X
    Categories: LOVEทดลองอ่านมาลีรติกานต์ ชุด ดอกไม้ลายพยัคฆ์

ทดลองอ่าน มาลีรติกานต์ ตอนที่ 4

หน้าที่แล้ว1 of 6

บทที่ 4

จูบผลาญใจ

“อะ…อะไรนะคะ!”

นี่ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เหมือนเป็นคำอุทานเสียมากกว่า เพราะเหมือนไหมแทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อมารดาเธอเรียกร้องให้ฝ่ายปฏิภาณต้องรับผิดชอบเธอด้วยการแต่งงาน!

หญิงสาวมองหน้าเหมือนแพรราวกับต้องการความช่วยเหลือทำให้ผู้เป็นพี่สาวต้องมองหน้าคู่กรณีอย่างปฏิภาณเพื่อดูท่าทีซึ่งอีกฝ่ายก็มองตอบกลับมาอย่างเย็นชาก่อนที่ทั้งคู่จะเงียบ

เหมือนแพรดูจะไม่กล้าพูดอะไรเลยเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา…

“ลูกชายของคุณต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับลูกสาวฉันให้เร็วที่สุด”

มธุรินย้ำกับผู้ใหญ่ของปฏิภาณอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำเพื่อยืนยันว่าการตัดสินใจเช่นนี้ได้ผ่านการไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว ยิ่งปฏิภาณเล่าว่าเขาเสียใจที่ถูกคนรักบอกเลิกจนดื่มเหล้าเมามายและจำอะไรไม่ได้ ท่านก็ยิ่งเห็นว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด

ทว่า…ประโยคนั้นเหมือนจะทำให้ความเงียบเข้ามาครอบงำทุกคนจนคฤหาสน์จิรภาคินทร์ที่เคยเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเงียบลงจนแทบจะกลายเป็นบ้านร้าง

เรื่องของเรื่องคือหลังจากที่เหมือนแพรขอให้มารดาใจเย็นลงแล้ว พัชรินทร์กับประวันวิทย์ก็สั่งให้พนักงานไปทำงานแล้วปิดประตูห้องนอนทันที พอปฏิภาณกับเหมือนไหมแต่งตัวเสร็จ ทุกคนก็กลับมาคุยกันที่นี่เพราะไม่อยากให้พวกพนักงานสอดรู้สอดเห็น

ในใจปฏิภาณหวังว่าเมื่อมธุรินใจเย็นลงจะสามารถคุยกันได้ง่ายขึ้น เพราะท่าทีท่านก็อ่อนลงมาก ทว่าความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย มธุรินเอาเรื่องกว่าที่เขาคิดไว้มาก

“แต่ไหมกับพี่พีคจำอะไรไม่ได้เลยนะคะ”

เหมือนไหมกลั้นใจพูดขึ้นแม้ว่าอาจจะถูกมารดาตำหนิ แต่ถ้าไม่พูด…เธอกับปฏิภาณก็อาจจะต้องแต่งงานกันจริงๆ ซึ่งเธอไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น ต่อให้ตอนนี้ชายหนุ่มจะเลิกรากับอรรัมภาแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะยินดีแต่งงานกับเขาเพราะตื่นมาบนเตียงเดียวกัน

“ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วแม่จะให้พี่เขามารับผิดชอบอะไรไหม”

“ยายไหม!”

“ให้เรื่องมันจบไปแค่นี้เถอะค่ะ ไหมว่าเรากลับบ้านกันเถอะนะคะ”

เหมือนไหมพยายามจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุดแม้ว่ามธุรินกำลังมองหน้าเธอเหมือนอยากจะหยิกเธอให้เนื้อเขียว แต่ก่อนหน้านี้ทั้งเธอและปฏิภาณก็อธิบายให้ทุกคนฟังไปแล้วว่าทั้งสองคนจำเหตุการณ์ได้แค่ไหน แต่ที่สำคัญคือเธอกับเขาต่างก็มั่นใจว่าทั้งสองคนยังไม่น่าจะมีอะไรกัน

ปฏิภาณคิดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเหมือนไหมแน่ๆ มันไม่ใช่ว่าเขาจะปัดความรับผิดชอบ แต่ปกติแล้วหากเมามากขนาดนั้นไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถทำอะไรผู้หญิงได้หรอก อีกอย่างเขาก็มั่นใจว่าผู้หญิงอย่างเหมือนไหมไม่น่าจะทำอะไรเขาก่อนเช่นกัน ต่อให้เขาจะรับรู้ว่าเธอมีใจให้เขามานานแล้วก็ตาม

ยิ่งกว่านั้นเขายังรู้สึกว่ามันแปลกพิกลราวกับว่ามีใครสักคนอยู่เบื้องหลัง…

ปฏิภาณคิดว่ามันผิดปกติมากที่เขากับเหมือนไหมจะสติดับวูบไปแทบจะพร้อมกัน ต่างคนต่างจำอะไรไม่ได้ทั้งๆ ที่อยู่บนเตียงเดียวกันในสภาพนั้น แถมยังมีคนส่งภาพล่อแหลมระหว่างเขากับเธอไปให้มธุรินดูอีกต่างหาก และเขาคิดว่า…แทบทุกคนที่รู้เรื่องนี้ก็ต้องคิดเหมือนเขานี่แหละ

ถึงกระนั้นชายหนุ่มก็ได้แต่สงสัย เพราะไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้ จะสอบถามพนักงานทุกคนก็เกรงว่าจะเป็นการกระพือเรื่องให้ใหญ่โตไปกันใหญ่ แล้วคนเสียหายก็คือเหมือนไหม

มันแย่ก็ตรงที่บริเวณห้องรับแขก รวมทั้งระหว่างทางเดินจากห้องรับแขกไปยังเรือนหลังเล็ก และห้องนอนของปฏิภาณไม่ได้ติดกล้องวงจรปิดเอาไว้

อีกอย่างหากทั้งสองคนมีอะไรกันแล้วจริงๆ เหมือนไหมก็น่าจะรู้สึกถึงความผิดปกติกับร่างกาย ถึงเธอจะยังไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน แต่มันก็น่าจะรู้สึกอะไรบ้าง แต่นี่เธอไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากเวียนศีรษะและไม่สบายตัวซึ่งน่าจะเป็นผลจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเมื่อคืนนี้

“เงียบไปเลยนะยายลูกคนนี้ เรื่องนี้ให้แม่คุยเอง เราเป็นคนเสียหาย ยิ่งพูดก็จะมีแต่เสียกับเสีย” มธุรินบอกเสียงเข้ม “จริงอยู่ว่าทั้งสองคนอาจจะยังไม่มีอะไรกันจริงๆ แต่ลูกสาวของดิฉันก็เสียชื่อเสียงไปแล้ว พนักงานในบริษัทต่างก็เห็นเหตุการณ์เมื่อเช้าและคงเอาไปซุบซิบกันต่างๆ นานาจนยายไหมเสียหายป่นปี้ ยังไงฉันก็คิดว่าการแต่งงานเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาเกียรติให้ลูกสาวดิฉันค่ะ”

สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเมื่อมธุรินยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่เปลี่ยนการตัดสินใจโดยที่ลูกสาวทั้งสองไม่สามารถทัดทานหรือคัดค้านอะไรได้เลย

“อีกอย่าง…ก็ไม่รู้ว่าคนที่แอบถ่ายรูปไว้มันจะส่งรูปให้สำนักข่าวหรือว่าเว็บล่อแหลมอะไรหรือเปล่า ฉันเป็นห่วงเรื่องนี้เหมือนกันนะคะ ไม่รู้ว่าคนแอบถ่ายรูปไว้มันต้องการอะไร จะแบล็กเมล์หรือเปล่า แล้วถ้ารูปมันเผยแพร่ออกไป ลูกสาวฉันก็จะยิ่งเสียหายหนักเข้าไปอีก”

มธุรินพูดต่อ ท่านเป็นคนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมากที่สุดในครอบครัว เพราะเป็นแม่และเป็นคนเลี้ยงดูเหมือนไหมกับเหมือนแพรมาเพียงลำพัง ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเลยที่เหมือนไหมจะกล้าแข็งข้อกับท่าน แม้บางเรื่องเธอจะไม่เห็นด้วยเลยก็ตาม เพราะเธอเชื่อว่าท่านเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เธอเสมอ

“เรื่องภาพพวกนั้นคุณมัทไม่ต้องห่วงนะครับ ถึงเราจะยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร แต่ผมจะให้คนของผมสืบหาต้นตอให้เร็วที่สุด และให้คนเฝ้าระวังสื่อต่างๆ ในเน็ตอย่างดี ถ้ามีภาพหลุดออกมา ทางผมจะรีบจัดการให้ แต่คุณมัทอย่าเพิ่งกังวลเรื่องรูปหลุดเลย ผมคิดว่าคนที่ถ่ายไว้น่าจะเป็นคนรู้จักของทั้งสองคน เขาคงไม่กล้าปล่อยรูปออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าหรอก ไม่อย่างนั้นก็เสี่ยงที่จะถูกเราฟ้องเหมือนกัน ส่วนเรื่องตามหาคนถ่าย เราคงต้องค่อยๆ คิดและสืบหา จะถามสุ่มสี่สุ่มห้าคงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคนจะยิ่งเอาไปนินทาและตามหารูปหลุดพวกนั้น เพราะตอนนี้น่าจะยังไม่มีใครรู้ว่ามีคนแอบถ่ายรูปไว้นะครับ”

ประวันวิทย์เจรจาและพยายามมองโลกในแง่ดีไว้ทำให้มธุรินใจชื้นขึ้นบ้างเพราะอีกฝ่ายรับปากว่าจะจัดการให้ แล้วครอบครัวจิรภาคินทร์ก็น่าจะมีอิทธิพลพอที่จะจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังไงท่านก็คงไม่อาจวางใจได้จนกว่าเรื่องนี้จะกระจ่าง

ขณะเดียวกัน…ประวันวิทย์ก็คิดว่าท่านคงต้องไหว้วานให้เพลิงพลช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ เพราะลูกชายคนโตมีผู้ช่วยมือดีอย่าง ‘ธีธัช’ ที่ช่วยจัดการเรื่องนี้ได้

“ขอบคุณค่ะที่ไม่นิ่งนอนใจ” มธุรินกล่าว

“แล้วตาพีคล่ะ จะว่ายังไง” กัลยาถามหลานชายที่ยังนิ่งเงียบ

“ผมคิดว่า…”

ปฏิภาณถอนหายใจเพราะไม่รู้จะตอบยังไงดี ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรับผิดชอบ แต่เขาแค่ไม่คิดว่าการแต่งงานจะเป็นทางออกที่ดี เพราะหากแต่งงานกันแล้วอยู่ด้วยกันไม่ได้ คนที่จะเสียหายที่สุดก็คือเหมือนไหม อีกอย่างการแต่งงานกับเธอก็อาจนำเรื่องยุ่งยากใจตามมาอย่างที่ผู้ใหญ่คาดไม่ถึงด้วย

ชายหนุ่มมองไปที่เหมือนแพร แต่อีกฝ่ายหลบตาราวกับไม่กล้าสู้หน้า

“ผมแล้วแต่ผู้ใหญ่ก็แล้วกันครับ”

ปฏิภาณตัดสินใจในที่สุด เพราะหากปฏิเสธก็จะกลายเป็นว่าเขาหักหน้าเหมือนไหมและทำตัวเป็นผู้ชายไร้ความรับผิดชอบ แต่ถ้าจะให้ตอบรับอย่างเต็มใจ เขาก็ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น

ปฏิภาณ ‘ใส่หน้ากาก’ ไม่เก่งและสอพลอใครไม่เป็นจริงๆ

“แต่ไหมไม่อยากแต่งงานค่ะ”

เหมือนไหมออกปากปฏิเสธจนทำให้มธุรินมองเธอตาเขียว เพราะปฏิภาณมีท่าทีอ่อนลงมากแล้ว หากเหมือนไหมไม่มีปัญหา ทุกอย่างมันก็จะจบในแบบที่ท่านต้องการแล้ว

มธุรินทำใจไม่ได้จริงๆ หากจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปโดยที่ปฏิภาณไม่รับผิดชอบ ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเดียวกันในสภาพร่างกาย (เกือบ) เปล่าเปลือยทั้งคืน คนในบริษัทก็เห็นกันทั่วและป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเอาลูกสาวท่านไปนินทาถึงไหนต่อไหน

เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งสองคนจะไม่แต่งงานกันได้อย่างไร หากปล่อยให้เรื่องผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใครต่อใครจะไม่มองว่าลูกสาวท่านเป็นผู้หญิงง่ายๆ อย่างนั้นหรือ

“ถ้าอย่างนั้นทางคุณมัทไปคุยกันอีกทีดีกว่ามั้ยคะ ได้ความว่ายังไงค่อยแจ้งทางนี้ เพราะทางเรายินดีจะรับผิดชอบตามที่คุณมัทเรียกร้อง ส่วนเรื่องการสืบหาต้นตอของภาพแอบถ่ายและระวังภาพหลุด…ทางเราจะรีบจัดการนะคะ แต่เรื่องแต่งงานนี่ขอให้เป็นความสมัครใจของเด็กๆ ทั้งสองฝ่ายจริงๆ”

พัชรินทร์สรุปอย่างใจเย็น ท่านไม่อยากเห็นแม่ลูกทะเลาะกัน อีกทั้งคิดว่าคุยกันต่อหน้าคนนอกอย่างไรก็ไม่น่าจะได้บทสรุปที่ลงตัว สู้ให้มธุรินกับเหมือนไหมไปคุยกันเป็นการภายในครอบครัวแล้วค่อยบอกทางนี้จะดีกว่า

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”

มธุรินเห็นว่าอีกฝ่ายจะไม่ปัดความรับผิดชอบแน่นอนจึงยอมอ่อนลง ท่านคิดว่าจะกลับไปคุยให้เหมือนไหมตกลงปลงใจแต่งงานกับปฏิภาณให้ได้ จากนั้นจะเข้ามาคุยกับผู้ใหญ่ทางนี้อีกที

ยังไงมธุรินก็จะไม่มีทางให้ลูกสาวเสียหายโดยที่ไม่มีใครรับผิดชอบเป็นแน่!

“นี่แกไม่สงสารไหมบ้างเหรอวะ”

เพลิงพลเปิดประเด็นหลังจากกลับมาแล้วรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับน้องชายและเหมือนไหมผ่านคำบอกเล่าของบุพการีและคุณย่าสุดที่รัก เขาถูกไหว้วานให้จัดการหาตัวการที่แอบถ่ายภาพอีกทั้งยังต้องคอยจับตาและเฝ้าระวังว่าจะมีคนปล่อยภาพหลุดออกไปหรือไม่…ซึ่งเขาก็รีบรับปากด้วยความเต็มใจและบอกพวกท่านว่าไม่ต้องเป็นห่วง ธีธัชนั้นมีสายมากมาย คอยจัดการปัญหา ‘ด้านมืด’ ให้เขาเสมอ เรื่องแค่นี้ไม่เป็นปัญหาเลย

เมื่อชายหนุ่มรับปากเช่นนั้นแล้ว ผู้ใหญ่ในครอบครัวก็เบาใจขึ้นมาก

ความจริงบรรยากาศบนโต๊ะอาหารในวันนี้ก็ไม่แย่นัก แต่ทุกคนสังเกตได้ว่าปฏิภาณดูจะเงียบจนผิดปกติ ดังนั้นเสือทั้งห้าจึงปิดห้องคุยกันในคืนนี้

ปกติแล้วพวกเขาจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกันสักเท่าไหร่ อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปฏิภาณไปนอนกับผู้หญิง เพราะน้องชายคนเล็กของพวกเขาเป็นเพลย์บอยพอตัว แต่พวกเขาก็เห็นเหมือนไหมมาตั้งแต่เธอใส่ชุดนักศึกษามาฝึกงานในบริษัทของปฏิภาณ…แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้ว่าเธอเป็นเด็กดี สดใส น่ารัก และไม่ใช่ผู้หญิงที่ปฏิภาณจะคบเล่นๆ หรือได้มาแล้วทิ้งๆ ขว้างๆ

“เออ! ได้ข่าวว่าน้องเขาโดนแม่ดุจนเกือบจะร้องไห้อยู่แล้ว” พิชญะเห็นด้วยกับพี่ชายคนโต “ไม่รู้ว่ากลับบ้านไปจะเจออะไรบ้าง ท่าทางคุณแม่ดุอย่างกับเสือจนฉันยังขยาดแทน แล้วไหนจะต้องมาระแวงเรื่องรูปหลุดอีกล่ะ”

“เรื่องรูปน่ะฉันบอกธีธัชจัดการให้แล้ว คงพอจะหายกังวลได้บ้าง อีกอย่างคนที่แอบถ่ายไว้ก็คงไม่กล้าปล่อยรูปมั่วซั่วหรอก เพราะถูกฟ้องขึ้นมาก็เสียหายหนักอยู่ เดี๋ยวนี้คนเขาก็จริงจังเรื่อง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์กันมากขึ้นแล้ว” เพลิงพลอธิบายก่อนจะเตือนด้วยความเป็นห่วง “แล้วแกก็ไม่ต้องไปเรียกพนักงานมาถามทีละคนนะ ไม่อย่างนั้นเรื่องอาจจะไปกันใหญ่ จากตอนแรกไม่มีใครรู้จะกลายเป็นว่าไปป่าวประกาศเสียเอง ค่อยๆ สืบและดูท่าทีแต่ละคนไปดีกว่าว่าใครน่าสงสัย”

“ผมรู้แล้วน่า”

ปฏิภาณถอนหายใจ ที่จริงเขาเองก็ยังมึนงงกับสถานการณ์ต่างๆ ไม่หายตั้งแต่จู่ๆ ก็ถูกอรรัมภาบอกเลิก แถมยังเจ็บใจมากที่ถูกเธอหักหลัง แต่เท่านั้นยังไม่พอ…เขายังตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกับเหมือนไหมแล้วแม่เธอก็เข้ามาเจอเข้าอีก

ไม่รู้ว่าหลังจากสติดับวูบไปเกิดอะไรขึ้นบ้างและพนักงานคุยกันว่ายังไงที่เจ้าของปาร์ตี้อย่างปฏิภาณหายไปจากงานอย่างกะทันหัน แต่ที่รู้แน่ๆ คือ…เหตุการณ์เมื่อเช้าคงทำให้พนักงานเข้าใจไปแล้วว่าที่เมื่อคืนเขาไม่ได้กลับเข้าไปปาร์ตี้เพราะไป ‘นอน’ กับเหมือนไหม

ต่อให้ทั้งสองคนจะไม่มีอะไรกันจริงๆ และพยายามอธิบายแค่ไหน แต่การที่ทั้งคู่ตื่นมาบนเตียงเดียวกันในสภาพนั้น…มันก็ยากที่คนอื่นจะเชื่อว่าเขากับเธอยังไม่ได้มีอะไรกัน

ปฏิภาณไม่รู้ว่าจะจัดการกับแต่ละปัญหายังไงดี มันเหมือนกับว่าทุกอย่างประเดประดังเข้ามาในคราวเดียวกัน เขายังจัดการกับความรู้สึกกับเรื่องหนึ่งไม่ได้ก็เกิดปัญหาใหม่ขึ้นแล้ว ยังดีที่เพลิงพลรับปากว่าจะช่วยหาต้นตอของภาพถ่ายและเฝ้าระวังเรื่องภาพหลุดทำให้เขาพอจะเบาใจในเรื่องนี้ได้บ้าง

“น้องเขายังใสๆ อยู่เลย แกจูบน้องเขาทีเดียวก็เสียขวัญแล้ว นี่ยังตื่นขึ้นมาบนเตียงกับแกอีก รู้ตัวมั้ยว่าแกโคตรทำลายอนาคตน้องเขาเลย ถ้าปัดความรับผิดชอบนี่บอกตรงๆ ว่าโคตรชั่ว”

“พี่พิชญ์! ด่าผมเหมือนก่อนแต่งงานตัวเองถือพรหมจรรย์เลยนะ ได้ข่าวว่าก็ใช้กระบี่ฟาดฟันไม่เลือกหน้าเหมือนกัน จนครั้งหนึ่งเกือบจะถูกคุณเทียนจับเข้าคุกไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

ปฏิภาณพูดใส่หน้าพี่ชาย (อดีต) จอมเจ้าชู้ที่ฉวยโอกาสนี้ด่าเขาแทบไม่มีดีทำให้พิชญะถึงกับพูดไม่ออกเพราะน้องชายด่าได้ถูกจุดพอดี…ในอดีตเขาเองก็เจ้าชู้พอตัวและเข้าใจผิดคิดว่าปลายเทียนเป็นคู่ขาที่ลูกน้องจัดมาให้จนเกือบจะปล้ำเธอ แล้วปลายเทียนก็แสบมากที่แจ้งตำรวจมาจับเขาถึงบ้าน

ยังดีที่ทั้งสองฝ่ายเคลียร์กันได้ เขาถึงไม่ได้ไปนอนตบยุงอยู่ในคุก แล้วหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ต่างๆ มากมายจนทำให้เขาและเธอรักกันอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ยังไงก็เถอะ! ต่อให้พิชญะจะมีอดีตที่ไม่ค่อยบริสุทธิ์ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะสั่งสอนน้องชายตัวเองไม่ได้นี่นา

“แต่ฉันก็เห็นด้วยกับไอ้พิชญ์มันนะ” ปฏิพรรธณ์พูดขึ้นบ้าง

คราวนี้ปฏิภาณเถียงไม่ออกเพราะพี่ชายคนนี้เป็นคนดีศรีสยาม แถมยังรักเดียวใจเดียว มีความรักที่มั่นคงต่อขวัญชีวาทั้งๆ ที่ต้องเฝ้ามองเธอนานนับสิบปี แต่ก็ไม่เคยเปลี่ยนใจไปหาผู้หญิงอื่น

“แล้วจะให้ผมทำยังไงวะ ผมก็บอกไปแล้วว่าแล้วแต่ผู้ใหญ่จะให้ทำยังไง มันไม่ใช่ว่าผมจะปฏิเสธหรือไม่รับผิดชอบสักหน่อย” ปฏิภาณอธิบายความรู้สึกของเขา “สงสารน้องเขาผมก็สงสารอยู่หรอก แต่ถ้าแต่งงานกันไปแล้วมันอยู่กันไม่ยืด…ก็ไม่ใช่ไหมเหรอที่จะเสียหายกว่าใคร”

“ที่นายพีคพูดก็ถูก” ปฏิรัฐเห็นด้วย แต่ก็เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เขาจึงพูดต่ออย่างใจเย็น “แต่ทำไมนายถึงคิดว่าจะอยู่กันไม่ยืดทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงานกันเลยล่ะ”

“จะไปอยู่กันยืดได้ยังไง ผมกับไหมยังไม่เคยคบกันเลย”

“ยังไม่ได้คบก็ไม่ได้หมายความว่าคบกันไปแล้วจะไม่รอดนะ”

“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคบกันไปแล้วมันจะรอดด้วย…ใช่มั้ยล่ะพี่พรีม” ปฏิภาณย้อนถามปฏิรัฐกลับไป “ผมคบกับภามาตั้งสองปียังเลิกกันได้เลย”

คราวนี้พี่ชายทั้งสี่คนมองหน้ากันเพราะรู้ว่าน้องคนเล็กอาจกำลังเสียใจ

“เร็วจนงงไปเลยนะ” พิชญะพูดเสียงอ่อนลง

“เมื่อคืนนี้เลย สดๆ ร้อนๆ เพราะเลิกกับภานี่แหละผมก็เลยดื่มจนเมาหนัก แล้วมันก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายตามมา”

ปฏิภาณถอนหายใจอีกรอบ ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องอรรัมภาจะไม่น่าปวดหัวเท่าเรื่องของเหมือนไหมแล้ว ชายหนุ่มยอมรับว่าเขายังเจ็บใจและแค้นใจที่อดีตคนรักหักหลัง

แต่น่าแปลก…ที่เขากลับไม่เจ็บปวดเพราะถูกบอกเลิกสักเท่าไหร่

“แล้วทำไมถึงเลิกกัน อาทิตย์ที่แล้วนายเพิ่งบอกว่าภาอยากแต่งงานกับนายไง”

“นั่นมันอาทิตย์ที่แล้วไงพี่พรรธณ์ หึ! ภาคงรอผมไม่ไหวแล้วมั้ง เธอก็เลยบอกเลิกผมเพื่อจะไปคบกับคนอื่น” ปฏิภาณเหยียดยิ้มหยันด้วยก่อนจะระบายความแค้นใจ “ที่จริงก่อนจะเลิกกัน เธอก็แอบคุยกับคนอื่นมาก่อนแล้ว พอมั่นใจว่าจะไปกับคนนั้นรอดแน่ๆ ถึงได้มาบอกเลิกผม ที่หาเรื่องทะเลาะกับผมบ่อยๆ ก็เพื่อจะได้มีข้ออ้างในการเลิกกัน แล้วตัวเองก็จะดูไม่ผิดที่นอกใจผมไง ผู้หญิงสมัยนี้…แม่ง”

“อย่าไปเหมารวมขนาดนั้น ผู้หญิงดีๆ สมัยนี้ก็มีถมเถไป” ปฏิรัฐแย้ง แต่เขาก็พอรู้ว่าปฏิภาณไม่ได้มองผู้หญิงทุกคนในแง่ร้าย เพียงแต่ระบายความแค้นใจที่มีต่ออรรัมภาเท่านั้น

“ถ้าเลิกกันแล้วก็ไม่มีอะไรต้องลังเลอีก แต่งงานกับเหมือนไหมซะ!”

เพลิงพลสรุปหลังจากนิ่งฟังน้องชายอยู่นาน ปกติพวกเขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะเอาผู้หญิงมานินทา แต่ปฏิภาณคงเจ็บใจมากที่ถูกหักหลังถึงได้ระบายให้พวกเขาฟังซึ่งเพลิงพลก็เข้าใจว่าเป็นใครเจอแบบนี้ก็ต้องแค้นใจทั้งนั้น มันหมดยุคหมดสมัยแล้วที่พอผู้หญิงทำร้ายผู้ชายแล้วจะลอยนวลไปเฉยๆ

ถ้าเป็นเขาล่ะก็…เรื่องไม่จบง่ายๆ แน่

“นายกับภาอาจเข้ากันไม่ได้ถึงได้เลิกกัน แต่กับไหม…บางทีอาจไปกันได้สวยก็ได้นะ” ปฏิรัฐแนะนำอย่างผู้มีประสบการณ์ “บางทีคบกันสั้นๆ อาจจะไปกันยืดกว่าคบนานๆ ก็ได้”

“ผู้มีประสบการณ์ตรงเขาแนะนำก็ฟังไว้” ปฏิพรรธณ์ว่า

ความรักของปฏิรัฐกับคณานางค์ก็เป็นอีกเรื่องที่พวกเขาชื่นชม เพราะแม้จะคบหากันก่อนแต่งงานไม่นาน แต่ระหว่างทางก่อนที่จะลงเอยกันก็พิสูจน์แล้วว่าทั้งสองคนรักกันมากแค่ไหน

“ปกติแกกับไหมก็เข้ากันได้ดีออกไม่ใช่เหรอ”

พิชญะเห็นด้วย เขาอาจไม่ได้เจอปฏิภาณอยู่กับเหมือนไหมบ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่แวะไปเยี่ยมน้องชายที่บริษัทก็เห็นว่าทั้งสองคนดูมี ‘เคมี’ ที่เข้ากันได้ดี

อย่าหาว่าอวยเลย แต่เขาคิดว่าปฏิภาณกับเหมือนไหมดูเข้ากันได้ดีกว่าอรรัมภาเสียอีก

“ถ้าตามประสาพี่น้องและเพื่อนร่วมงานล่ะก็ใช่”

ปฏิภาณยอมรับ ที่ผ่านมาแม้ว่าเขากับเหมือนแพรจะเคยมีอดีตที่ไม่สวยงามนัก สิ่งที่เธอเคยทำไว้ยังทำให้เขารู้สึกแย่ แต่เขากับเหมือนไหมกลับมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันอย่างไม่น่าเชื่อ

เขาวางเธอในฐานะน้องรหัสที่น่ารักจึงให้ความเอ็นดูเธอในฐานะน้องสาวเสมอมา

“แล้วทำไมไม่เคยคิดจะพัฒนาให้ไกลกว่านั้นล่ะ ไหนๆ แกก็โสดแล้ว แถมตอนนี้ยังมาเกิดเรื่องแบบนี้อีก…ก็ถือโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ไปด้วยเลยสิ” เพลิงพลยุยง

“จะว่าไปน้องไหมก็น่ารักดีนะเว้ย หน้าตาแบบนี้สเป็กแกเลยไม่ใช่หรือไง”

พิชญะผลักไหล่ปฏิภาณเบาๆ คำพูดนั้นทำให้ความคิดของชายหนุ่มหวนไปนึกถึงภาพของเหมือนไหมจากเหตุการณ์เมื่อเช้านี้…ปฏิภาณรู้มานานแล้วว่าเหมือนไหมเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่ง แต่เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเพราะวางสถานะเธอเป็นเพียงน้องสาวมาโดยตลอด

เหมือนไหมมีใบหน้านุ่มนวลอ่อนหวาน จมูกโด่งรั้นอย่างคนเอาแต่ใจนิดๆ เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวยของเธอทำให้เธอดูโดดเด่น ดวงตากลมโตหวานซึ้งที่เป็นประกายสดใสคู่นั้นก็ให้ทั้งความรู้สึกน่าเอ็นดูและเซ็กซี่ในเวลาเดียวกัน ริมฝีปากสีแดงระเรื่อโดยธรรมชาติก็อิ่มเต็มน่าสัมผัส

ยิ่งกว่านั้นเธอยังมีรูปร่างที่เย้ายวนใจ ดูออดอ้อนอรชรน่าทะนุถนอม เพราะถึงจะสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตร แต่ก็ยังตัวเล็กกว่าเขานับยี่สิบเซนติเมตรเห็นจะได้…ผิวพรรณเธอผุดผ่องใสจนน่าประทับริมฝีปากลงไป แต่…ปฏิภาณต้องหยุดความคิดเอาไว้แค่นั้นก่อนที่เขาจะเคลิ้มไปตามคำยุยง

มีสติหน่อยสิวะ!

ชายหนุ่มเรียกสติตัวเองกลับมา แค่พวกนี้พากันยุยงส่งเสริม เขาจะเคลิ้มจนคิดอกุศลกับน้องสายรหัสเดียวกันไม่ได้เด็ดขาด อีกอย่างเขาก็ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องของเขากับเหมือนแพรด้วย

เขากับเหมือนไหมเป็นพี่เป็นน้องกันมันก็ดีอยู่แล้ว!

“ไม่ต้องมายุผมเลย พี่ก็รู้ว่าทำไมผมถึงต้องห่างไหมเอาไว้”

“เรื่องแพรเหรอ…พี่ก็ส่วนพี่ น้องก็ส่วนน้องสิ”

ปฏิพรรธณ์แสดงความคิดเห็นได้โดยที่ปฏิภาณไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม เพราะพวกเขาต่างรับรู้ว่าปฏิภาณกับเหมือนแพรมีอดีตร่วมกันยังไงบ้าง…ยังดีที่ปฏิภาณแยกแยะได้ ไม่ได้แค้นเหมือนแพรจนพาลมาโกรธเหมือนไหมไปด้วย แต่…หากจะให้แยกแยะจนถึงขั้นมาคบกับเหมือนไหมทั้งๆ ที่มีอดีตเลวร้ายกับเหมือนแพรมาก่อน ปฏิภาณก็ยอมรับตรงนี้ว่าเขายังใจไม่กว้างถึงขนาดนั้น

“ที่สำคัญคือแกต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น แกทำให้น้องเขาเสียชื่อเสียงแล้ว ถึงจะไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ แต่เพื่อรักษาเกียรติของผู้หญิงคนหนึ่ง แกต้องทำหน้าที่สุภาพบุรุษหน่อยสิวะ” เพลิงพลวกเข้าประเด็นสำคัญ เขาคิดว่ายังไงปฏิภาณก็ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ตามที่มธุรินต้องการ

“ที่จริงน้องไหมก็คุณสมบัติดีไม่แพ้อดีตแฟนแกเลยนะ ทั้งสวย น่ารัก นิสัยดี ทำงานก็เก่ง อาจจะไม่รวยเท่า แต่ก็ไม่เห็นต้องแคร์ ฉันว่าไหมดูเข้าท่ากว่าภาตั้งเยอะ” พิชญะเห็นด้วย

“ฉะนั้นก็รับผิดชอบน้องเขาซะ อย่าทำให้ชีวิตของผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งต้องแปดเปื้อน” เพลิงพลย้ำ

“โห! คนที่มันทิ้งเมียไปเกือบสามปีมีสิทธิ์มาสั่งคนอื่นให้รับผิดชอบผู้หญิงด้วยเหรอ” ปฏิภาณหมั่นไส้พี่ชายคนโตที่สั่งสอนเขาเป็นวรรคเป็นเวรเหมือนลืมไปว่าตัวเองเคยทำอะไรไว้บ้าง

“ไอ้พีค! ไอ้น้องเวร!” เพลิงพลอยากจะบีบคอน้องชายขึ้นมาดื้อๆ “ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดโว้ย! เรื่องฉันกับหนิงมันซับซ้อน ที่สำคัญฉันกับหนิงก็แต่งงานกันแล้ว และฉันรักลูกรักเมียมาก อย่าไปพูดอย่างนี้ให้หนิงได้ยินนะ ถ้าเมียฉันรำลึกความหลังแล้วโกรธขึ้นมา ฉันบีบคอแกตายคามือแน่ ไอ้น้องเลว!”

“โห! มาเป็นชุดเลยนะ กลัวจะมีเรื่องกับเมียจนถึงขั้นขู่จะฆ่าน้องเลยเหรอ” ปฏิภาณแขวะไม่เลิก “รักษาภาพลักษณ์มาเฟียหน่อย ถ้าคนนอกรู้เข้าว่ามาเฟียกลัวเมียมันจะดูไม่น่าเกรงขาม”

“พ่อบ้านใจกล้าชัดๆ” ปฏิรัฐยิ้มขำ

“จ้าาา ไอ้พวกคนไม่กลัวเมีย ไอ้คนมีอำนาจในการปกครองเมียทุกอย่าง” เพลิงพลประชดทุกคนที่ล้อเลียนเขา เพราะต่างรู้กันดีว่าเสือร้ายทั้งสี่ต่างอยู่ใต้อาณัติของภรรยามากแค่ไหน

ทุกคนต่างรอดูอยู่ว่าหากปฏิภาณแต่งงานไปแล้วจะมาเข้าแก๊งเดียวกันไหม

“สรุปว่าพวกเราสี่คนเห็นว่านายควรจะรับผิดชอบเหมือนไหมนะ” ปฏิรัฐวกเข้าประเด็นก่อนที่ทุกคนจะกัดกันจนเสียเรื่องทำให้ทุกสายตาหันไปมองปฏิภาณและโฟกัสเรื่องสำคัญต่อ

“ผมไม่ได้ปัดความรับผิดชอบนะ แต่…ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของไหม”

ปฏิภาณสรุปความคิดของเขาเช่นกัน หากเหมือนไหมอยากแต่งงานเพื่อปกป้องชื่อเสียงตนเองจริงๆ ไม่ได้แค่ทำตามที่มธุรินสั่ง เขาก็จะยอมแต่งงานกับเธอตามคำเรียกร้อง

คราวนี้พี่ชายทั้งสี่คนถึงกับมองหน้ากันอย่างหนักใจ พวกเขานึกไม่ออกเลยว่าคู่นี้จะลงเอยกันยังไง เพราะต่อให้แต่งงานกันไปแล้วเรื่องก็คงไม่จบอย่างมีความสุขง่ายๆ แน่

พวกเขาได้แต่ภาวนาว่า…ขอให้ปฏิภาณอย่าทำร้ายจิตใจเหมือนไหมนักเลย

 

(ตอนต่อไปพบกันวันที่ 28 มีนาคม)

หน้าที่แล้ว1 of 6

Comments

comments

Jamsai Editor: