ไลฟ์สไตล์
3 คดีพิศวงในตำนาน ที่ถูกเล่าขานในปัจจุบัน
ในโลกนี้เคยมีคดีต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคดีอาชญากรรม ฆาตกรรม ปล้นชิงทรัพย์ และคดีอื่นๆ อีกมากมายแต่เราไม่สามารถรู้เลยว่า คดีเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และพวกเขาทำไปเพื่ออะไร สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้หน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะตำรวจ CSI หน่วยพิสูจน์หลักฐาน หน่วยชันสูตร ที่กำลังสืบค้นความจริงของคดีเหล่านี้ และต่างพยายามค้นหาคำตอบ วิธีการแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นอีก
วันนี้เลยหยิบยกตัวอย่างคดีพิศวงที่เกิดในต่างประเทศ และหาคำตอบไม่ได้ ว่าแต่จะมีคดีอะไรบ้างนั้น พวกเขาทำแบบนั้นทำไม ไปค้นหาความจริงกันเลย!
แจ๊กเดอะริปเปอร์ ?
(ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://mix.com)
ไม่มีใครไม่รู้จักเขา! แจ๊กเดอะริปเปอร์ (Jack the Ripper) สมญานามของฆาตรกรต่อเนื่องที่ฆ่าผู้คนในย่านสลัม ‘ไวต์ชาเปล’กรุงลอนดอน ในช่วงครึ่งปีหลังของ ค.ศ. 1888 ส่วนใหญ่แล้วเหยื่อจะเป็นหญิงโสเภณี แต่ทำไมฆาตกรอย่างเขาถึงได้โด่งดังนั้นเป็นเพราะเขาไม่เคยถูกจับได้เลยสักครั้ง ตั้งแต่เขาก่อคดีมามากมาย เหยื่อส่วนใหญ่ถูกฆาตกรรมที่สวนสาธารณะหรือกึ่งสาธารณะอย่างโหดเหี้ยม ไม่ว่าจะเป็นฆ่าเหยื่อโดยการปาดคอ ผ่าท้องควักไส้ออกมา ฯลฯ ที่สำคัญมีข่าวรายงานว่ายังไม่มีใครเคยเห็นหน้าตาของแจ๊กเดอะริปเปอร์เลยด้วยซ้ำ แม้กระทั่งตอนลงมือก็ไม่เคยมีใครได้ยินเสียงอะไรเลย ว่ากันว่าฆาตรกรรู้จักพื้นที่นี้ดี และมุ่งเป้าหมายไปที่ผู้หญิงหากิน เนื่องจากเหยื่อประเภทนี้จะอยู่ตามตรอกหรือซอยที่เงียบๆ จนวันหนึ่งเขาได้หยุดการกระทำอันหฤโหดนี้ และทิ้งเป็นปริศนาไว้ว่าเขาคือใคร ทำไมถึงโหดเหี้ยมเช่นนี้ แล้วทำไปเพื่ออะไร? คดีของแจ๊กเดอะริปเปอร์ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความก้าวหน้าในเทคนิคการสอบสวนและในทางนิติเวชศาสตร์มากที่สุด เรียกได้ว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญ สยดสยอง และเป็นอุทาหรณ์ในหลายๆ เรื่องเลยทีเดียว
ฆาตกรจักรราศี ⚫️
(ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://interestingengineering.com )
ฆาตกรจักรราศี (The Zodiac Killer) สวมชุดสีดำแบบเพชฌฆาต สวมหมวกสีดำคลุมใบหน้า และสวมแว่นตากันแดด บนหน้าอกมีรูปวงกลมสีขาวมีกากบาทตรงกลาง เรื่องมีอยู่ว่า วันหนึ่งในปี 1968 ที่ทะเลสาบเบอรีเอสซา ทางแถบซานฟรานซิสโก มีวัยรุ่นหนุ่มสาวที่กำลังพลอดรักกันในรถ จากนั้นก็มีใครบางคน ชักปืนออกมายิงทั้งคู่จนดับอนาถ ฆาตกรได้ส่งจดหมายไปยังกรมตำรวจ ซึ่งในจดหมายประกอบไปด้วยรหัสลับสี่ชุด และสามในสี่ชุดนี้ยังไม่มีบุคคลใดถอดรหัสนั้นได้ ซึ่งรหัสนั้นกลับเป็นสัญลักษณ์จักรราศีนั่นเอง ว่ากันว่าสัญลักษณ์ 17 ตัวสุดท้ายของจดหมายนั้น คือ ชื่อของเขา แต่ก็ไม่มีใครถอดได้ และเขายัง คงลอยนวล ตราบจนทุกวันนี้ … จนเรื่องของฆาตกรจักรราศีนั้นถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย โดยมีชื่อเรื่องว่า โซดิแอก ตามล่า รหัสฆ่า ฆาตกรอำมหิต (Zodiac) ถ้าอยากรู้เรื่องราวเป็นอย่างไร ลองไปหามาชมในแบบฉบับภาพยนตร์กันก่อนนะ…
รถไฟทะลุมิติ นานถึง 42 ปี ?
(ขอขอบคุณรูปภาพจาก http://bizarre-3.blogspot.com )
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี เนื่องจากรถไฟ เอฟ 626 ได้หายลึกลับไปนานถึง 42 ปี และได้โผล่กลับมาอีก พยานที่เห็นเหตุการณ์ครั้งนี้เผยว่า ตั้งแต่เริ่มขบวนรถด่วนนี้มีด้วยกัน 13 โบกี้ และได้หายเข้าไปในอุโมงค์… รถไฟมีความยาว 1 ใน 4 ไมล์ หายไปอย่างลึกลับในปี 2492 และไม่ยอมโผล่ไปอีกทาง เจ้าหน้าที่จึงปิดอุโมงค์เพื่อทำการค้นหา ทั้งตำรวจและนักวิทยาศาสาตร์ต่างได้ทำการค้นหาทุกตารางนิ้ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยเลยแม้แต่น้อยว่ามันหายไปได้อย่างไร จนกระทั่งในปี 2535 จู่ๆ ก็โผล่ออกมาในสภาพเดิมทุกอย่าง และที่ประหลาดไปกว่านั้นคือ ผู้โดยสารทุกคน มีอายุเท่ากับวันที่หายไป ไม่มีใครแก่ขึ้นเลยสักคน โดยที่คนรอบข้างพวกเขาต่างมีอายุมากขึ้นไปแล้ว โดยนักข่าวได้ไปขุดค้นหาคำตอบจากปากผู้โดยสารในนั้นว่า “ขณะที่ขบวนรถไฟได้เคลื่อนเข้าไปในอุโมงค์ ก็เริ่มมีหมอกสีขาวหนาลอยฟ่อง สมองเริ่มรู้สึกปั่นป่วนไปหมด จากนั้นก็หมดสติไม่รู้สึกตัว มาได้สติอีกทีตอนขบวนได้ออกจากอุโมงค์แล้ว” และผู้โดยสารคนอื่นๆ ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันหมด เรื่องนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อกันแล้ว
ในคืนฝนตกคืนหนึ่งจตุรภัทรได้ขับรถด้วยความเร็วสูง ระหว่างทางเขาได้ขับปาดซ้ายแซงขวามากับรถกระบะคันหนึ่ง และเมื่อเริ่มบันดาลโทสะกับการขับรถของคู่กรณีอยู่นั้นก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขี่สวนมาบนท้องถนนในความมืด รถเก๋งของจตุรภัทรแซงข้ามเลนเพื่อจะปาดหน้ารถกระบะแล้วในทันใดนั้นเขาก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อรถของตัวเองชนเข้ากับมอเตอร์ไซค์ ความเห็นแก่ตัวและต้องการเอาตัวรอดก็ชนะ จตุรภัทรไม่ได้ลงไปตรวจดูที่ท้องร่องข้างถนนให้ดีว่ารถของกิติมาถูกชนจนกระเด็นลงไปตรงนั้น เธอนอนบาดเจ็บอยู่คนเดียวลำพังจนขาดใจตายในที่สุด ครอบครัวของผู้ตายมีเพียงบิดากับอธิพล แฟนหนุ่มที่กำลังจะแต่งงานกันอีกไม่นาน เมื่อทั้งสองทราบข่าวการเสียชีวิตของเธอ ต่างก็เศร้าโศกเป็นอย่างมาก และฝากฝังให้ลือชาพยายามตามตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ จตุรภัทรคิดดีแล้วว่าคนที่สามารถจะช่วยเหลือเขาลบความผิดที่เกิดขึ้นได้อย่างหมดจดนั้นก็คือกัมปนาท เพราะนายตำรวจใหญ่ประจำอยู่ที่ภูธรภาค 1 ซึ่งกำกับดูแลพื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย เขาจึงขอนัดพบกับกัมปนาทเพื่อขอร้องให้ช่วย โดยที่ตนเองต้องสูญเสียเงินรางวัลก้อนโตให้ บิดาของกิติมาไม่อาจทนความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนเดียวไปได้ เขาจึงล้มป่วยลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา อธิพลจึงต้องพึ่งอำนาจนอกกฎหมายในการลงโทษคนผิด กลุ่ม Satan เลือกปล่อยคลิปวิดีโอบันทึกการกระทำผิดของคนในครอบครัวจตุรภัทรในที่สาธารณะ คดีคลิปวิดีโอประหลาดถูกส่งมายังหน่วยสืบสวนสอบสวนซึ่ง NIC เข้าไปเกี่ยวข้อง หัสยุทธและพรรคพวก ต้องช่วยกันตามหาเบาะแส!
พอพูดถึงคดีเหล่านี้ก็ทำให้นึกถึงนิยายเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเรื่อง ‘เจรจาต่อ-ตาย’ นิยายแนวสืบสวนสอบสวน ที่พาทุกคนไปสืบหาความจริงไปพร้อมกันกับพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์อาชญากรรม ปล้นชิงทรัพย์ ฆาตกรรม หรือแก๊งมาเฟียต่างๆ นิยายเรื่องนี้มีทั้งความสนุก มัน เข้มข้น ของตัวละครและเนื้อเรื่อง และยังสะท้อนให้เห็นถึงคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ ใครอยากอ่านนิยายเรื่อง‘เจรจาต่อ-ตาย’ สามารถไปช็อปได้ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ, Jamclub หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ JamShop