะไรเลยในสายตาของเธอ

“แต่ป่านนี้ยายเด็กบ้านี่ยังไม่รู้ตัวอีกว่าชีวิตกำลังจะพังเพราะผู้ชายคนเดียว ฉันกับยายโบว์รึอุตส่าห์ช่วยกันทำทุกวิถีทางเพื่อลบภาพเด็กเส้นเมียเก็บพี่ท็อปของนางให้ พยายามจะดันภาพลักษณ์นางเอกสายฮาอารมณ์ดีให้เกิดให้ปัง แต่จนแล้วจนรอดนางก็ยังไม่สำนึกอีก เอาแต่หาเรื่องทำลายตัวเองอยู่นั่น แต่ยังไงฉันก็จะไม่ยอมปล่อยให้ยายณชาไปยุ่งกับเจสอีกแล้ว ดูสิเนี่ย…ดู! วันๆ มีแต่ข่าวแรดกับผู้ชายไปทั่วบ้านทั่วเมือง ทั้งที่จริงก็ยังไม่เคยได้ใครเป็นผัวเลยสักคน แถมไอ้คนที่ตัวเองอยากได้เขาริกๆ จนตัวสั่นก็ดันไม่เคยได้เป็นข่าวดีๆ ด้วยเลย นอกจากมีแต่เรื่องฉาวโฉ่ให้โดนรุมจวกรุมแซะ หาว่าไปวิ่งไล่จับเขาแต่เขาไม่เอา ถ้านางไม่เลิกยุ่งกับเจสก็ไม่มีทางแก้ปัญหาพวกนี้ได้แน่ เราจะเถียงแทนก็ยังไม่เต็มปาก!”

“นี่ก็โดนคุณโบว์ถอดออกจากบทนางเอกไปสองเรื่องแล้วนะคะ ก็ยังจะหน้ามืดตาบอดไม่เลิกอีก เฮ้อออ…”

‘โบว์’ หรือ ‘บุรัสกร’ เป็นทายาทและผู้บริหารของ ‘วีรากร’ ที่ปัจจุบันนั่งแท่นคุมรายการโทรทัศน์ทั้งหมดของวีรากรอยู่ จึงถือว่าเป็นเจ้านายโดยตรงของณชา เพราะเธอเป็นนักแสดงในสังกัดของวีรากร

“ฉันจะทำยังไงกับยายนี่ดีนะ ช่วยกันคิดหน่อยเถอะ”

“ณชาดื้อจะตายไป เคยฟังเราซะที่ไหนล่ะคะ ตอนนี้ซีบ่นให้คุณท็อปฟังไม่ได้แล้วด้วย เขาเดินหนีท่าเดียว โกรธมากที่ณชาพูดไม่เคยรู้เรื่อง เลยบอกจะตัดหางปล่อยวัดแล้ว ในเมื่อเตือนแทบตายไม่ฟังเขาก็จะไม่รับรู้อะไรอีก แล้วณชาน่ะ…ตอนเราเตือนต่อหน้าก็เหมือนนางจะยอมเออออรับฟังด้วยดีอยู่หรอกค่ะ แต่พอคล้อยหลังเราไปปุ๊บก็หาเรื่องเองตลอด”

เพชรพริ้งฟังแล้วถอนหายใจเป็นครั้งที่สิบของวัน แต่อย่างไรก็ตามเธอรู้จักณชาดี หล่อนอาจจะพยายามคิดเข้าข้างตัวเองในเรื่องเจสได้สารพัดรูปแบบ วันๆ เอาแต่มโนเพ้อฝันถึงเขาไม่เลิกรา แต่ลึกๆ หล่อนก็รู้แก่ใจดีว่าเจสไม่มีทางจะรับรัก และรู้ดีว่าเรื่องระหว่างหล่อนกับเขาไม่มีทางเป็นไปได้ ถึงบางครั้งเขาจะจงใจหว่านเสน่ห์หรือทำให้หล่อนหลงผิดจนไขว้เขว ทว่าณชาเองก็รู้ว่ามันเป็นแค่เกมของผู้ชายเจ้าชู้เผื่อเลือกทั่วไปเท่านั้น เขาอาจจะชอบหล่อนอยู่บ้างในฐานะที่หล่อนเป็นคนน่ารัก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคยคิดจะจริงจังด้วย แล้วที่สำคัญถึงจะหลงรักเจสจนหน้ามืดตามัวแค่ไหน แต่ณชาไม่ใช่คนโง่ หล่อนย่อมรู้ว่าเจสหมายตาผู้หญิงคนอื่นที่เหมาะสมคู่ควรกับเขามากกว่าหล่อนในทุกด้านเอาไว้แล้ว เพียงแต่ว่าในเมื่อตอนนี้ยังตัดใจจากเขาไม่ได้ หล่อนจึงชอบหาเหตุผลมาคิดเข้าข้างตัวเองไปเรื่อยๆ แบบไม่หยุดหย่อน

“คุณท็อปเองก็คิดเหมือนกันกับคุณพริ้งนะคะ ว่าเท่าที่เห็นตอนนี้ก็มีแต่พสินที่เหมาะสมกับณชาที่สุด สรุปว่าทุกคนเอ็นดูพสินกันหมด ยกเว้นตัวณชาเอง ที่พอเราพูดถึงพสินก็จะเอาแต่เบ้ปากรัวๆ”

“แต่ฉันเชื่อนะว่า คนเราน่ะต่อให้มโนเก่งแค่ไหน พอถึงจุดหนึ่งก็จะรู้เองว่าควรหยุด ฉันก็หวังแค่ว่าณชาจะรู้ตัวในเร็ววันและรีบหยุดก่อนชีวิตตัวเองจะพังไปมากกว่านี้ อีกไม่นานก็คงได้สติขึ้นมาว่าเสียเวลาทุ่มเทให้เจสมานานเกินไปแล้ว”

เพชรพริ้งเป็นห่วงณชาเสมือนหล่อนเป็นลูกสาวของตัวเองจริงๆ และหวังให้ณชาตาสว่างเสียวันนี้พรุ่งนี้เลย

“บางที…การรอคอยและคาดหวังในตัวใครสักคนที่มีคนจำนวนมากรักและต้องการเขา มันก็คงไม่ต่างจากเวลาที่เราไปกินข้าวร้านดังที่คนเยอะแน่นร้าน ซึ่งจะมีเมนูเด็ดอันหนึ่งที่ลูกค้าทุกรายหมายปอง แต่พอสั่งเมนูนั้นไปแล้วมันดันมาช้าจนเกินเหตุ แต่ระหว่างรอ…พอเราได้ลองเมนูอื่นไปเรื่อยๆ เรากลับรู้สึกว่ามันก็โอเคนี่นา แล้วเราก็กินจนอิ่มไปนานแล้วแต่เมนูที่อยากกินที่สุดในร้านก็ยังไม่มา เราก็เลยบอกเขาว่า…ช่วยห่อกลับบ้านให้ที หรือถ้าเป็นไปได้ช่วยตัดออกไปจากรายการอาหารของเราเลยยิ่งดี เพราะพอรอนานเกินไปเราเลยอิ่มแล้ว ไม่อยากกินแล้ว…”

“งั้นเราก็คงได้แต่หวังว่าณชาจะเห็นเจสเป็นแค่เมนูฮิตที่ว่านั่นจริงๆ”

ทว่าในขณะที่คนรอบตัวกำลังพากันกังวลกับเรื่องของเธอแทบตาย นางเอกสาวเจ้าของแฮชแท็ก ‘นางเอกสายมโนโล่ฝังเพชร’ อย่าง ‘ณชา เดอะสเตจ’ กลับทำเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ ต่อข่าวเสียหายที่ทำร้ายตัวเองอยู่ ยามเผชิญหน้ากับสื่อ เธอก็ยังสามารถลอยหน้าลอยตาตอบคำถามได้ราวกับมันเป็นแค่เรื่องตลกขำๆ ทั้งที่ลึกๆ แล้วนั้นก็แสนจะเจ็บปวดทรมานราวกับถูกแทงซ้ำแผลเดิมทุกครั้งที่มีคนตั้งคำถามเรื่องเจส แต่ถึงกระนั้นเธอกลับยังใจแข็งโดยไม่ยอมฟูมฟายหรือแสดงความรู้สึกที่แท้จริงออกมาให้ใครเห็น

“รู้ไหมณชา…เจมี่ชอบพี่พีทแหละ”

“อะไรนะ”

“เจมี่ชอบพี่พีท…”

ณชาขยับตัวพลางนิ่วหน้ามองเจมี่ที่ถือขวดน้ำเย็นเดินมานั่งที่โซฟาตัวเยื้องกับเธออย่างพิศวง เมื่ออยู่ๆ อีกฝ่ายก็เอ่ยปากบอกว่าชอบพสิน เพื่อนรุ่นพี่จากบ้านนอกคนนั้นของเธอ

‘เจมี่’ เป็นลูกสาวคนโตของเจสที่เกิดจากภรรยานอกสมรสคนหนึ่งซึ่งเป็นคนไทย เจสเพิ่งเข้ามารับผิดชอบชีวิตเจมี่ในฐานะพ่อได้เมื่อไม่นานมานี้เอง หลังจากที่แม่ของเจมี่เสียชีวิตลง ตอนนี้เจมี่เป็นเพื่อนสนิทที่อายุน้อยกว่าณชาไม่ถึงสองปี ตอนแรกนั้นณชาพยายามเข้าหาเพื่อตีสนิทกับเจมี่ก็เพราะหล่อนเป็นลูกสาวของเจส แม้จริงๆ แล้วเจมี่จะไม่ได้ช่วยอะไรเธอนักเกี่ยวกับเรื่องเจส แต่ด้วยความที่เธอหลงรักเจสจนหน้ามืด…ดังนั้นแค่การทำคะแนนจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ล้วนแล้วแต่สำคัญต่อณชาทั้งสิน

วันนี้เจมี่แวะมาค้างกับเธอที่คอนโดมิเนียมเหมือนที่เคยทำอยู่เป็นประจำ มันทำให้เธอหายเหงาและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ตอนนี้หล่อนจึงถือเป็นเพื่อนที่เธอสนิทด้วยมากที่สุดคนหนึ่ง แม้ณชาจะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับเจมี่ด้วยการหวังประโยชน์บางอย่างเกี่ยวกับเจสก็ตาม

“ชอบแบบไหน ชอบแบบอยากได้ไว้เอง หรือชอบ…แบบอยากให้เขาได้ลงเอยกับฉัน”

“ไม่รู้สิ บอกไม่ถูก รู้แต่ว่าพี่พีทน่ารัก”

“ถ้าเธอชอบเขาแบบคิดจะจริงจังด้วย…ฉันจะไม่ยุ่งเลยนะ แต่ถ้าอยากหลอกฟันเล่นๆ เหมือนผู้ชายคนอื่น…อย่าทำแบบนั้นเด็ดขาด สงสารเขา”

คิ้วเรียวงามของเจมี่ขมวดเข้าทันควัน “เธอไม่ชอบเขาซะหน่อย เป็นห่วงเขาด้วยเหรอ”

“เขาเป็นทั้งเพื่อนทั้งพี่ชายฉันนะ”

“หวงก้างมากกว่า”

“เปล่านะเจมี่ ไม่ใช่อย่างนั้น” ณชารีบปฏิเสธอย่างจริงจัง “ฉันกับเขาสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก”

ณชารู้จักพสินมาตั้งแต่จำความได้ เธอรู้สึกดีด้วยเสมือนเขาเป็นเพื่อนและพี่ชายมาตลอด หลังจากกลับมาติดต่อกันอีกครั้งเกือบสองปีที่ผ่านมา พสินเคยสารภาพรักและขอคบเป็นแฟนกับเธอ แต่ณชาก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ได้รู้สึกกับเขาแบบคู่รัก แต่ถึงจะถูกปฏิเสธอย่างชัดเจน พสินก็ยังคงปฏิบัติต่อเธอดังเดิม

แม้ว่ามองภายนอกแล้วณชากับพสินจะไม่เหมือนคนที่ติดต่อคบหากันอย่างสนิทสนมจริงจัง แต่สำหรับณชาแล้ว…พสินคือคนสำคัญ และมักเป็นคนแรกที่เธอคิดถึงเสมอไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเป็นคนเดียวที่ถึงแม้จะขาดการติดต่อไปเป็นปีสองปี หรือไม่ได้เจอกันเลยนานแสนนานขนาดไหน แต่เมื่อได้กลับมาพบกันแล้ว บรรยากาศก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง

“ถ้าลองมาคบกับเจมี่สักพัก เขาอาจจะลืมเธอไปเลยก็ได้ ไม่ดีหรอกเหรอ เขาจะได้ไม่มาหาเรื่องกวนใจให้เธอรำคาญอีก”

“ใครบอกว่าฉันรำคาญ ฉันไม่เคยรำคาญเขาเลยนะ ฉันแค่ไม่รักเขาเพราะฉันรักเจสไปแล้วเท่านั้นเอง” ณชาพูดพลางถอนหายใจเบาๆ “เอาเป็นว่าถ้าเธอชอบเขาก็ตามใจละกัน แต่อย่าทำร้ายเขาเด็ดขาดเลยนะ พี่พีทเป็นคนดี”

“บอกว่าเขาเป็นคนดีแล้วทำไมเธอไม่ชอบเขาล่ะ”

“ก็ฉันรักแด๊ดดี้ของเธอไปแล้วนี่ ต้องให้ย้ำอีกกี่รอบกันเนี่ยฮึ!”

“ทั้งที่เจสไม่มีทางชายตาแลณชาน่ะเหรอ”

แม้ใครๆ จะชอบย้ำเรื่องนี้บ่อยจนเธอเริ่มชาชิน แต่ได้ฟังทีไรก็อดรู้แปล๊บวาบในอกไม่ได้ทุกที “นั่นก็รู้…”

“งั้นทำไมไม่ตัดใจ”

“ก็พยายามอยู่ แต่มันทำไม่ได้”

“ตอนนี้เขาอยู่กับมิสจงเทียนที่ปักกิ่งนะ รู้ยัง”

“รู้แล้ว”

“อาทิตย์ที่แล้วเขาก็ไปบรูไนกับเชอรีล ไวต์”

“รู้…”

“เดือนก่อนก็ไปล่องเรือกับ…”

“พอๆๆ ฉันรู้ทุกอย่างนั่นแหละ รู้ว่าตอนนี้คู่ควงเจสมีทั้งดารา นางแบบ และนักธุรกิจสาวสวยระดับทายาทมหาเศรษฐี…”

“แต่ก็ยังโง่”

“มันก็เรื่องธรรมดา เวลามีความรักคนส่วนใหญ่ก็ฉลาดน้อยลงกันทั้งนั้น”

“ยกเว้นเจมี่จ้ะ”

“จ้าาา ไว้ตอนนั้นฉันจะรอดูความฉลาดของเธอนะที่รัก” ณชาเบ้ปากใส่เพื่อนที่เชิดหน้าพูดแบบนั้นได้อย่างมั่นอกมั่นใจ

“นี่ บอกตามตรงนะ ในฐานะที่ณชาเป็นเพื่อนรักของเจมี่ เจมี่ทำใจไม่ได้จริงๆ ถ้าณชาจะลงเอยกับเจส หรือถึงจะแค่มีอะไรกันเล่นๆ ชั่วคราวก็เถอะ…เจมี่รับไม่ได้ พอคิดแล้วมันแบบ…ขนลุกขนพองสยองขวัญพิกล ตัดใจเสียไม่ได้เหรอ”

“แต่เธอบอกเองว่าเรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้ แล้วจะมาคิดให้มันขนลุกขนพองไปล่วงหน้าทำไม”

“ไม่รู้สิ พอเห็นณชาเครซี่เจสขนาดนี้แล้วก็อดคิดไม่ได้ทุกที เจสน่ะ…ถือว่าเป็นคนดีอยู่หรอกนะ แต่ไม่ใช่ผู้ชายที่ดีสำหรับณชาหรือผู้หญิงคนไหนเลย แม่ของเจมี่รักเจสมาก ยอมหมดทุกอย่างเพื่อเขา ไม่เคยพูดถึงเขาในแง่ร้ายเลยด้วยซ้ำ แต่เขาไม่เคยเห็นความดีของแม่เลย ก็แค่ถูกใจที่แม่สวย เจมี่ไม่อยากให้ณชามีชะตากรรมเดียวกันกับแม่”

“ความรักมันบังคับกันได้ที่ไหนล่ะ”

“แต่อนาคตเธอกำลังจะพังเพราะเขาอยู่แล้วนะณชา ข่าวตอนนี้ทำให้ภาพลักษณ์เธอดูแย่มาก เหมือนเป็นผู้หญิงไร้ค่า คิดดูสิว่าแฟนคลับที่รักเธอและเห็นคุณค่าของเธอจะรู้สึกยังไงที่เห็นเธอทั้งโดนดูถูก โดนแซะ โดนเหยียดหยามอย่างหนักสารพัด เธอควรห่วงอนาคตตัวเองและรู้จักมีอีโก้ซะบ้างนะ”

แม้ว่าเจมี่จะไม่เคยแสดงท่าทีกีดกันความรักของเธอกับเจสอย่างจริงจัง ทว่าน้ำเสียงและแววตาของหล่อนตอนนี้บ่งบอกว่าเป็นห่วงเธออย่างแท้จริง ทว่าณชากลับไหวไหล่เบาๆ เสมือนไม่แยแสอะไรเลย ใช่ว่าเธอไม่ห่วงอนาคตตัวเอง แต่ตอนนี้เธอแค่ยังห้ามความรู้สึกที่มีต่อเจสไม่ได้

“เอาเป็นว่าเจมี่จะให้โอกาสณชาตัดสินใจเรื่องพี่พีทอีกสัก…สองเดือนละกัน ถ้าภายในระยะเวลานี้ณชายังไม่ยอมตัดใจจากเจส พี่พีทจะต้องตกเป็นของเจมี่แน่นอน”

“ทำไมต้องเอาพี่พีทมาเป็นตัวประกันด้วยเนี่ย เขาไม่เกี่ยวกับอะไรสักหน่อย” ณชาหน้ามุ่ย

เจมี่หัวเราะเสียงใสปิ๊ง “ก็เจมี่ชอบพี่พีท”

“แล้วสรุปว่าอยากได้เขาแบบจริงจังหรือแค่ชั่วคราว” หญิงสาวถามอย่างอดเป็นห่วงพสินไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีที่สุดว่าเจมี่มีเสน่ห์แพรวพราวและเจ้าชู้ขนาดไหน ถ้าลองว่าหมายตาใครแล้วคนนั้นเป็นต้องเสร็จหล่อนทุกราย เจมี่คบหาผู้ชายมากหน้าหลายตา เปลี่ยนคู่ควงบ่อยแทบไม่ต่างจากเจสผู้เป็นพ่อ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่าหล่อนคิดจริงจังกับพสิน

“ก็…ไม่รู้เหมือนกัน” เจมี่ตอบยิ้มๆ พลางไหวไหล่เบาๆ “มันก็ขึ้นอยู่กับว่า…พี่พีทจะมีความน่าค้นหาแค่ไหนด้วย”

ณชามองสีหน้าท่าทีอันเต็มไปด้วยแววท้าทายอย่างน่ารักน่าชังแกมน่าหมั่นไส้เหลือทนของเพื่อนสาวด้วยความหวั่นใจลึกๆ เพราะเชื่อแน่ว่าหากอีกฝ่ายตัดสินใจรุกแล้วล่ะก็ พสินไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมมือหล่อนไปได้แน่

เนื่องจากช่วงนี้ค่อนข้างว่างกว่าที่ผ่านมา ณชาจึงเบื่อหน่ายถึงขั้นต้องโทรไปชวนพสินทานข้าวในวันหยุด เพราะเพื่อนคนอื่นไม่มีใครว่างเลย พอถึงเวลานัดเธอก็ออกจากคอนโดฯ ไปรับ ‘มาร์กี้’ กับ ‘ลีโอ’ ที่บ้านคุณยายของเด็กๆ ตามที่ได้นัดล่วงหน้าเอาไว้ตั้งแต่สองวันก่อน จากนั้นจึงพาเด็กชายวัยย่างสี่ขวบกับย่างห้าขวบ ไปรับพสินที่บ้านเช่า ซึ่งอีกฝ่ายพักอยู่กับเพื่อนอีกสองคน

มาร์กี้กับลีโอเป็นลูกชายของอดีตภรรยานอกสมรสคนหนึ่งของเจสซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ณชาค่อนข้างสนิทกับเด็กทั้งสองคน ยอมรับว่าเหตุผลที่ทำให้เธอพยายามตีสนิทกับเด็กๆ ในตอนแรกคือเป็นเพราะเจส แต่หลังจากใกล้ชิดสนิทสนมกันมาจนถึงตอนนี้ เธอก็รู้สึกผูกพันและรักใคร่เด็กทั้งคู่ด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง

เดี๋ยวนี้สองหนุ่มผู้เป็นเพื่อนของพสิน ไม่ได้มีความตื่นเต้นหรือกระตือรือร้นเหมือนตอนแรกๆ ที่ณชาแวะมาหาพสินที่บ้านอีกแล้ว เพราะณชาเคยมาหลายครั้งจนพวกเขาเริ่มชิน แต่กระนั้นก็ยังให้ความสำคัญกับเธอด้วยการช่วยทำความสะอาดบ้านเตรียมต้อนรับเช่นเคย แม้ว่าพสินจะย้ำแล้วย้ำอีกว่าวันนี้ณชาแค่แวะมารับเขา เธอคงไม่ลงจากรถด้วยซ้ำ ทว่าพอเอาเข้าจริงเธอกลับพามาร์กี้กับลีโอลงจากรถมากดกริ่งแทนที่จะโทรเรียกพสินให้ออกมาขึ้นรถเลย

“ลีโอปวดฉี่ มาร์กี้ปวดอึ๊” ณชาบอกหลังจากยกมือไหว้ทักทายเจ้าของบ้านอย่างมีมารยาท

“อ้อ…” พสินทำเสียงรับรู้คำบอกเล่าไขความกระจ่างดังกล่าวจากณชาพร้อมกับรีบเปิดประตูรั้วทาวน์เฮ้าส์หลังเล็กให้ผู้มาเยือน

“ห้องน้ำสะอาดดีไหมคะ เด็กสองคนนี้ไม่ค่อยชินกับอะไรที่แบบ…โสโครกน่ะ ถ้าสกปรกนี่รับรองว่าเกร็งจนอึ๊ไม่ออกแน่” ณชาถามเพื่อความมั่นใจ

“โชคดีที่วันนี้สะอาด ปกติก็ไม่…” พสินบอกตามตรง

“พี่พีททานอะไรรึยัง ณชาฮิ้ววว…หิว”

“ซอรี่นะ บ้านพี่ไม่มีอะไรที่เธอน่าจะกลืนลงคอได้ให้เธอกินเลยตอนนี้ ดีสุดก็มีแค่ขนมถุงก๊อบแก๊บกับมาม่า เธอคงไม่กินของพวกนั้นหรอกมั้ง ใช่ไหม เพราะต้องรักษารูปร่าง แล้วพักนี้…” พสินพูดพลางหันมองคนข้างๆ “รู้สึกจะอ้วนขึ้นรึเปล่า”

“ทักผู้หญิงอ้วน…เสียมารยาทมาก!” ณชาถลึงตาใส่อย่างเหวี่ยงๆ ก่อนจะถอนใจ “แต่ก็จริงนั่นแหละ อ้วนขึ้นเยอะเลย นี่เพิ่งโดนคุณโบว์ด่ามาเมื่อวาน สงสัยว่าพักนี้จะโด๊ปด้วยชานมไข่มุกเยอะไปหน่อย”

“เผลอกินเยอะเพราะเครียดเรื่องที่โดนถอดจากละครรึเปล่า”

ความใส่ใจเหมือนไม่ได้ตั้งใจจากผู้ชายที่มีลักษณะเหมือนไม่สนใจอะไรในโลกมากนักของเขา ทำให้เธออดรู้สึกซาบซึ้งเบาๆ อยู่ในใจไม่ได้

“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แค่เบื่อๆ”

“อี๋…ห้องน้ำไม่ฉะอาดเลยอ่ะ เลาไม่อยากฉี่ที่นี่ เลาจะอั้นฉี่ไว้!” ลีโองอแงแล้วทำท่าฮึบอยู่หน้าห้องน้ำอย่างน่าเอ็นดู ไม่ยอมก้าวเข้าไปข้างในง่ายๆ

“อย่าอั้น ไปฉี่หลังบ้านไป” พสินบอก

“น่าเกลียด จะไปฉี่หลังบ้านได้ยังไง ฉี่ตรงนี้แหละ ห้ามอั้นฉี่ด้วย แต่ก็…ห้องน้ำซกมกจริงๆ นั่นแหละ ไหนบอกสะอาด” ณชาหันไปเอาเรื่องเจ้าของบ้าน

“นี่สะอาดสุดในรอบปีแล้วครับคุณนายยย…ขอโทษจริงๆ ที่สกิลการล้างห้องน้ำของพี่มีแค่นี้ ไม่มีตังค์จ้างแม่บ้านด้วย จน”

ณชาค้อนคนช่างประชดขวับหนึ่ง “กลั้นอกกลั้นใจฉี่ไปก่อนละกันนะลีโอ เข้าไปเลยเร็วๆ มาร์กี้รออึ๊อยู่”

“มาร์กี้ว่า…มาร์กี้กลั้นอึ๊ไว้ก่อนดีกว่า”

“นี่! กลั้นไม่ได้ ต้องอึ๊ที่นี่ ไม่งั้นจะไปอึ๊ที่ไหน เราต้องรีบไปซาฟารีเวิลด์แล้วนะ”

“แล้วถ้าเลาอั้นฉี่กับอึ๊เอาไว้ พอเลาไปเจอท้ายยย…เก้อกับล้ายยย…อ้อน เลาจะโดนกินอ่ะป่าว”

“แน่นอน สิงโตกับเสือจะได้กลิ่นฉี่กลิ่นอึ๊ของเรา แล้วก็จับเรากินเคี้ยวง้ำๆ อร่อยไปเลย ดังนั้นไปฉี่ไปอึ๊ให้เรียบร้อยเร็วๆ เข้า!”

ณชาเผลอเหวี่ยงใส่เด็กๆ อย่างลืมตัว ซึ่งก็ทำให้สองหนุ่มน้อยยอมกลั้นใจเข้าห้องน้ำแต่โดยดี พอเห็นว่าเด็กๆ พูดจารู้เรื่องแล้วหญิงสาวจึงถอนหายใจเฮือกแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาในโถงชั้นล่างของบ้าน

“อยากได้พ่อเขาจนตัวสั่นแต่ดันไม่อ่อนโยนกับลูกเขาเลยเนี่ยนะ มันจะดีเหรอณชา แทนที่จะหาทางโกยคะแนนผ่านลูกๆ เขา”

คำเตือนของพสินทำให้ณชาหน้าหงิก “สู่รู้!”

“พูดว่าเสือกเลยก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจพี่หรอก คนกันเอง”

“ค่ะ พี่เสือกมากเลย เสือกค่ดๆ!”

พสินหัวเราะ “นี่ไปหงุดหงิดอะไรที่ไหนมารึเปล่า ทำไมขึ้นง่ายนักล่ะวันนี้”

“ก็ตอนนี้เจสไปเดตกับนางแบบที่ภูเก็ต!” ณชาวีนเบาๆ “คนโกหก ไหนบอกว่าชอบแต่สาวเอเชีย แล้วทำไมอยู่ๆ ถึงไปควงท็อปโมเดลตะวันตกจ๋าแบบนั้นได้หน้าตาเฉย”

“เชอรีล ไวต์ใช่ไหม…พี่เห็นข่าวแล้วล่ะ แต่มันก็ไม่แปลกนะที่เจสจะยอมแหกสเป็กตัวเองบ้าง ก็เขาสวยตะลึงจนน่าขนลุกเลยนี่นา ยังกับตุ๊กตาบาร์บี้แน่ะ ถ้าให้ณชา เดอะสเตจไปยืนข้างเชอรีลล่ะก็ มีหวังณชา เดอะสเตจคงดูก๊องแก๊งกะโหลกกะลาไปเลย ว่าไหม”

“…”

“พี่ไม่ได้ว่าณชาไม่สวยนะ แต่พอเทียบกับเชอรีล ไวต์แล้วมันต่างกันคนละระดับจริงๆ อย่างเจสก็ต้องคู่ควรกับผู้หญิงระดับนั้นขึ้นไป…มันถึงจะพอเหมาะพอดีกัน”

“พี่พีท!”

“พี่พูดความจริงนะ”

“ก็ไม่ได้จะเถียงว่าไม่จริง แต่ถ้าจะดูถูกกันแรงขนาดนี้ล่ะก็…เลิกคบกันไปเลยเถอะ!”

พสินออกอาการยิ้มขำและมองเธออย่างเอ็นดูเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวที่ทำเธอโกรธ

“ขอโทษนะที่พี่ใจร้าย แต่ทั้งหมดก็เพราะเป็นห่วง พี่ไม่รู้จะหาวิธีไหนมาช่วยดึงเธอให้ตาสว่างได้แล้วนี่นา เห็นเธอมโนจนเป็นข่าวฉาวเสียขนาดนั้น…พี่เป็นผู้ชายยังรู้สึกอายแทน แล้วพี่ก็คิดว่าพอจะเข้าใจเจสด้วย คนที่ไม่ใช่…ยังไงก็คือไม่ใช่ นี่ต้องถือว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมากเลยนะ ที่เธอให้ท่าเสียขนาดนี้แต่เขาก็ไม่เอา ถ้าเป็นผู้ชายสั่วๆ บางคนอาจจะฟันเล่นทีสองทีแล้วทิ้ง…”

“ฮึ่ยยย! พี่พีท! เกินไปแล้ว! พูดจาแต่ละคำไม่ถนอมน้ำใจกันเลยสักนิด!” ณชาขึ้นเสียงใส่ด้วยความโมโห “นี่โดนคุณพริ้งเสี้ยมมารึไงฮึ ได้ยินว่าวันก่อนไปกินข้าวกันมานี่ เพราะคุณแซนส่งไปช่วยงานคุณนริศ…ใช่ไหม!”

พสินทำงานอยู่ที่ ‘แมกเนทีฟ’ บริษัทของ ‘แซน’ หรือ ‘แสนสรัล’ สามีของบุรัสกร ซึ่งให้บริการด้านการวางแผนกลยุทธ์และพัฒนาสื่อทางดิจิตอล รวมถึงเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์ครบวงจรด้วย

“บอกแล้วว่าพูดเพราะเป็นห่วง ไม่ได้เกี่ยวกับคุณพริ้งหรือใครเลย”

“ทั้งที่รู้ว่าพูดไปก็ไม่มีประโยชน์น่ะเหรอ”

“ใช่ รู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ แต่ก็จะพูด อย่างน้อยก็ถือว่าได้แซะเธอเพื่อระบายอารมณ์บ้าง เพราะเห็นเธอแล้วหงุดหงิด แทนที่จะรักคนที่เขารักตัวเอง…”

ณชาชะงักเพียงเล็กน้อย แต่ก็รีบทำหน้าเชิดใส่เขาอย่างบึ้งตึง พร้อมกับถลึงตามองโดยไม่พูดอะไรอีก ถึงพสินจะแสดงออกว่ามีใจให้อย่างเปิดเผย และเคยบอกความรู้สึกดังกล่าวให้เธอรู้อย่างชัดเจนแล้ว ทว่าเขาก็ไม่ได้เซ้าซี้หรือเอ่ยปากย้ำถึงเรื่องนี้บ่อยนัก อาจจะกลัวเธอลำบากใจ หรืออาจเพราะผู้ชายไม่ใช่คนที่ชอบทำตัวน่ารำคาญก็ได้ ชายหนุ่มจึงวางตัวได้ปกติจนบางทีณชาเองก็ยังลืมไปเลยว่าจริงๆ แล้วเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกสบายใจที่จะเจอเขา เพราะจริงๆ แล้วก็ยังอยากเป็นเพื่อนกับเขาอยู่…

 

(ตอนต่อไปพบกันวันที่ 15 มีนาคม)

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

Jamsai Editor: